รีเซต

สถานการณ์อิหร่านโจมตีอิสราเอล ยังไม่มี ‘แรงงานไทย’ บาดเจ็บ - เสียชีวิต

สถานการณ์อิหร่านโจมตีอิสราเอล ยังไม่มี ‘แรงงานไทย’ บาดเจ็บ - เสียชีวิต
TNN ช่อง16
14 เมษายน 2567 ( 15:30 )
19
สถานการณ์อิหร่านโจมตีอิสราเอล ยังไม่มี ‘แรงงานไทย’ บาดเจ็บ - เสียชีวิต

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณี สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และอิสราเอลว่า ตามที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากเกิดการโจมตีจากอิหร่าน นั้น ทันทีที่ทราบข่าวตนเองมีความห่วงใยต่อแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล จากผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าว ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมจึงได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิดทันที 


จากรายงานของนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พบว่า ขณะนี้ยังไม่มีแรงงานไทย ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตจากการโจมตี จากสถานการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด


ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางสถานทูตไทย อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ติดตามประกาศของแต่ละท้องถิ่น หรือแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ หากต้องการขอรับความช่วยเหลือ หรือได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป และขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทย ทั้งสถานทูตและกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


 ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลถึงแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย โดยขอให้ปฏิบัติ ดังนี้


1. ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และปิดสถาบันการศึกษา 

2.ในพื่นที่สู้รบ ห้ามชุมนุมมากว่า 30 คน 

3.สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย โดยรัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้าและงดเที่ยวบินทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 00.30 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2567 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง


สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150  หรือ (+972) 5 0367 3195


ข้อมูลจาก: กระทรวงแรงงาน 

ภาพจาก: :  AFP 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง