เคยสังเกตไหมว่า บางเช้า บางวันที่เราตื่นขึ้นมากลับรู้สึกว่าไม่สดใส ไม่ว่าจะเป็นอาการง่วงเหงาหาวนอน หรือรู้สึกว่าทุกอย่างมันถาโถมเกินการจัดการ จนทำให้วันทั้งวันกลายเป็นวันวุ่นๆ ยุ่งๆ ดูหน่วงหนักไปเสียหมด วันนี้เราเลยขอหยิบเอา 6 เคล็ดลับ เริ่มต้นวันอย่างสดใส ที่ส่วนตัวเราชอบทำเป็นประจำ เพื่อเริ่มต้นวันได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ออกตัวก่อนว่า 6 เคล็ดลับเหล่านี้ ไม่ใช่การแฮคระบบสุขภาพอะไรแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่แนวทางการเริ่มต้นวันที่ส่วนตัวเราใช้แล้วคิดว่าดีเท่านั้นจ้า รวม 6 เคล็ดลับ เริ่มต้นวันแบบสดใส นอนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง อันนี้จะว่าเก่าก็เก่า เราคงได้ยินกันมานานตั้งแต่เด็กๆ ว่าควรนอนให้ได้อย่างน้อยคืนละ 6-8 ชั่วโมง เพราะร่างกายของเราต้องการการพักผ่อน เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่นั่นแหละ เช้าไหนที่นอนน้อย ตื่นมาก็มีอาการหน่วงๆ สมองไม่สดใสเป็นธรรมดา บางคนไม่รู้ว่าตัวเองนอนได้กี่ชั่วโมง หรือขี้เกียจจะจำ วิธีที่เราทำคือการ Set นาฬิกาปลุกในมือถือ โดยสมัยนี้เขามีการจับเวลาได้ว่าเราจะต้องนอน-ตื่น ตอนไหนเพื่อให้ได้ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดการเรื่องการนอนหลับให้ครบชั่วโมงได้ง่ายขึ้น ตื่นทันที โดยไม่เลื่อนนาฬิกาปลุก บอกเลยว่าข้อนี้เหมือนจะเป็นเรื่องจิ๋วๆ แต่ไม่จิ๋วเลยนะ การเอาชนะใจตัวเองยามเช้าด้วยการดีดตัวขึ้นจากที่นอนทันทีเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก โดยไม่ snooze หรือกดเลื่อนไปเสียก่อน คือเรื่องที่ท้าทายสุดๆ ออกตัวว่าก่อนหน้านี้เราเคยเลื่อนนาฬิกาที่ตั้งเอาไว้ ไม่ต่ำกว่า 3-5 รอบในตอนเช้า และพอตื่นมาก็รู้สึกไม่ดี หรือพูดง่ายๆ ว่ามีผิดหวังกับตัวเองเล็กน้อยเหมือนกันที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายแรกในยามเช้าได้ ถึงเป้าหมายไม่ได้ยิ่งใหญ่ และไม่จำเป็นต้องซีเรียสมากขนาดนั้น แต่การตื่นทันทีเมื่อนาฬิกาปลุก เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้เราเริ่มต้นวันได้อย่างมั่นใจในตัวเอง ดื่มน้ำสัก 1 แก้วหลังตื่นนอน เหมือนการลงตารางการใช้ชีวิตเลยนะ หลังจากตื่นเช้ามาแล้วเราจะเดินจับนั่นนี่ในบ้าน เปิดประตู หน้าต่าง ตามทุกวันที่ทำไว้ บวกกับการดื่มน้ำ 1 แก้วหลังตื่นนอน ขยับร่างกายสักเล็กน้อย หรือออกำลังกายตามเวลาที่มี ใครชอบออกกำลังกายตามแผน อยากมีกล้ามเนื้อ อยากลดน้ำหนักอยู่แล้วอันนี้ก็เยี่ยมไปเลย แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ออกกำลังกาย เราว่ายามเช้าอาจแบ่งเวลาสักประมาณ 15-20 นาทีเพื่อมาขยับ ยืดเหยียดร่างกาย หรือออกกำลังกายในระดับความเหนื่อยแบบปานกลางๆ ไม่ต้องเหนื่อยมาก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น สดใส ส่วนตัวช่วงหลังมานี้เราก็จะพยายามออกกำลังกายให้ได้ทุกเช้าด้วยการเดินเร็ว เดินนอกบ้าน ซึ่งได้ความสดชื่น ตื่นตัวมากขึ้นจริงๆ แถมยังช่วยให้หัวสมองของเราปลอดโปร่งตอนที่เดินออกกำลังกาย ได้เห็นวิวข้างทาง มองนก มองไม้ ดีต่อใจจริงๆ ละ รับแสงแดดยามเช้ากันหน่อย ตื่นเช้ามาอย่าอุดอู้อยู่ในบ้าน แนะนำออกมาเดินเล่นๆ รอบบ้าน เดินในสนามหมู่บ้าน รับแสงแดดอุ่นๆ สูดอากาศดีๆ ยามเช้ากันเสียหน่อย เราว่าดีมากๆ เป็นการรีเฟรชร่างกาย พร้อมออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสดใส ส่วนตัวเราได้ 2 เด้งจากการออกกำลังกายนอกบ้าน เพราะได้ทั้งการออกกำลัง ยืดเหยียดแขนขา ไปพร้อมๆ กับการรับแดดยามเช้าไปด้วยเลย วางแผนสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน ตอนแรกเราก็ไม่เคยทำนะ แต่พอลองทำหลังจากฟัง Podcast ต่างๆ มาเราว่าผลมันดีต่อใจมากกว่าที่คิดเลย ก่อนหน้าเราเคยทำกิจวัตรต่างๆ ประกอบกับการทำงานไปเรื่อยๆ ตามที่คิดออก จนหลายๆ ครั้งก็แอบคิดว่าทำไมชีวิตตัวเองดูยิ่งๆ ในแต่ละวัน ทั้งๆ ที่ก็ทำไปหลายอย่างแต่ก็ยังดูวุ่นวายอยู่ดี เหมือนความคิดของเรามันฟุ้งว่าต้องทำอะไรบ้าง? บางครั้งก็แอบไปทำเรื่องที่อาจจะยังไม่จำเป็นก่อนเสียได้ เรื่องหลักๆ ที่ต้องทำกลับไม่เสร็จสิ้น ก็พาลจะทำให้หนักใจไปได้ง่ายๆ ในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นเราเลยเริ่มวางแผน To dol list ที่ต้องทำในแต่ละวัน จดลงไปให้หมด อาจจะแยกด้วยว่าต้องทำเรื่องไหนก่อน-หลัง ทำเสร็จก็ติ๊กเคลียร์ออกไปเรื่อยๆ แบบนี้จะทำให้เราเห็นภาพรวมของกิจวัตรที่ต้องทำ และส่วนตัวทุกๆ ครั้งที่เรามาติ๊ก Clear ออกจากรายการก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองจัดการชีวิตในแต่ละวันได้ดีมากขึ้น เลยกลายเป็นวันที่เราทำเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างครบครัน สดใส ภูมิใจในตัวเอง และนี่ก็เป็น 6 เคล็ดลับ เริ่มต้นวันแบบสดใส ที่เราลองทำแล้วเห็นผลว่าดี ช่วยให้เริ่มต้นวันได้อย่างมั่นใจ ทำให้ชีวิตของเราสดใส สบายใจมากขึ้น ใครอยากลองเริ่มต้นวันแบบดีๆ ลองปรับไปใช้ได้กันได้เลยนะ หน้าปก ออกแบบโดย ผู้เขียน ภาพเนื้อหา 1,3,5, โดย ผู้เขียน / ภาพที่2, ภาพที่3 โดย Freepik เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !