ICN จ้องเซ็นงานใหม่ 300 ล. ครึ่งหลังบิ๊กโปรเจ็กต์เพียบ
#ICN #ทันหุ้น – ICN เล็งจรดปากกาเซ็นงานใหม่ 300 ล้าน เร็วๆ นี้ จับตาบิ๊กโปรเจ็กต์ครึ่งปีหลัง 2565 เพียบ บอสใหญ่ “มนชัย มณีไพโรจน์” ลั่นคงเป้ารายได้ทั้งปี 2565 โต 20% ตุนแบ็กล็อกแน่น 1.4 พันล้านบาท จ่อบุ๊กช่วงที่เหลือ 50% เดินหน้าศึกษาธุรกิจดิจิทัล
นายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN เปิดเผยว่า คาดจะเซ็นสัญญารับงานใหม่ที่เลื่อนจากต้นปี 2565 ในเร็วๆ นี้ มูลค่า 300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ขั้นตอนรอความชัดเจนจากกลูกค้า ส่วนช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดจะมีงานออกทยอยออกมาหลายโปรเจ็กต์ ส่วนงานใหญ่คาดจะเห็นมูลค่างานถึงหลักพันล้านบาท
ครึ่งปีหลังสดใส
ขณะที่เดียวกันบริษัทมองทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2565 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะบริษัทจะทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังหลายโครงการ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog เพิ่มเป็น 1.3-1.4 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วงที่เหลือประมาณ 50%
ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาจ้าง งานจ้างเหมา ออกแบบ จัดหาพร้อมติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง มูลค่างาน 90 ล้านบาท กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีระยะเวลาดำเนินงานภายใน 365 วัน นับถัดจากวันที่ลงนามสัญญาและรับประกัน 2 ปี สำหรับงานที่จะประมูลและได้เข้ามาในครึ่งปีหลัง 2565 จะเป็นงานสำหรับรองรับการเติบโตในปี 2566 หากสามารถหางานได้จำนวนมาก คาดปี 2566 จะเติบโตได้ในระดับที่น่าพอใจ
“ทิศทางธุรกิจและผลงานครึ่งปีแรกเราอาจจะไม่ดี แต่คาดว่าครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเราจะทยอยส่งมอบงานให้ลูกค้ามากขึ้น และงานที่เราติดตามก็จะออกมาในช่วงที่เหลือค่อนข้างหลายโปรเจ็กต์ ดังนั้นเราจึงมองธุรกิจช่วงต่อจากนี้น่าจะเป็นทิศทางที่ดี”นายมนชัย กล่าว
คงเป้ารายได้โต 20%
ส่วนรายได้ทั้งปีนี้ บริษัทคงเป้ารายได้โต 20% จากปีก่อน 1.76 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามผลักดันอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้เติบโตสอดคล้องกับรายได้ โดยการเข้ารับงานในพื้นที่ที่บริษัทเชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการงานโครงการได้ค่อนข้างดี อนึ่ง 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้ที่ 285.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16.44 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจอื่นๆ อย่างธุรกิจดิจิทัล บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษารายละเอียดการลงทุน คาดจะชัดเจนปลายไตรมาส 3/2565 สำหรับเม็ดเงินลงทุน บริษัทขอศึกษารูปแบบก่อนว่าจะเป็นลักษณะใด ถึงจะระบุจำนวนเงินลงทุนได้ชัดเจน ทั้งนี้บริษัทมีกระแสเงินสดจากการแปลงสิทธิ์ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ ICN-W1 และเงินสดรวมกันราว 200 ล้านบาท คาดจะเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ
ลุยดิจิทัลต่อยอด
ด้านธุรกิจใหม่ที่บริษัทลงทุนไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ธุรกิจ Digital Healthcare หรือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับโรงพยาบาลให้มีคุณภาพ มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น และสร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย และยังช่วยประสิทธิภาพทางการแพทย์
และธุรกิจ Smart City หรือการใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 5G ในจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาเซอร์วิสแพลตฟอร์ม ควบคู่กับการพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ และความยั่งยืนในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแก้ปัญหา ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากกลุ่มลูกค้า และการลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชน