บิ๊กตู่ ซึ้ง ชาวอัมพวาแห่ให้กำลังใจ บอก "นายกไม่ได้สู้คนเดียว"

บิ๊กตู่ ซึ้ง ชาวอัมพวาแห่ให้กำลังใจ บอก “นายกไม่ได้สู้คนเดียว” รองเจ้าคณะอำเภอให้ตะกรุดคุ้มครองภัย

เวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บ้านคลองวัว หมู่ที่ 5 หมู่บ้านคลองวัว ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการดำเนินกิจกรรมของหมู่บ้านรางวัลพระราชทานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข โดยทันทีที่เดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชนและเด็กนักเรียนที่มารอต้อนรับ โดยมีชาวบ้าน ตะโกน”ลุงตู่สู้ๆ” ขณะที่ช่วงหนึ่งพระครูพิศิษฏ์ ประชานาถ(หลวงพ่อแดงนันทิโย) เจ้าอาวาสวัดอินทาราม รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา มอบตะกรุดจันทร์เพ็ญ (หลวงพ่อแดง นันทิโย) รุ่นปลดหนี้ รวยเหลือล้น ให้กับนายกรัฐมนตรีพร้อมกล่าวอวยพร ว่า ให้ปกป้องคุ้มครองภัยและให้ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เดินทางไปไหนปลอดภัยทั้งนั้น หลวงพ่อแดงมาให้กำลังใจแล้ว ไม่ต้องกลัวใครทั้งสิ้น ไม่ต้องกลัวภัยอันตราย พร้อมให้กำลังใจนายกฯว่า หลวงอายุ 71 ปียังสู้ นายกฯต้องสู้

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชน การแปรรูปกล้วยหักมุก การทำน้ำมันมะพร้าวอโวคาโด การทำมะพร้าวแปรรูปครบวงจร ก่อนเยี่ยมชมหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ระดับชุมชน โดยพิธีกรได้เปิดเพลงเดินตามรอยเท้าพ่อ และกล่าวต้อนรับผ่านหอกระจายข่าวว่า วันนี้เราได้ต้อนรับลุงตู่ ที่เป็นที่รักของพวกเรา ตัวจริงเสียงจริง ขอเชิญนายกฯ กล่าวกับประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนผ่านหอกระจายข่าว ว่า เป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่งที่ได้มาพบปะกับประชาชน เมื่อเช้านี้ได้กราบสักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ซึ่งได้อธิษฐานขอให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ยังมีสถานการณ์โควิด ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านด้วย เพราะอาจนำเชื้อจากที่อื่นเข้ามาได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้มาติดตามความก้าวหน้าและมาพูดคุยกับพวกเรา ซึ่งขณะนี้โลกเปลี่ยนไป ทุกคนจึงต้องเรียนรู้โซเชียลมีเดียที่มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องจากส่วนราชการ จึงต้องเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากการให้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลด้วยอยากให้ใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า ที่รัฐบาลกำลังเร่งสำรวจว่า แต่ละพื้นที่มีคนเท่าไหร่อย่างไร เพื่อช่วยเหลือได้ตรงเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ไปไหว้พระ เยี่ยมชม โฮมสเตย์ และการท่องเที่ยว รู้สึกดีใจที่หลายอย่างอยู่ในเกณฑ์รับได้ยังมีคนมาท่องเที่ยว ขอให้คนไทยเที่ยวไทย โดยเฉพาะวันนี้มีโครงการคนละครึ่ง ขณะเดียวกัน ขณะนั้น พิธีกรได้กล่าวกับนายกว่า มีแม่ค้าและชาวบ้านฝากมาถามกันจำนวนมากว่า โครงการคนละครึ่งจะยังมีต่อหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันตรงนี้จะมีต่อทุกพื้นที่ประเทศไทยในเดือนมกราคมนี้ จะมีการขึ้นทะเบียนอีกครั้ง จึงให้มาลงทะเบียนรักษาสิทธิกันด้วย ที่สำคัญต้องไม่ขึ้นราคาข้าวของ เพราะมีการร้องเรียนมา และมีการตรวจสอบ ดังนั้น เคยขายเท่าไหร่อย่าขึ้นราคา ซึ่งรู้สึกดีใจในโครงการนี้ เพราะไม่ใช่ฝ่ายรับฝ่ายเดียวแต่ถือเป็นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย และยืนยันว่าโครงการดีๆ แบบนี้จะหาเพิ่มเติมให้อีกในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ระหว่างนั่งรถมาได้พูดคุยกับรัฐมนตรีมาตลอดว่า ทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสด้วยโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงอะไรต่างๆ ซึ่งโอกาสเกิดขึ้นด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน เกิดขึ้นด้วยกฎหมายที่ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน และต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ต้องมีความเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายแต่เป็นการดูแลคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยต้องดูแลให้ทั่วถึงมากกว่าเดิม จึงขอให้รวมกลุ่มให้เข้มแข็ง เพราะหากเป็นกลุ่มรายบุคคลรัฐบาลช่วยเหลือไม่ได้มากนัก วันนี้รัฐบาลกำลังส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่

อีกทั้ง หลายคนบอกอยากให้กระจายอำนาจ ซึ่งมีอยู่แล้วด้วยระเบียบ และเห็นหลายพื้นที่ทำได้ดีรู้ ความต้องการ รู้ปัญหาและอุปสรรค สิ่งสำคัญต้องเรียนรู้ระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะท้องถิ่น อบต. อบจ. ว่าการใช้งบประมาณ ต้องมีแผนระเบียบ ไม่ใช่เบิกแล้วได้เลยทั้งหมด จึงอยากให้ส่วนท้องถิ่นทำความเข้าใจ บางทีการใช้จ่ายทำไม่ได้เพราะแผนไม่ถูกต้อง ดังนั้น ท้องถิ่นต้องรู้ว่าทำแผนงานโครงการอย่างไรให้ถูกต้องขึ้นไป ไม่ขัดข้องถ้ามีเงินก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว หลายปีที่ผ่านมาใช้ไปมากพอสมควรและทำไปมากพอสมควร

ทั้งนี้ ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมชุมชนบ้านคลองวัว ว่า มีการบริหารจัดการหมู่บ้านที่ดีเยี่ยมเป็นชุมชนเข้มแข็ง จึงอยากให้มีชุมแบบนี้ทั่วประเทศ วันนี้ต้องเรียนรู้และกล้าเปลี่ยน ถ้าไม่เรียนรู้และทำแบบเดิมมีแต่จะถอยหลัง อีกทั้ง ต้องเรียนรู้ว่ารัฐบาลทำอะไรไม่ใช่ไม่ทำอะไรทำไปเยอะมาก สบายใจมีผู้นำแบบชุมชนนี้ ขณะเดียวกัน วันนี้ข่าวจากทุกสื่อต้องเปรียบเทียบอะไรเชื่อได้ไม่ได้ด้วยวุฒิภาวะ เพราะบางอย่างเสนอออกมาให้เกิดความขัดแย้ง ออกมาลบๆ หมด ก็ไม่เข้าใจ ทำประเทศเดินหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยัน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะผู้นำรัฐบาลและรัฐบาล

โดยเมื่อพูดถึงช่วงนี้พิธีกรได้กล่าวว่า ชาวบ้านที่นี่ฝากบอกกับนายกว่า วันนี้นายกไม่ได้สู้คนเดียว แต่พวกเราทุกคนสู้เคียงคู่กับท่านเป็นกำลังใจให้ นายกไม่ได้อยู่คนเดียวชาวบ้านทุกคนรักท่าน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า ขอบคุณมาก ทุกคนช่วยกันรักษาเอกลักษณ์ รักษาวิถีชีวิตความพอเพียง ซึ่งเป็นพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด

“ท่านบอกจะร่วมมือกับนายก ผมต้องร่วมมือกับท่านเพราะรัฐบาลไม่ว่าจะใครทำคนเดียวไม่ได้ การแก้ปัญหาต้องร่วมมือกันทุกมิติ ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย วันนี้ต้องกลับมาทบทวนดูอะไรดีอะไรจะเปลี่ยนแปลง ฝากกันขับเคลื่อนต่อไป ฝากถึงชาวสมุทรสงครามด้วย น่ารักทุกคนไม่ใช่เพราะมาเชียร์ผม แต่ได้เห็นความเข้มแข็ง ความรักสามัคคี และเห็นผู้นำเอาใจใส่ทุกระดับ ผมก็มีความสุขแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายรูปร่วมกับชาวบ้านเป็นที่ระลึกและก่อนเดินทางกลับก็มีชาวบ้านมาส่งขึ้นรถพร้อมตะโกนให้กำลังใจให้ นายกสู้ๆ นอกจากนี้ ก่อนเดินทางกลับเจ้าอาวาสวัดอินทราราม ยังมอบพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อโต วัดอินทราราม ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ซึ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย ขณะที่ชาวบ้านได้มอบส้มโอ พร้อมหมวกใบมะพร้าว ให้เป็นที่ระลึก

อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทางกลับ หลังร่วมถ่ายรูปกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามและคณะ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราพวกเดียวกันต้องเป็นน้ำเดียวกันให้ได้ อย่าคิดว่าเป็นพวกใครพวกมัน ขอบคุณมากทุกคน ขอให้เข้มแข็งต่อไป และชาวบ้าน ก็ตอบกลับว่าขอให้นายกฯ เข้มแข็งเช่นเดียวกัน ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะกล่าวว่า ประชาชนของเรา ประเทศไทยก็คือประเทศไทย ไม่เหมือนประเทศอื่นในโลก เราต้องช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง หันมาพูดคุยกันเพื่อให้เกิดการพัฒนา และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา แม้ส่วนตัวจะมีปัญหาในตอนนี้ก็ทำเต็มที่แล้ว ไม่มีใครแก้ปัญหาโดยลำพังคนเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทำเนียบฯ ได้มีลุงวัย 80 ปี มารอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า ตั้งใจจะมาต้อนรับ ทั้งนี้ ลุง ได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า เครียดอะไรหรือไม่ หนักใจอะไรหรือเปล่า โดยนายกรัฐมนตรี ตอบว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา ซึ่งชะตาเขาลิขิตไว้หมดแล้ว ไม่ได้หนักใจอะไร เราเชื่อมั่นในความดี

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่จังหวัดสมุทรสงครามในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยต้องจับตาท่าทีของนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีใช้บ้านพักหลังเกษียนอายุราชการในเวลา 15.00 น.