อังกฤษฝั่งชิปดวงตาสำเร็จขั้นต้น ช่วยผู้ป่วยกระจกตาเสื่อม อ่านหนังสือได้อีกครั้ง

ข่าวดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ล่าสุด กลุ่มนักวิจัยในอังกฤษ ประสบความสำเร็จในขั้นต้น สำหรับการฝังชิปใต้ดวงตาที่สามารถเปลี่ยนชีวิต ช่วยให้ผู้ที่สูญเสียการมองเห็น กลับมาอ่านหนังสือได้อีกครั้ง

งานวิจัยในครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้ทำการทดลองกับผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย หรือ AMD ระยะลุกลามแบบแห้ง จำนวน 38 คน จาก 5 ประเทศในทวีปยุโรป 

รู้จักกับโรค AMD 

AMD ย่อมาจาก Age-related Macular Degeneration หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ตาจะไม่บอดสนิท เพราะจะสูญเสียการมองเห็นส่วนกลาง แต่ยังคงเห็นรอบข้างได้ ทำให้การมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าพร่ามัว เหมือนมีรอยดำ ๆ แปะอยู่ การทำกิจกรรมอย่างเช่น การอ่านหนังสือ หรือการจดจำใบหน้าจะทำได้ยากขึ้น โดยจะแบ่งเป็นแบบแห้งกับแบบเปียก ซึ่งแบบเปียกจะรุนแรงกว่า และมีโอกาสลุกลามไปสู่การบอดแบบถาวรได้

เทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร

การศึกษานี้ ผู้ป่วยจะได้รับติดตั้งอุปกรณ์ที่ชื่อว่า PRIMA ซึ่งย่อมาจาก Photovoltaic Retina Implant Microarray เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อจำลองการมองเห็น ผลิตโดยบริษัท Science Coporation จากแคลิฟอเนียร์ สหรัฐฯ 

โดยผู้ป่วยจะต้องสวมแว่นตา AR (Augmented Reality) ซึ่งมีการติดตั้งกล้องวิดีโออยู่ภายใน กล้องจะทำหน้าที่จับภาพการมองเห็นของผู้ป่วย และจะส่งไปยังชิปที่ฝังอยู่ด้านหลังดวงตาในรูปแบบของแสงอินฟราเรด จากนั้นแสงจะถูกแปลงให้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อไปกระตุ้นเซลล์ที่แข็งแรงที่ยังเหลืออยู่ในจุดรับภาพ (maculla) และถูกส่งต่อไปยังสมองและเส้นประสาทตา ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นได้อีกครั้ง

เสียงจากคนที่มองเห็นอีกครั้ง

มาฮิ มูควิต (Mahi Muqit) จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลตามัวร์ฟิลด์ส ในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ ผู้นำการทดลองในสหราชอาณาจักร กล่าวกับ สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ อย่าง BBC ว่า นี่คือเทคโนโลยีบุกเบิกและเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นอุปกรณ์ปลูกถ่ายชิ้นแรกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผู้ป่วยมองเห็นได้อย่างมีความหมาย ซึ่งพวกเขาสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การอ่านและการเขียน

"ผมคิดว่านี่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ"

เช่นเดียวกับคุณยายชีล่า เออร์ไวน์ (Sheila Irvine) วัย 70 ปี หนึ่งในผู้เข้ารับการทดลองที่สูญเสียการมองเห็นส่วนกลางมากว่า 30 ปี เนื่องจากเซลล์ในจอประสาทตาถูกทำลาย คุณยายอธิบายการมองเห็นก่อนฝั่งชิปว่า เหมือนมีแผ่นดิสก์สีดำแปะที่ตาทั้งสองข้าง 

แต่หลังจากได้ติดตั้งอุปกรณ์นี้ "เป็นเรื่องเหนือจินตนาการมาก" ที่กลับมามองเห็นและอ่านได้อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้คุณยายสามารถเล่นเกม crosswords และอ่านใบสั่งยาได้

มีเห็นด้วย ก็ต้องมีเห็นต่าง

ด้านสำนักข่าว CNBC ของสหรัฐฯ รายงานความเห็นของ ดร.ดิมิเทรียส วาฟวาส (Dr. Demetrios Vavvas) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการจอประสาทตาของ Mass Eye and Ear ในเมืองบอสตัน กล่าวว่าระบบของอุปกรณ์ PRIMA จะต้องอาศัยทักษะการผ่าตัดดวงตาขั้นสูง ซึ่งแปรผันตรงกับความเสี่ยงจะสูงตามมาด้วยเช่นกัน 

โดยจะต้องยกจอประสาทตาออกจากตำแหน่งปกติเพื่อฝังอุปกรณ์นี้ลงไป ซึ่งจะทำให้เกิดการฝ่อมากขึ้น

สำหรับภาพรวมแล้วยังมีข้อจำกัดอยู่ เพราะอุปกรณ์นี้ไม่ได้ฟื้นฟูการมองเห็นให้เป็นปกติ แต่ผู้ป่วยจะสามารถมองเห็นได้เฉพาะภาพขาวดำเท่านั้น ซึ่งเขาเชื่อว่า PRIMA เวอร์ชันนี้ กำลังเป็นก้าวสำคัญของการวิทยาการการฟื้นฟูการมองเห็น  

เทคโนโลยีทำให้มีหวัง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุปกรณ์นี้ยังมีความท้าทาย รวมถึงยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้นอกการทดลองทางคลินิก แต่ผลการศึกษา พบว่า จากผู้เข้าร่วมทดลอง 38 คน มีผู้ป่วยจำนวน 32 คน ที่ได้เข้ารับการประเมินหลังจากฝั่งชิปเป็นเวลา 1 ปี และมีถึง 27 คนที่สามารถอ่านหนังสือได้อีกครั้ง โดยใช้การมองเห็นจากส่วนกลาง ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงหลังจากการผ่าตัด แต่จะกลับมาเป็นปกติใน 2 เดือน 

นับว่าเป็นก้าวสำคัญ และเป็นความหวังของผู้ป่วย AMD ที่มีมากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด