"รับมือโควิดรอบใหม่" รัฐบาลควรแจ้งผลการประเมิน-แนวทางการรับมือ


คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
รับมือโควิดรอบใหม่ - จังหวะเวลาที่โรคโควิด-19 กลับมาระบาดในวงกว้างเป็นจังหวะที่ไม่ดีนัก
ทั้งกับการเมืองที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ทั่วประเทศ 76 จังหวัดพอดี และทั้งกับเศรษฐกิจที่เข้าสู่ช่วงเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ความตึงเครียดของสถานการณ์ยังมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ซึ่งพื้นที่การระบาดอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ศูนย์รวมของกิจกรรมทุกด้านในประเทศ
จังหวัดสมุทรสาครที่พบคลัสเตอร์ใหม่ของการระบาดจึงต้องล็อกดาวน์แทนที่จะเคานต์ดาวน์ ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2564
สถานการณ์ดังกล่าวนี้น่าจะทำให้รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและนโยบายต่างๆ ช่วงส่งท้ายปีอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มเติมและเพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศ
การระบาดที่จ.สมุทรสาคร ที่มีกลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับที่ประเทศสิงคโปร์เผชิญมาก่อน
ช่วงโควิดระบาดใหญ่ทั่วโลกระลอกแรกเมื่อต้นปีนี้ สิงคโปร์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำมาก กระทั่งเข้าสู่เดือนเม.ย. ตัวเลขพุ่งสูงเป็นพันคน เนื่องจากเกิดการระบาดที่หอพักแรงงานต่างด้าว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสิงคโปร์ชี้ว่าการไม่ได้ใส่ใจชุมชนที่พักของแรงงานต่างด้าวเท่าที่ควรเป็นการก้าวพลาดครั้งใหญ่ของประเทศ
หลังจากนั้น สิงคโปร์พยายามควบคุมการระบาดใหม่ด้วยการล็อกดาวน์บางส่วนและอาศัยความร่วมมือของประชาชนโดยรวมที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
กรณีตัวอย่างดังกล่าวสะท้อนว่าเมื่อสถาน การณ์เปลี่ยน แผนรับมือของรัฐต้องเปลี่ยนให้เหมาะสม และทันการณ์
ก่อนหน้าเกิดการระบาดที่จ.สมุทรสาคร รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ และให้บริษัทเอกชนร้านค้าต่างๆ จัดงานเคานต์ดาวน์ได้ตามปกติ
แต่สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนไป รัฐบาลควรต้องแจ้งผลการประเมินและแนวทางการรับมืออย่างชัดเจนในแต่ละพื้นที่ของประเทศ
จะทำอย่างไรเพื่อหยุดเชื้อระบาด และจะทำอย่างไรกับเศรษฐกิจที่เข้าสู่ปีใหม่