ณ แผนกเครื่องเขียนในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีทั้งสมุดดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด อุปกรณ์ของใช้ในที่ทำงาน ขณะผมกำลังจะออกจากร้าน สายตาก็สะดุดกับชั้นวางกระเป๋าหนังที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ตกแต่งอย่างหรู ดูเผินๆก็รู้เลยว่าต้องใช้เงินก้อนซื้อ เหมือนหมามองเครื่องบิน ดูไปดูมากระเป๋ายี่ห้อนี้มันคุ้นๆจังวะ? พออ่านชื่อยี่ห้อก็ยิ่งชัดเลย... ...จาคอบ… จาคอบ เป็นชื่อของกระเป๋านักเรียนยอดฮิตตลอดกาล(ในยุค 90) หนังสีดำขลับดูมีชาติตระกูล ผมจำได้ว่าจาคอบขึ้นชื่อเรื่องความแพง ตอนเรียนอยู่ไม่เคยเห็นเลยว่ามันสวยบริเวณเหลี่ยมมุมไหน? รู้แต่ว่าอยากมีถือแบบคนอื่นเค้าบ้าง ในตอนนั้นมันราคา สามพันกว่าบาท!! จาคอบทำผมผงะด้วยราคาที่รุนแรงของมัน ไม่เข้าใจว่าตอนนั้นทำไมถึงให้ความสำคัญกับกระเป๋าที่ราคาแพงระยับได้ขนาดนี้ เราสนิทกับกระเป๋านักเรียนมานาน เริ่มตั้งแต่อนุบาล สมัยที่ยังไม่รู้ว่าอะไรสวยไม่สวย รู้แค่ว่าอันนี้แม่ยื่นให้ เราก็มีหน้าที่แค่รับมาและถือมันไปโรงเรียน กระเป๋านักเรียนที่ใช้ตอนอนุบาลนั้นจะเป็นรายโดราเอมอนของปลอมที่ซื้อแถวตลาดนัด หรือจะเป็นลายมิกกี้เมาส์ ของแท้จากห้างหรู ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่สามารถแยกแยะได้ เข้าใจว่ากระะเป๋านักเรียนคือบรรจุภัณฑ์ที่เราต้องใช้ชีวิตกับมันอยู่เกือบทุกวันเป็นเวลานาน ตั้งแต่อนุบาล ยันมหาวิทยาลัย เราต้องมีกระเป๋าหนึ่งใบสำหรับใช้ในสถานศึกษาเสมอ นับๆดูแล้วแต่ละคนอาจจะผ่านกระเป๋านักเรียนมาเป็นสิบๆใบกว่าจะเรียนจบ อาจเป็นใบที่มีรูปแบบซ้ำๆกันบ้างเท่าที่จำได้กระเป๋าที่ใช้จะเป็นแบบสะพายหลัง เพราะถ้าให้เด็กใช้เจ้ากระเป๋าถือซึ่งมีความเสี่ยงมากทีเด็กอนุบาลจะทิ้งมันไว้ เพราะหนักจนขี้เกียจแบก ต่างจากกระเป๋าสะพายที่ติดอยู่กับหลังตลอดเวลา หลายคนอาจจะไม่ชอบกระเป๋านักเรียน เพราะนอกจากหนังสือที่เยอะขึ้นตามลำดับชั้นเรียนแล้ว กระเป๋ายังหนักขึ้นเมื่อพบว่ามีความคาดหวังของพ่อแม่บรรจุอยู่ด้วย ช่วงประถมศึกษาอาจเป็นช่วงเวลาที่กระเป๋าหนักที่สุด ไม่มีกระเป๋าลายการ์ตูนแล้วมีแต่กระเป๋าสะพายแปะตราโรงเรียน ไม่ก็เป็นกระเป๋าถือสีดำ มีที่ล็อคสองอัน บางรุ่นทำเป็นแบบมีกุญแจให้ด้วย (หายไปตั้งแต่วันที่ซื้อ) ในกระเป๋ามีที่ใส่สมุดหนังสืออยู่สองสามช่อง