รีเซต

จี้ปลดผู้ใหญ่จอมต้มตุ๋น เย้ยชาวบ้าน หลอกเอาโฉนดที่ดิน รถไถนา สูญกว่า10ล.

จี้ปลดผู้ใหญ่จอมต้มตุ๋น เย้ยชาวบ้าน หลอกเอาโฉนดที่ดิน รถไถนา สูญกว่า10ล.
มติชน
15 กรกฎาคม 2563 ( 15:04 )
64
จี้ปลดผู้ใหญ่จอมต้มตุ๋น เย้ยชาวบ้าน หลอกเอาโฉนดที่ดิน รถไถนา สูญกว่า10ล.

ลูกบ้านตัวเองก็ไม่เว้นหลอกเอาโฉนดที่ดิน ,บ้าน ,รถไถนา ไปกู้เงินและขาย รวมเสียหายกว่า 10 ล้าน แต่ยังลอยนวล แจ้งความจับแล้วถูกฝากขังแต่ออกมาเยาะเย้ยชาวบ้านวอนปลดออกจากตำแหน่ง ขณะปลัดอำเภอระบุ เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบ หากพบว่าผิดจริงก็จะส่งเรื่องไปจังหวัด เบื้องต้นเขายังไม่ได้รับโทษเพียงฝากขังเท่านั้น

วันที่ 15 ก.ค. ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 8 ต.ทะเมนชัย รวมถึงชาวบ้าน ต.ตลาดโพธิ์ อีกหลายหมู่บ้าน ใน อ.ลำปลายมาศ จ. บุรีรัมย์ เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.ลำปลายมาศ หลังได้รับหนังสือเรียกตัวมาสอบเพิ่มจากศูนย์ดำรงธรรมฯ เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ปลดผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ลูกบ้านของตัวเองและพื้นที่ใกล้เคียง หลายคดี มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จนชาวบ้านหลายคนต้องถูกฟ้องล้มละลาย ถูกยึดบ้านและที่ดิน

นางทองใบ สงฆรินทร์ อายุ 41 ปี อยู่เลขที่ 112 หมู่ 1 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ กล่าวว่า ตัวเองซึ่งเป็นดองกับผู้ใหญ่บ้าน(ลูกชายเป็นลูกเขยผู้ใหญ่บ้าน)เมื่อ 3 ปีก่อน ผู้ใหญ่บ้านมาขอเอาชื่อของตนเองไปกู้เงินธนาคาร โดยไม่ใช้หลักทรัพย์ ตนก็ยอม จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ได้ให้ลูกชายออกรถไถแบบ 50 แรงลูกชายก็ยอมเพราะเป็นลูกเขยผู้ใหญ่ กระทั่งมีธนาคารมาทวงถามเงินที่กู้ รวมถึงบริษัทรถไถที่มาตามหารถแต่ไม่เจอเพราะผู้ใหญ่บ้านเอารถไปขายแล้ว ตนจึงกลายเป็นคนรับผิดชอบทั้งสองบัญชี ทั้งที่ผู้ใหญ่เป็นคนเอาเงินไปทั้งหมด จนลูกชายต้องหย่าร้างกับลูกสาวผู้ใหญ่ ตอนนี้ตนมียอดหนี้ค้างกับธนาคาร 3.9 ล้านบาท ไม่รวมรถไถที่ถูกหายไปอีก 1 คัน จนมารู้ว่ามีชาวบ้านโดนหลอกในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก บางคนเอาบ้านไปเข้าธนาคารให้ผู้ใหญ่ บางคนเอาโฉนดที่ดินไปให้ผู้ใหญ่กู้ สุดท้ายก็ถูกธนาคารมายึดเอาบ้าน และที่ดิน หลายคนโดนฟ้องล้มละลาย

ด้านนายสมาน ธนกฤต อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 ชาวบ้านได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตำรวจตั้งข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์หลายคดี เพราะมีผู้เสียหายกว่า 10 ราย และต่อมาตำรวจนำตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านไม่มีเงินประกันตัว ล่าสุดญาติผู้ใหญ่บ้านได้หาหลักทรัพย์ไปประกันตัวออกมาได้ รวมติดคุกในช่วงที่รอประกันเป็นเวลา 82 วัน แต่ผู้ใหญ่บ้านยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม คือเยอะเย้ยถากถางชาวบ้าน ว่าไม่กลัวความผิด ทำให้ชาวบ้านอยู่แบบไม่มีความสุข จึงไปร้องให้นายอำเภอลำปลายมาศ ปลดออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นานถึง 82 วัน

ด้านนายบรรทม เทพหล้า ปลัดอำเภอ พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง และเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายแล้ว ผู้ใหญ่บ้านยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะศาลยังไม่ตัดสินคดี แต่เมื่อชาวบ้านร้องเรียนมาถึงความเหมาะสม ทางอำเภอ ก็จะต้องคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย เพื่อมาพิจารณาหาความเป็นไปได้ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกาฝ่าย ทั้งนี้ฝ่ายปกครองจะต้องยึดเอาชาวบ้านผู้เดือดร้อนเป็นหลัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง