เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซียไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ ประเมิน SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up โดยกรอบหลักปัจจุบันอยู่ที่ 1,250-1,285 จุด บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังผ่อนคลายจากสัปดาห์ก่อนจากหุ้นกลุ่ม Tech-AI ที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตามโดยรวมตลาดอาจยังไม่มีประเด็นบวกใหม่ที่ชัดเจนหลัง Event เศรษฐกิจสำคัญที่หมดลงช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยังมีตัวเลขเศรษฐกิจรายงานประปราย คืนนี้รอติดตามยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯเดือน ต.ค. และ GDP 3Q25 2nd Est ก่อนเข้าช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์
ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอติดตามตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ตลาดคาด +9% y-y เรามองว่าปัจจัยที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไปอยู่ที่การเลือกตั้งซึ่งจะเริ่มคึกคักมากขึ้นในเดือน ม.ค. หลังจะเริ่มเปิดรับสมัคร ส.ส. วันที่ 27-31 ธ.ค. นี้ เรายังคาดหวังเชิงบวกอ่อนๆต่อโอกาสเกิด Pre-Election Rally ซึ่งจะหนุน SET Index ที่จะฟื้นตัวช่วง 2-4 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งจากเม็ดเงินหาเสียงที่จะสะพัดและทำให้การบริโภคในประเทศคึกคักมากขึ้น คาดหุ้นกลุ่ม Domestic และ Consumption Play อย่าง ค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์ การแพทย์ อสังหาฯ เป็นต้น ซึ่งเป็น
กลุ่มที่ยัง Laggard ตลาดและมีระดับ Valuation ที่ค่อนข้างถูก
กลยุทธ์ เน้นกลุ่ม Domestic Play ที่โมเมนตัมกำไร 4Q25-1H26 ยังแข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BDMS, BTG, CBG, MAGURO, WHAUP
FSSIA Portfolio : BA, BDMS, BTG, CBG, CENTEL, CPALL, KTB, MTC, WHAUP
หุ้นเด่นวันนี้ : TFG
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท
• ระยะสั้นได้อานิสงส์จากทั้งราคาหมูไทยที่ปรับตัวขึ้น +6.5% m-m ยืนที่ 66 บาท/กก. ส่วนราคาหมูเวียดนามเริ่มดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน ธ.ค. อย่างรวดเร็วอยู่ที่ 6.3-6.8 หมื่นด่อง/กก. สูงกว่าค่าเฉลี่ย 4QTD ที่ 5.6 หมื่นด่อง/กก. ขณะที่ฝั่งวัตถุดิบยังทรงตัวต่ำทั้งข้าวโพด กากถั่วเหลือง ยังเป็นบวกต่อต้นทุน
• ในด้าน Valuation ยังน่าสนใจ ปัจจุบันเทรด 2026PER เพียง 5.4 เท่า นอกจากนี้คาดยังให้ Dividend Yield สูงถึง 9-10% ต่อปีในช่วงปี 2025-26 คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside รวมถึงอาจเป็นเป้าหมายสำหรับหุ้นปันผลสูง
• แนวรับ 5-4.90 บาท แนวต้าน 5.40//5.70 บาท
ขณะที่ บล.ดาโอ คาดตลาดยังมีความผันผวนจาก สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และนักลงทุนยังรอความชัดเจนจากปัจจัยการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ และ (ดอลล่าร์อ่อน+ดอกเบี้ยลด) การกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ ซึ่งช่วยหนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่า … วันนี้ หากดัชนีฯ ยืนระยะได้ จะเป็นสัญญาณบวกสำหรับการเข้าซื้อรอบใหม่
ปัจจัยในประเทศ
- ไทยและกัมพูชาตกลงที่จะหารือเงื่อนไขการหยุดยิงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ ที่จังหวัดจันทบุรี ภายหลังการประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อหาทางยุติการปะทะกันระลอกใหม่ที่ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 รายและประชาชนกว่า 5 แสนคนต้องอพยพออกจากพื้นที่
- การเมืองไทย: ตลาดกำลังให้ความสนใจกับการเมืองไทยเป็นหลัก ทั้งการประกาศนโยบายพรรค ตลอดจนแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งในสัปดาห์ก่อนปิดปีใหม่นี้หลายพรรคการเมืองเตรียมประกาศนโยบายหาเสียง ขณะนี้หลายมาตรการถูกหยุดชะงัก เป็นสุญญากาศการเมืองระยะสั้น ลุ้นเลือกตั้งจะมี Election Rally หากผลออกมาตรงใจนักลงทุน
- Fund Flow และค่าเงินบาท: วานนี้ (22 ธ.ค.) นักลงทุนต่างชาติกลับมา ซื้อสุทธิ ในตลาดหุ้นไทย 763.98 ล้านบาท (SET+MAI) ส่วนตลาดตราสารหนี้ขายสุทธิ 672 ล้านบาท ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าทำสถิติใหม่ในรอบ 4 ปีครึ่ง ปิดที่ 31.18 บาท/ดอลลาร์ สวนทางภูมิภาค โดยได้รับอานิสงส์หลักจากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น
ปัจจัยต่างประเทศ
- GDP 3Q/25 ของสหรัฐฯ: วันนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ติดตามการรายงานตัวเลข GDP 3Q/25 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะชี้นำตลาดในช่วงก่อนหยุดยาวปีใหม่ คาดการณ์จาก Bloomberg Survey อยู่ที่ 3.2% ชะลอจากการรายงานครั้งก่อนที่ 3.8% (GDP Q2/25)
- ราคาทองคำและภูมิรัฐศาสตร์: ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทำ New High เหนือระดับ 4,400 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-เวเนซุเอลา (สหรัฐฯ ยกระดับการปิดกั้นการส่งออกน้ำมัน) และสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยขาลง… ข่าวนี้ บวกต่อหุ้นน้ำมัน(PTTEP) และทองคำ
- ยูเครน-ยุโรป-สหรัฐ: Envoy Steve Witkoff เผยการหารือกับคู่เจรจายูเครนและยุโรปในฟลอริดาเป็นไปอย่าง “productive/constructive” ในความพยายามยุติสงคราม
Strategy - ตลาดหุ้นวันแรกของสัปดาห์ มักจะมีความแรงกว่าปกติ และจะแผ่วลงในวันถัดมา แต่หากวันนี้ แรงซื้อยังหนาแน่นอยู่ จะเปลี่ยนอารมณ์ตลาดหุ้นให้เป็นบวกได้เลย แต่กลยุทธ์ ยังเน้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ และดักเก็บหุ้นที่ราคาลงมาลึกไปด้วย
- เข้าสู่ฤดูกาลของการเก็บหุ้นเพื่อรับเงินปันผล เราแนะนำ PTTEP, ADVANC, SAT, PTT, KTB
- ธีมบาทแข็งค่า: เงินบาทแข็งค่าหลุด 31.20 บาท เป็นบวกต่อหุ้นที่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศสูง และมีการนำเข้าสินค้าทุน เช่น BGRIM, GULF
- ธีมทองคำขาขึ้น: ราคาทองคำทำ New High ต่อเนื่อง เป็นบวกโดยตรงต่อ AURA
- หุ้นในพอร์ตแนะนำ: เรานำ SCB ออก และนำ MTC* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย MTC(10%), CPF(10%), CPN(10%), CPALL(10%), IVL(10%), TTB(10%), PTTEP(10%), ADVANC*(10%)
Technical COM7, SAWAD
ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,260 แนวต้าน 1,280 คาดความผันผวนของดัชนีเริ่มลดลงในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส กอปรสัปดาห์หน้ามีโอกาสเกิดภาวะ Window Dressing ในช่วงปลายปี แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัย & จ่ายปันผลสูง เช่น CPF, HMPRO, PTT, PTTEP, BLA, MC, DIF
CENTEL* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 38.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q68 คาดกำไรเพิ่มขึ้น QoQ, YoY มีปัจจัยหนุนจากการเข้า season ท่องเที่ยว ประกอบกับได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ ทั้งการลดหย่อยภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง และส่วนงานราชการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการอบรมสัมมนา โดยคาด Occupancy rate, ADR และ RevPar ของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจอาหาร SSSG น่ากลับมาเป็นบวกได้ในเดือน ธ.ค. ส่วนแนวโน้มปี 699 โรงแรมใหม่เริ่มคืนทุนได้ ธุรกิจอาหารหนุนจากการซื้อ Lucky Suki และเน้นขยายแบรนด์ที่มีกำไรเติบโตดี อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ไว้ที่ 1.64 พันล้านบาท (-6%YoY) และ 1.89 พันล้านบาท (+15%YoY)
GULF* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 62.50บาท) คาดกำไร 4Q68 เติบโต YoY จากโรงไฟฟ้า Jackson ในสหรัฐที่ demand การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น, ส่วนแบ่งกำไร ADVANC ที่เพิ่มขึ้น, การรับรู้รายCOD โครงการโซลาร์ใน4Q68 ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปยังปี 69และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง สำหรับการเติบโตในปี 69 คาดว่าจะดีต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจเดิมทั้ง โรงไฟฟ้า,Data Center,ส่วนแบ่งกำไร ADVANC,การขนส่ง LNG การเน้นการเติบโตระยะยาวจากการลงทุนในใหม่ๆในยุโรป/สหรัฐ และโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในไทย consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 2.83 หมื่นลบ.+5%YoY และปี 69 ที่ 3.00หมื่นลบ.+7%YoY
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
