สธ.เผยผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา เจ็บ 53 อพยพ 2 แสนคน

กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ดำเนินมากว่า 7 วัน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านสุขภาพกายและจิตใจ พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือทั้งในโรงพยาบาลและศูนย์พักพิงชั่วคราว

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า มีพลเรือนบาดเจ็บรวม 53 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บสาหัส 12 ราย ปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย โดยทั้งหมดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใน 4 จังหวัดชายแดน คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ขณะนี้ 13 รายหายดีและกลับบ้านแล้ว

ยอดผู้ป่วยจากเหตุสู้รบที่เข้ารับการดูแลในโรงพยาบาล 34 แห่ง รวมทั้งสิ้น 744 ราย กระจายอยู่ใน 7 จังหวัดชายแดน โดยมากที่สุดคือสุรินทร์ 322 ราย รองลงมาคือศรีสะเกษ 204 ราย และบุรีรัมย์ 85 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยสุขภาพจิตและผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรวม 84 ราย

สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด สระแก้ว และจันทบุรี มีการตั้งจุดพักพิงรวม 767 จุด รองรับผู้อพยพกว่า 193,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ 3,402 คนต่อวัน

ด้านผลกระทบด้านสุขภาพจิต พบประชาชนมีภาวะความเครียดสูงและเสี่ยงฆ่าตัวตายรวม 742 คน จากการคัดกรองทั้งหมดกว่า 21,000 คน โดยสุรินทร์พบผู้มีภาวะเครียดสูงมากที่สุดถึง 349 คน รองลงมาคือศรีสะเกษ 51 คน และบุรีรัมย์ 154 คน ซึ่งทุกกรณีได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ นักจิตวิทยา และหน่วย MCATT อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ โฆษก สธ. ยังระบุว่า โรงพยาบาลได้รับความเสียหายจากเหตุยิงถล่มรวม 20 แห่ง ปิดบริการทั้งหมด 11 แห่ง ปิดบางส่วน 9 แห่ง ขณะที่ รพ.สต. เสียหายถึง 144 แห่ง โดยเฉพาะที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้รับความเสียหายรุนแรงหลายอาคาร รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ส่วนในอุบลราชธานี ตราด บุรีรัมย์ และสระแก้ว ไม่พบความเสียหายของสถานพยาบาล

โฆษกกระทรวงสาธารณสุขยังเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้แสดงความห่วงใยประชาชน พร้อมขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและดีที่สุด เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบทั้งทหารและพลเรือนอย่างเต็มกำลัง