มีหนึ่งช่องที่มีซิบรูด เป็นช่องเอาไว้ใส่ของลับ ซึ่งไอ้เจ้าของลับที่ว่าเนี่ยก็มีตั้งแต่สายสว่างยันสายมืด อาจจะเป็นเอกสารจากทางโรงเรียนที่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นต์รับทราบ หรือพวกหนุ่มน้อยอาจจะเอาไว้ใส่ไพ่เมจิก การ์ดยูกิ หนังสือการ์ตูนผู้ใหญ่ เป็นต้น กระเป๋าถือเด็กประถมส่วนใหญ่ก้นกระเป๋าจะบาน ดูด้านข้างเหมือนเป็นรูปตัว A ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะหนังสือเรียนครับ เพราะตอนเป็นเด็กประถมเรายังอยู่ในวัยที่ตัดสินอะไรเองไม่ค่อยจะเป็น ไม่มีตรรกะมากพอที่จะวางแผนการเรียนได้ เราเรียนกี่วิชาก็จะแบกไปเต็มสูบเผื่อเหลือเผื่อขาดเวลาเราเรียนวิชาไหนก็สามารถควักเอาออกมาจากกระเป๋าได้ตลอดไม่ต้องกลัวถูกคุณครูทำโทษหรืออีกนัยนะหนึ่งคือเราขี้เกียจจัดกระเป๋าตามตารางเรียนในแต่ละวันนั่นเอง ช่วงมัธยมในสมัยนั้น(90’s) เป็นยุคที่เริ่มมีการแข่งขันกันด้านบุคลิกกันในหมู่นักเรียน เมื่อทุกคนใช้กระเป๋าหน้าตาคล้ายกันหมดเราจึงเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ สมัยนั้นเพื่อนผมส่วนใหญ่จะใช้เป้สะพายเพราะขี้เกียจถือ พอดีช่วงนั้นเป้ยี่ห้อ Outdoor/Jansport มันดังและพวกวัยรุ่นก็ชอบใช้เพราะรูปทรงมันสวยดีต่างจากกระเป๋าของทางโรงเรียนที่แสนจะเชย เทอะทะ จึงมีกระแสเอาเป้สองยี่ห้อดังนั้นมาใช้แทน ซึ่งมันผิดระเบียบ ใครขืนใช้ก็จะโดนครูริบ เดือดร้อนผู้ปกครองต้องมาเอาคืนให้อีก แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบสะพายก็จะใช้กระเป๋าถือซึ่งเป็นคนละแบบกับสมัยมัธยมมันมีชื่อว่ายี่ห้อ SUPER ต่างจากของเดิมที่ฝาปิดมีแค่ล็อกตัวเดียว รูปทรงเน้นความบางเพราะรู้กันแล้วว่าการพกหนังสือเรียนเยอะๆมันไม่เท่ ซึ่งมักเชื่อกันไปเองว่าคนที่ใช้กระเป๋าตูดบานคือพวกเนิร์ด คงแก่เรียน ไม่น่าคบ และมักจะหันไปคบกับพวกกระเป๋าแบนๆแทนซึ่งให้ความรู้สึกเท่กว่า ถ้าใครยังรู้สึกว่ากระเป๋ามันยังแบนไม่พอ เราก็จะเอาตัวหนีบมาหนีบให้มันแบนกว่าเดิม เวลาปิดเทอมก็เอาไปไว้ใต้ที่นอน เพื่อให้มันแบนเป็นA4ไปเลย กระเป๋ายี่ห้อ SUPER มีขนาดให้เลือกสองสามไซส์ แต่หลักการเลือกคือยิ่งเล็กยิ่งเก๋า เพราะมันจะสามารถเอาไปหมุนควงเล่นๆได้เพิ่มความเท่เข้าไปอีก แต่นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีที่ทำให้เราถูกยอมรับในสังคม(คิดไปเอง) นั่นคือการใช้กระเป๋าจาคอบ จาคอบเป็นกระเป๋านักเรียนยอดฮิต แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังฮิตอยู่ ในแวดวงไฮโซ จาคอบเปรียบเสมือนซุปเปอร์คาร์ของชายวัยกลางคน ในแวดวงเด็กแว้น จาคอบก็เปรียบเสมือนมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่บีบท่อเสียงแหลมๆ กระเป๋ายี่ห้อ SUPER ที่คนทั่วไปใช้มีราคาไม่ถึงห้าร้อย แต่จาคอบอย่างต่ำมีสามพันอัพ และจะเรียกว่ากระเป๋าไม่ได้นะครับ ต้องเรียกว่า’จาคอบ’ JacobกับSUPER มีสิ่งที่เหมือนกันคือทุกคนที่ใช้จะเป็นพวกที่ชอบในความแบนของกระเป๋า ของใครดูตูดบานจะถูกหาว่าทำเสียของ เหมือนเอารถเบนซ์มาขนผัก และด้วยความที่มันแบนจนใส่หนังสือเรียนแทบไม่ได้ทำให้บางคนต้องถือกระเป๋าอีกใบมาเพื่อใส่หนังสือและเครื่องเขียนโดยเฉพาะ เป็นภาระชีวิตแท้ๆ จาคอบ เป็นกระแสสำหรับเด็กในยุค90 เป็นของที่เชื่อกันว่าถ้าใช้แล้วจะดูดี และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องได้มาไว้ครอบครองสักใบ ซึ่งก็คงไม่พ้นไปทูลขอบิดามารดาให้จัดมาให้ลูกสุดที่รักสักใบ ทั้งนี้ก็ต้องอ้างข้อดีของมันสารพัด “โหแม่ ที่มันแพงเพราะหนังมันทนไงใช้ได้นาน เนื้อกระเป๋าเป็นหนังแท้ด้วยนะ ไม่ต้องกลัวใครมากรีดก็ไม่ขาด ปลอดภัยใช้ได้ยาวๆเลย เนี่ยไอ้เอก็ใช้เหมือนกัน พ่อแม่มันซื้อให้ตั้งแต่ม.3แล้ว ตอนนี้มันยังใช้อยู่เลย คุ้มจะตาย” เรียกว่าชักแม่น้ำทั้งห้ามารวมกันเลยทีเดียวข้ออ้างสารพัดถูกยกมาพูดให้แม่ฟัง สรุปง่ายๆคือ ตรูอยากได้อ่ะ จะได้เอาไปอวดเพื่อน กระเป๋าจาคอบมีราคาแพงจึงตกเป็นเป้าหมายของอาชาญากรนักตบทรัพย์ในโรงเรียน คำว่า”ตบ” เป็นคำที่ใช้เรียกการขโมย เช่น โดนตบปากกา โดนตบรองเท้า เป็นต้น เป็นปัญหาเดียวกับการโดนเทิร์นรองเท้านันยางต่างกันตรงที่ไม่มีกระเป๋าใบเก่าของมันมาแลกเปลี่ยน และทำให้รู้สึกเสียดายมากกว่าเพราะราคาต่างกันมาก บ่อยครั้งที่ผมเห็นเพื่อนนักเรียนหญิงนั่งน้ำตาตกเพราะกระเป๋าหายกันมาแล้วเพื่อนๆในกลุ่มก็ได้แต่นั่งปลอบใจกันไปตามประสา ซึ่งการโดนขโมยกระเป๋าJacobกันบ่อยทำให้โรงเรียนออกกฎห้ามนักเรียนมัธยมต้นใช้กระเป๋าจาคอบ เพราะกลัวเรื่องของหายที่มีไม่เว้นแต่ละวัน จึงเป็นที่มาของการสร้างอัตลักษณ์ให้กับจาคอบเป็นของส่วนบุคคล ทั้งนี้ก็ทำไว้เพื่อป้องกันการสูญหาย บางคนใช้วิธีง่ายๆ แค่แปะสติ๊กเกอร์ เล็กๆน่ารักๆบางคนก็จัดใหญ่เต็มหลังกระเป๋าไปเลย มีทั้งชื่อตัวเอง ชื่อกลุ่ม เรียกว่าแปะจนเละเทะไปหมด บางคนใจไม่ถึงกลัวผิวกระเป๋าจะเสียหายนั่นคือการสร้างสัญลักษณ์ไว้ บริเวณตรงลิ้นกระเป๋าของจาคอบเป็นหนังสีน้ำตาล เปิดมาจะได้กลิ่นหนังแท้เป็นเอกลักษณ์ของจาคอบ คล้ายๆกลิ่นธนบัตรใหม่ ความกว้างของมันประมาณกระดาษเอสาม บางคนใช้ปากกาเขียนชื่อ ติดสติ๊กเกอร์บ้าง หนักหน่อยบางคนก็ใช้ลิควิดเขียนเนื้อเพลงแทนใจลงไปในกระเป๋าใบโปรด เพื่อนผมชอบเขียนเป็นรูปยันต์ ลงอาคมเอาไว้ป้องกันกระเป๋าหาย(คิดได้เนอะ) การทำสัญลักษณ์ทำให้ความเสี่ยงในการถูกขโมยลดลงเพราะว่าลบยาก แต่เจ้าของกระเป๋าจะทำสัญลักษณ์เยอะไปก็ไม่ได้เพราะถ้าครูเห็นก็จะโดนทำโทษอีกข้อหาทำกระเป๋าเลอะเทอะผิดระเบียบ บางโรงเรียนก็ไม่อนุญาตให้นักเรียนติดสติ๊กเกอร์ที่กระเป๋านะครับ สมัยก่อนจาคอบมือสองจะราคาถูกลงหน่อย ส่วนใหญ่ก็จะได้มาจากรุ่นพี่ที่จบไปแล้วประกาศขาย ใครสนใจก็ติดต่อไป ไม่ก็ไปหาซื้อตามตลาดนัดขายของมือสองก็พอมีให้เลือกอยู่บ้าง นอกจากจะราคาถูกแล้ว จาคอบมือสองยังมีข้อดีที่ดูเก่าเพราะถ้าใหม่เกินไปส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยมั่นใจ อยากให้มันดูเปื้อนๆเหมือนผ่านการใช้มาแล้วหน่อยไม่ใช่ใหม่กริบเหมือนเพิ่งออกจาโรงงาน ยิ่งถ้ามีรอยยับรอยย่นสักหน่อยก็จะยิ่งดูดีเหมือนพวกยีนส์ที่เค้านิยมใส่กันแบบสีเฟสๆเหมือนผ่านกาลเวลาใช้มาแล้ว ถึงจะดูเท่ขลังดี ผมเพิ่งรู้ไม่นานมานี้เองว่าที่จริงกระเป๋ายี่ห้อจาคอบ ต้องอ่านว่า ยาคอบถึงจะถูก ถึงจะชื่อเหมือนของฝรั่งแต่มันคือกระเป๋าสัญชาติไทยครับ พอรู้เข้าก็ถึงกับอึ้งไปนิดหน่อยเพราะคิดว่าเป็นกระเป๋าแบรนด์นอกมาตลอดชีวิตการเรียน จาคอบสร้างแบรนด์มาหลายสิบปี เจาะตลาดเครื่องหนังระดับสูง ส่งออกไปประเทศต่างๆมากมาย เราเองก็ต่างยิดตึดกับอะไรแบบนี้นิยมอะไรที่คิดว่าหรูหรา เป็นทาสของการตลาด ไม่เว้นแม้กระทั่งสมัยยังเป็นเด็กไม่ประสีประสากับเหตุและผลแต่เรากลับตกอยู่ในกลไกของมันได้? ตั้งแต่เรียนจบมาผมก็เพิ่งได้เจอกับเจ้ากระเป๋าจาคอบนี่อีกครั้งที่วันนี้ราคาตกใบละเกือบหมื่นตั้งอยู่อย่างสง่างามหน้าร้านเครื่องเขียนในห้างหรู มันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตรูยังมีเงินไม่พอซื้อมันเลยเฟ้ยย!!! ภาพประกอบบทความและภาพประกอบปกโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !