こんばんは (สวัสดีตอนเย็น) ยินดีต้อนรับเข้าสู่ E:ZY to Speak Japanese นะคะ ไปฝึกอ่านอักษรภาษาญี่ปุ่นกันมารึยังเอ่ย ? วันนี้เจ้าคลื่นน้อยจะพาทุกคนมาเรียนรู้ศัพท์และไวยกรณ์ในการสนทนาหรือแนะนำตัวกับคนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก เคยสงสัยกันไหมคะ ทำไมคนญี่ปุ่นใช้คำตามหลังชื่อไม่เหมือนกัน บางคน -ซัง , -คุง , -จัง เป็นต้นเอ๋ ! ต่างกันยังไง เรามีคำตอบมาให้แล้วจ้าาา... เริ่มกันที่คำศัพท์กันก่อน ศัพท์ที่ใช้กับตัวเรา เขา และเธอ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น ได้แก่わたし (วะตะชิ) ฉันわたしたち (วะตะชิทาจิ) พวกเราあなた (อะนะตะ) คุณあのひと (อะโนะฮิโตะ) คนนั้น , เขา , เธอ ( あのかた เป็นคำสุภาพของ あのひと ) みなさん (มินนะซัง) ทุกท่าน- さん (...ซัง) คุณ - , นาย - , นาง - , นางสาว - (เรียกต่อท้ายเพื่อแสดงความสุภาพ)- ちゃん (...จัง) หนู - (เรียกต่อท้ายเด็กหญิง , ชาย แทนการใช้ さん )- くん (...คุง) (เรียกต่อท้ายชื่อเด็กผู้ชาย)じん (...จิน) ชาว - , คน - (เรียกต่อท้ายมีความหมายว่า ‘สัญชาติ’)เครดิตภาพ : pixabay ในการพบกันครั้งแรกของชาวญี่ปุ่นนั้น หากต้องแนะนำตัว ตามธรรมเนียมจะนิยมใช้คำว่าはじめまして (ฮะจิเมะมาชิเตะ) แปลว่า ยินดีที่ได้รู้จัก ซึ่งใช้ในครั้งแรกที่เจอกันเท่านั้น !! เช่น เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เพิ่งเข้าชั้นเรียนวันแรกจึงต้องออกมาแนะนำตัวหน้าชั้น ก็จะเริ่มบทสนทนาด้วยคำว่า はじめまして わたし は A です。: ฮะจิเมะมาชิเตะ วาตาชิ วะ เอ เดส. (ตามด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่อยากบอก) จะแปลว่า สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ เอและจบด้วยประโยค どうぞよろしくおねがいします。(โดโซะโยโรชิกุ โอะเนะกะอิชิมัสสึ) ซึ่งมีความหมายว่า ยินดีที่ได้รู้จัก ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ / ครับ. แล้วถ้าอยากขออนุญาติหรือขัดจังหวะเพื่อขอทำบางสิ่งจะใช้คำว่าอะไรดี ?จำไว้ให้ขึ้นใจ しつれいますが (ชิสึเรชิมัส) แปลว่า ขอประทานโทษนะคะเช่น しつれいしますが おなまえは?(ชิสึเรชิมัสก๊ะ โอะนามาเอะ วะ?) แปลว่า ขอโทษนะคะ ขอทราบชื่ออีกทีได้ไหม ?เครดิตภาพ : pixabay เพื่อให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรามาเข้าพาร์ทไวยกรณ์กันสักหน่อยดีกว่าNoun1 は Noun2 です ซึ่ง は เมื่อทำหน้าที่เป็นแกรมม่าในประโยคจะอ่านว่า “วะ” ทำให้คำนามที่อยู่ข้างหน้าเป็นหัวข้อเรื่องของประโยค เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้พูดต้องการจะเน้นในการสื่อสารครั้งนั้นเช่น わたし は A です。( วาตาชิ วะ เอ เดส ) แปลว่า ฉันชื่อเอ ในประโยคต้องการเน้นที่ตัวเขาจึงใช้ は มาเน้น わたし นั่นเอง 2) です (เดส หรือ เดสุ) มีความหมายคล้ายคำว่า ‘เป็น , คือ’ ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงซึ่งวิธีการแปลภาษาญี่ปุ่นจะแปลจาก ประโยคหน้า は มาก่อน แล้วจึงมาแปลจากหลังมาหน้า ก็คือ です แล้วย้อนขึ้นมา A です แปลว่า ‘เป็น , คือ เอ’ เป็นต้น 3) Noun1 は Noun2 じゃ ありません เป็นรูปปฏิเสธของ です ซึ่งเป็นรูปของภาษาพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น Aさん は がくせい じゃ ありません. (เอซัง วะ กะคุเซย์ จะ อะริมาเซน) แปลว่า เอไม่ได้เป็นนักเรียน นั่นเองปล. がくせい แปลว่า นักเรียน จ้า เดินทางมาอีก 1 สเต็ปกันแล้ว อย่าลืมไปทบทวนแกรมม่าและวิธีใช้กันด้วยนะคะ หากใครมีข้อสงสัยทักหาเจ้าคลื่นน้อยได้เลย พร้อมตอบนะจ๊ะ แล้วเจอกันในอีพีต่อไป สำหรับอีพีนี้ ขอลาไปก่อนะทุกคน ^^เครดิตภาพ : pixabay