สุวรรณภูมิ เปิดตัว "ยักษ์" สวมหน้ากากอนามัย กระตุ้นคนไทยป้องกันโควิด

วันนี้ (14 ธ.ค.63) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน รณรงค์สวมหน้ากากและยกระดับมาตรการการป้องกันโควิด-19 ด้วยการรณรงค์ให้คนไทยสวมหน้ากากอย่างถูกวิธี การให้ความรู้ในการสร้างสุขอนามัยที่ดี ลดการสัมผัสจุดเสี่ยง ป้องกันโควิด 19 การให้ความรู้เรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล เมื่อโดยสารเครื่องบิน และรณรงค์สวมหน้ากากโดยใช้ "ยักษ์" ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาเป็นมาสคอต ภายใต้ชื่อ "ขนาดยักษ์..ยังใส่เลย" เพื่อกระตุ้นคนไทยให้สวมหน้ากากอนามัย

อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่มีผู้ติดเชื้อจากสนามบินที่คาดว่าติดเชื้อระหว่างที่อยู่ใกล้กันภายในสนามบินว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร้อยละ 80 จะไม่มีอาการ ซึ่งมาตรการการคัดกรองโดยเฉพาะวัดไข้และจุดต่างๆ ในสถานที่สาธารณะจะได้ผลในระดับหนึ่ง ซึ่งยังคงต้องใช้มาตรการอื่นๆควบคู่ไปด้วย

แต่การที่จะป้องกันที่ดีที่สุดนั้น ประชาชนจะต้องสำรวจตัวเอง ว่าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรือไม่ และต้องปฏิบัติตนโดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ จึงขอให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการล้างมือบ่อยๆ ยิ่งหากต้องไปในที่ผู้คนพลุกพล่านหรือที่ที่เป็นที่บริการสาธารณะ เช่น สนามบิน หรือสถานีขนส่งต่างๆ ยิ่งต้องล้างมือให้บ่อยมากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ด้วยการใช้ระยะเวลาในพื้นที่นั้นๆเท่าที่จำเป็น

สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของ covid-19 ภายในท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ ที่เมื่ออยู่ภายในอาคารผู้โดยสารและพื้นที่ท่าอากาศยาน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ได้แก่

1.การคัดกรองอย่างเข้มงวดโดยมีการจัดตั้งจุด terminal screening เพื่อตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่จะผ่านเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสารทุกคน

2.การปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่ที่ผู้โดยสารใช้บริการ

3.ผู้โดยสารผู้ใช้บริการรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร

4.จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในการโหลด aot airport application ก่อนการเดินทางทุกครั้ง

5.ให้ความสำคัญในการใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด โดยเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา หรือจากผู้ที่ทำงานภายในสนามบินสุวรรณภูมิแต่อย่างใด