7 วิธีฝึกการโฟกัส ฝึกตัวเองให้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นในยุคของอินเตอร์เน็ตที่เป็นยุคที่มีสื่อต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตก็มีทั้งส่วนที่ดีมากและส่วนที่เสียด้วยค่ะ ปัญหาอย่างแรกที่เจอในยุคนี้คือ การโฟกัสได้ยากขึ้นเพราะมีอะไรหลายอย่างมาทำให้เสียสมาธิ หรือมีความน่าสนใจมากกว่ามาคอยเบี่ยงเบนความสนใจตลอดเวลา‼️ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดูสื่อต่างๆ ไม่ได้นะคะ การโฟกัสไม่ใช่การเครียดอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนะคะ แต่การโฟกัสคือการตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด และรู้ตัวว่าตอนไหนเล่นได้ตอนไหนต้องมีสมาธิสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้นานขึ้นจนเสร็จสิ้นตามแผนที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำในแต่ละวัน เช่น งาน การบ้าน และกิจกรรมอื่นๆ ที่ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จค่ะดังนั้นการฝึกโฟกัส ฝึกตัวเองให้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ต้องหาวิธีการหรือหาเทคนิคมาปรับใช้กับตัวเองค่ะ เพราะในแต่ละคนจะมีวิธีการในการฝึกสมาธิต่างกัน ในส่วนของผู้เขียนนั้นก็มีวิธีการที่ใช้ประจำในการฝึกสมาธิค่ะ จึงอยากส่งต่อ 7 วิธีฝึกการโฟกัส ฝึกตัวเองให้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้น ไว้ในบทความนี้ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆ คนที่กำลังมองหาวิธีการเพื่อนำไปฝึกการโฟกัสให้ตัวเองค่ะ ดังมีรายละเอียดดังนี้1. อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือช่วยทำให้มีสมาธิในการโฟกัสในเรื่องอื่นได้ดีขึ้นค่ะ เพราะตอนเราอ่านหนังสือเราได้ฝึกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ อยู่กับเนื้อหาในขณะนั้น จึงเท่ากับว่าเราได้ฝึกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย การอ่านหนังสือเพื่อฝึกการโฟกัสที่ว่านี้คือ การอ่านตลอดอย่างต่อเนื่องนะคะ อ่านจนติดเป็นนิสัยและรักการอ่านจึงจะสามารถช่วยทำให้มีการโฟกัสได้ดีขึ้นค่ะ โดยไม่เกี่ยวว่าอ่านหนังสือประเภทไหน ขอเพียงมีนิสัยรักการอ่านก็สามารถทำให้มีการโฟกัสได้ดีขึ้นแล้วค่ะ ปกติผู้เขียนอ่านหนังสือทุกวันค่ะ ส่วนใหญ่จะอ่านเนื้อหาที่ตัวเองสนใจเป็นภาษาอังกฤษ โดยส่วนมากจะอ่านหนังสือในแอป Amazon Kindle ค่ะ ก็พบว่าสามารถโฟกัสและมีความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นจริงๆ ค่ะ2. ฝึกทำงานทีละอย่าง ในข้อนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งวันได้งานเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ผู้เขียนหมายถึงการลงมือทำบางอย่างที่เวลาหนึ่งเพียงอย่างเดียวค่ะ เช่น ตอนผู้เขียนอ่านหนังสือก็อ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว จะไม่ดูทีวีด้วยหรือฟังเพลงด้วยในขณะอ่านหนังสือค่ะ บางคนอาจบอกว่าเขาสามารถมีสมาธิได้ขณะอ่านหนังสือและฟังเพลงด้วย แต่ในความเป็นจริงคือสมาธิที่เกิดขึ้นเป็นสมาธิแบบกระจัดกระจาย ที่มีการศึกษามากมาย พบว่า ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหากเราทำหลายอย่างพร้อมกันที่เวลาหนึ่ง การทำงานหลายอย่างในขณะเดียวกันยังส่งผลเสียต่อสมองโดยทำให้สมองทำงานหนักมากขึ้น ประสิทธิภาพในการจดจำและอื่นๆ ก็ลดลงด้วยค่ะ การฝึกทำงานทีละอย่างทำให้โฟกัสได้ง่ายเพราะความสนใจทั้งหมดอยู่ตรงหน้ากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียวค่ะ3. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบ ปัจจุบันโลกเราเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเสียง พอตื่นมาเริ่มต้นวันก็จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเสียงทันทีค่ะ ดังนั้นการเสียสมาธิก็เกิดขึ้นได้ง่าย การจะไปเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมภายนอกให้เงียบสงบทุกจุดที่เราไปให้เงียบได้นั้นอาจทำไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของเราให้เงียบได้ เช่น ไปในสวนสุขภาพหรือในธรรมชาติหรือจัดมุมในบ้านสำหรับทำงานเงียบๆ สิ่งแวดล้อมที่เงียบส่งเสริมให้สามารถโฟกัสได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสมองเราไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจหรือคิดตาม และการพาตัวเองไปอยู่ในความเงียบสงบตามธรรมชาติทำให้เราคิดบวกได้ง่ายๆ สมองจึงอยู่ในคลื่นที่สงบ การจะโฟกัสหรือเอาความสนใจไปในเรื่องหนึ่งจึงทำได้ง่ายมากขึ้นค่ะ4. ฝึกทำงานเสร็จเป็นอันๆ ไป การฝึกทำงานทีละอย่างแต่ทำไม่เสร็จก็ไม่สามารถทำให้เกิดทักษะการโฟกัสที่ดีได้นะคะ การฝึกทำงานเสร็จเป็นอันๆ ไป ทำให้เราไม่เบี่ยงเบนไปกับสิ่งอื่น ถึงแม้ว่าจะแอบสนใจสิ่งอื่นไปบ้างแต่เมื่อเรามีเป้าหมายว่าจะทำงานให้เสร็จไปเป็นอันๆ สถานการณ์นี้ทำให้เราตัดสิ่งอื่นที่ไม่สำคัญออกไปจากหัวได้และหันมาสนใจลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำจนเสร็จค่ะ พอฝึกทำงานเสร็จเป็นอันๆ ไปเรื่อยๆ เราจึงมีนิสัยนี้ติดตัวและทำให้โฟกัสได้ง่ายขึ้นค่ะ5. รู้ทิศทาง แนวทางและความสนใจของตัวเอง การรู้ว่าเราจะไปที่ไหนทำให้เราโฟกัสได้ง่ายขึ้นค่ะ ความสนใจส่วนตัว สิ่งที่เชี่ยวชาญ สิ่งที่อยากพัฒนา สิ่งที่อยากเก่ง เหล่านี้สามารถส่งเสริมทำให้เราโฟกัสได้ง่ายขึ้น และสนใจในเรื่องนั้นๆ ได้นานขึ้น เพราะอย่างแรกเรามีจูงใจจึงทำให้เรามีความสุขที่จะทำเรื่องนั้นๆ พอมีความสุขจึงสนุกและการโฟกัสจึงตามมาโดยธรรมชาติ จึงสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นค่ะ6. คิดเกี่ยวกับงานที่ต้องทำทีละขั้นตอน การคิดนำไปสู่การลงมือทำ ในบางครั้งการเสียสมาธิเกิดจากเราคิดหลายๆ ขั้นตอนพร้อมกัน จึงทำให้เราจับจุดในเรื่องใดเรื่องได้ยากจึงโฟกัสยากขึ้นและวอกแวกตลอดเวลาค่ะ การคิดไปทีละขั้นตอนทำให้เราโฟกัสได้ง่ายขึ้นเพราะขอบเขตในการคิดจะแคบลงและชัดเจน จึงทำให้การเริ่มต้นคิดเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เช่น นักเขียนคนหนึ่งตอนคิดเนื้อหาก็คิดเพียงเนื้อหาพอค่ะ โดยที่ยังไม่ต้องไปสนใจว่าจะทำปกยังไง จะตั้งชื่อบทความว่าอะไร คือทำส่วนไหนก็คิดแค่เพียงส่วนนั้นก่อนค่ะ ถ้าทำแบบนี้ได้จะทำให้การโฟกัสเกิดขึ้นได้ง่ายมากค่ะ7. ปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างในโทรศัพท์ ปกติเวลาที่ผู้เขียนต้องการโฟกัสหรือมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเรื่องใดก็ตามจะปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างในโทรศัพท์ค่ะ ก็พบว่าช่วยได้มาก เนื่องจากตอนที่มีอะไรต่างๆ แจ้งเตือนมาที่หลากหลายทำให้ความสนใจเรากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกเบี่ยงเบนได้ง่ายค่ะ การปิดแจ้งเตือนโทรศัพท์ทำให้ตาเราไม่มีอย่างอื่นมาดึงเอาความสนใจไปจึงทำให้เราสนใจกับสิ่งที่ต้องทำได้นานขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวเราต้องตระหนักด้วยว่าต้องโฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จก่อนค่ะและนั่นคือ 7 วิธีฝึกการโฟกัส ฝึกตัวเองให้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นที่ผู้เขียนปรับใช้ประจำค่ะ การอ่านหนังสือคือแนวทางแรกที่ผู้เขียนพบว่าสามารถช่วยได้มาก ทำให้สามารถโฟกัสได้ง่ายขึ้น สนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นค่ะ แต่ก็พยายามประยุกต์ใช้ให้หลากหลายวิธีใน 7 วิธีฝึกการโฟกัส ฝึกตัวเองให้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้น ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าค่ะ โดยประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องจน ตอนหลังมาสามารถโฟกัสได้ง่ายมากค่ะ หัวใจของการฝึกการโฟกัสคือการรู้ว่าความสนใจของตัวเองคืออะไร เพราะสิ่งนี้เป็นจุดแรกที่ทำให้เราสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานขึ้นค่ะ ลองอ่านและทำความเข้าใจจากนั้นลองนำไปปรับใช้กันค่ะ รับรองว่าสามารถโฟกัสได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะเครดิตภาพประกอบบทความโดย: ผู้เขียนภาพหน้าปก โดย Bahaa A. Shawqi จาก Pexelsออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย John Ray Ebora จาก Pexels, ภาพที่ 2 โดย Oleksandr Pidvalnyi จาก Pexels, ภาพที่ 3 โดย tyler hendy จาก Pexels, ภาพที่ 4 โดย Airam Dato-on จาก Pexelsบทความอื่นที่น่าสนใจ❇️5 วิธีเพิ่มศักยภาพในตัวเอง เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าในเวอร์ชั่นอื่น อ่านเลย🎯8 สาเหตุที่ทำให้ไม่ลงทือทำในสิ่งที่อยากทำสักที อ่านเลย🔴เทคนิคมีสมาธิได้ง่ายๆ สรุปจาก TEDx Talks อ่านเลย✳️เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !