Bitcoin คืออะไร ? Bitcoin เป็นเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ เหรียญแรกของโลก ที่สร้างโดยเป็นบุคคลนิรนามที่ใช้ชื่อว่า "Satoshi Nakamoto" ฺBitcoin ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีหลักการการกระจายศูนย์(decentralized) ไม่มีธนาคารกลางเป็นตัวกลางหรือผู้ควบคุม ใช้ระบบ Block chain เพื่อบันทึกธุรกรรมทุกอย่างไว้สำหรับการซื้อขาย ผู้ซื้อจะสามารถใช้การซื้อ Bitcoin ได้แบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer : P2P) กับผู้ขายได้โดยตรง Bitcoin สามารถหามาได้โดยการขุด(mining) และมีจำนวนอยู่จำกัด 21 ล้านเหรียญเท่านั้น เมื่อจำนวนมีอยู่อย่างจำกัด การขุดที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะ และความอิสระที่เราจะควบคุมได้ด้วยตัวเราเอง ทำให้มูลค่าของ Bitcoin นั้นจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าที่จะเฟ้อขึ้นตลอดเวลา ตามการพิมพ์เงินของรัฐบาลที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้นอกจากผู้มีอำนาจเท่านั้น Bitcoin จึงถูกสร้างมาเพื่อเป็นทางรอดสำหรับประชาชนที่ต้องการเก็บรักษามูลค่าสินทรัพย์ของตัวเองไม่ให้สูญไปตามการเวลานั้นเอง จากที่เขียนอธิบายมาข้างต้นเราจะเห็นได้ว่า Bitcoin นั้นจะต้องพึ่งพาตนเองเป็นหลัก "เราเป็นธนาคารของตัวเราเอง" หัวใจสำคัญสำหรับผู้ที่จะเริ่มเก็บสะสม Bitcoin นั้นจะต้องเข้าใจมีดังนี้ 1.Hardware wallet กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยสำหรับชาว Bitcoiner ็Hardware wallet เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กลักษณะคล้ายๆ USB ใช้เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อซื้อคริปโตเคอเรนซี่เข้ามาเก็บไว้เหมือนกับกระเป๋าตังค์ มันทำหน้าที่เพียงเก็บ "Private key" ที่ใช้สำหรับการเซ็นยืนยันธุรกรรม (Sign Transaction)เวลาเราโอน Bitcoin ออกจากระเป๋า และใช้เก็บ Bitcoin ได้อย่างปลอดภัยด้วย BIP39 หรือ Backup Private Key ในรูปแบบของคำศัพท์จำนวน 12 หรือ 24 คำ เรียกว่า 'Seedphrase' ที่เราจะต้องจดและเก็บไว้ให้ปลอดภัยที่สุดเพราะถ้าใครก็ตามที่รู้ seedphrase ทั้งหมดก็จะสามารถเอา Bitcoin เราไปได้ดังนั้นต้องรักษามันเท่าชีวิต " Not Your Key, Not Your Coin " 2.การซื้อขายแบบ P2P ด้วยระบบ Multisig Peer-to-Peer หรือ P2P หมายถึงการซื้อขายกันโดยตรงระหว่างผู้ซื้อ กับผู้ขาย โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยมีตัวกลางเพื่อควบคุมการซื้อขาย แต่ในปัจจุบันจะมีระบบ Multisig เกิดมาเพื่อเป็นตัวกลางคอยป้องกันการโกงของทั้งฝั่งคนซื้อและคนขาย เมื่อผู้ซื้อต้องการจะซื้อ Bitcoin ก็เข้าไปในเว็บไซด์นั้น และเปิดคำสั่งซื้อไปยังผู้ขาย เมื่อผู้ขายได้รับคำสั่งซื้อจะทำการโอน Bticoin ไปยังตัวกลาง เมื่อโอน Bitcoin สำเร็จแล้วผู้ขายจะกดยืนยันคำสั่งไปที่ตัวกลาง และเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อ พอผู้ซื้อโอนเงินสำเร็จเข้าผู้ขาย ผู้ขายจะกดยืนยันกับระบบว่าได้รับเงินเรียบร้อย ระบบก็จะปล่อย Bitcoin ให้กับผู้ซื้อไปยัง hardware wallet ที่ผู้ซื้อส่ง Adress ไว้ให้แต่แรก เว็บที่แนะนำในการทำ multisig คือ HodlHodl สามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเก็บ Bitcoin ที่เป็นของเราจริงๆ ไม่มีใครสามารถเอาไปได้ ที่เหลือก็จะเป็นการเก็บไว้เพื่อรักษามูลค่าเงินของเราไว้ใน Bitcoin และสามารถนำ Bitcoin ไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันเพื่อใช้จ่ายซื้อขาย อาหาร กาแฟ ของใช้ ได้ง่ายๆด้วยระบบ Layer 2 bitcoin คือ Lightning network ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับการใช้จ่ายที่รวดเร็วกว่าการโอนระหว่าง Wallet สู่ Wallet ที่ใช้เวลานานถึง 10 นาที เหลือเพียงไม่ถึง 1 วินาที ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะมาแทนการโอนจ่ายในปัจจุบันได้ในอนาคต ตัวอย่างแอพเช่น Wallet of satoshi,MUUN,Strike สรุป การเก็บออม Bitcoin นั้นสามารถเริ่มได้จากการมี Hardware wallet และใช้การซื้อขายที่ปลอดภัยด้วยระบบ Multisig เพื่อป้องกันการโกงของผู้ซื้อละผู้ขาย อย่างเช่น HodlHodl เมื่อเก็บ Bitcoin ไว้เพื่อรักษามูลค่าเงินที่เรามีแล้วหากต้องการนำไปใช้งานก็สามารถโอน Bitcoin จาก Hardware wallet สู่ กระเป๋าตังค์ใน App Lightning Network ได้เพื่อใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้หากคุณสนใจในการซื้อ Bitcoin ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยเพราะเราคือธนาคารของตัวเราเอง " Not Your Key,Not Your Coin " ภาพปกโดย Ewan Kennedy จาก unsplash ภาพประกอบที่ 1 โดย MidJourney จาก pixabay ภาพประกอบที่ 2 โดย rc.xyz NFT gallery จาก unsplash ภาพประกอบที่ 3 โดย GENERAL BYTES จาก unsplash ภาพประกอบที่ 4 โดย Shubham Dhage จาก unsplash เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !