สตาร์ตอัปย้อนวัย Retro Biosciences ที่มีแซม อัลท์แมน สนับสนุนตรียมทดสอบยาต้านอัลไซเมอร์ในมนุษย์ปลายปี

บริษัท Retro Biosciences สตาร์ตอัปด้านชีววิทยาอายุยืนที่ได้รับการสนับสนุนจาก แซม อัลท์แมน (Sam Altman) แห่งยักษ์ใหญ่ด้านปัญญาประดิษฐ์ OpenAI กำลังเตรียมเดินหน้าการทดลองทางคลินิกครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2021 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นกว่า 180 ล้านดอลลาร์ หรือ 5.76 พันล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญของภารกิจที่ต้องการแยก “ความแก่ชรา” ออกจากการเสื่อมถอยและโรคภัย 

โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเริ่มการทดลองยาตัวใหม่ชื่อ RTR242 กับผู้ป่วยรายแรกภายในสิ้นปี 2025 ที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีขั้นตอนอนุมัติการทดลองระยะที่ 1 (Phase 1 clinical trial) รวดเร็วกว่าสหรัฐอเมริกา

เป้าหมายของ RTR242 คือการย้อนวัยการทำงานของเซลล์เพื่อรับมือโรคอัลไซเมอร์ ยาตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นกระบวนการ Autophagy ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยรีไซเคิลของเสียในเซลล์ แต่กระบวนการนี้มักเสื่อมถอยลงตามอายุ ทำให้โปรตีนที่เสียหายและของเสียต่าง ๆ สะสมมากขึ้น โดยเฉพาะในเซลล์สมอง การคืนสมดุลให้ระบบนี้อาจช่วยชะลอหรือป้องกันความเสื่อมของสมองได้ในอนาคต

นอกจากแซม อัลท์แมน (Sam Altman) ปัจจุบันยังมีมหาเศรษฐีรายอื่น ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยยืดอายุของมนุษย์

มหาเศรษฐีเทคโนโลยีกับการแฮ็กอายุเพื่อยืดชีวิต

ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal เป็นนักลงทุนยุคแรกใน Unity Biotechnology บริษัทที่พัฒนายาเพื่อลดเซลล์เสื่อมสภาพ เขายังบริจาคเงินหลายล้านให้กับ Methuselah Foundation และลงนามกับ Alcor Life Extension Foundation ที่ให้บริการแช่แข็งศพมนุษย์เพื่อหยุดกระบวนการชรา ธีลกล่าวไว้ว่า “คนบอกว่าความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ผมคิดว่าไม่มีอะไรห่างไกลจากความจริงไปกว่านี้”

ลาร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison) ผู้ก่อตั้ง Oracle ใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สนับสนุนงานวิจัยการชรา ผ่าน Ellison Medical Foundation และการบริจาคให้สถาบันแพทย์ต่าง ๆ รวมถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,520 ล้านบาท ให้แก่ศูนย์มะเร็ง USC ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Ellison Institute of Technology

ลาร์รี เพจ (Larry Page) ผู้ก่อตั้งร่วม Google เปิดตัว Calico Labs ในปี 2013 ภายใต้บริษัทแม่ Alphabet เพื่อวิจัยเรื่องการชรา และร่วมมือกับ AbbVie ด้วยงบมหาศาลในการพัฒนาวิธีบำบัดโรคที่เกี่ยวข้องกับวัย อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าของ Calico ยังถูกวิจารณ์ว่ายังไม่เด่นชัด

เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) อีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง Google ทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 37,600 ล้านบาท วิจัยโรคพาร์กินสัน หลังตรวจพบว่าตนมีพันธุกรรมเสี่ยงสูง เขายังสนับสนุน Verily Life Sciences หน่วยงานลูกของ Alphabet ที่ทำวิจัยด้านสุขภาพและอายุยืน

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ Meta และภรรยา พริสซิลลา ชาน ก่อตั้ง Breakthrough Prize มอบรางวัล 3 ล้านดอลลาร์ให้นักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยด้านชีววิทยาศาสตร์และการแพทย์ ทั้งคู่ยังผลักดัน Chan Zuckerberg Initiative เพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อ ซักเคอร์เบิร์กยังเชื่อว่าภายในสิ้นศตวรรษนี้ การที่มนุษย์มีอายุเกิน 100 ปี จะกลายเป็นเรื่องปกติ

เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้ง Amazon ลงทุนใน Altos Labs บริษัทด้านการฟื้นฟูเซลล์เพื่อย้อนโรคและความเสื่อม เขายังรักษาร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างหนัก ทั้งการพายเรือ ยกน้ำหนัก และกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น คายัคและวิ่งขึ้นเนิน

ไบรอัน จอห์นสัน (Bryan Johnson) เขาเป็นผู้ประกอบการด้านไบโอเทค วัย 48 ปี ใช้การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และอาหารเสริมเข้มข้นเพื่อลด อายุชีวภาพของร่างกายลงไปหลายปี จอห์นสันเริ่มกิจวัตรทุกวันตอนตี 5 ด้วยการทานอาหารเสริม เช่น ไลโคปีน ขมิ้น และเมตฟอร์มิน พร้อมรับประทานอาหารมังสวิรัติพลังงานไม่เกิน 1,977 แคลอรี่ต่อวัน ผลลัพธ์คือ เขาสามารถลดอายุทางชีวภาพลงได้ถึง 5.1 ปี ภายในปีเดียว

การยืดอายุไม่ใช่แค่ฝันกลางวันอีกต่อไป มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีทั่วโลกต่างลงทุนอย่างจริงจังในงานวิจัยและวิถีชีวิตเพื่อท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ แม้ผลลัพธ์ยังไม่แน่ชัด แต่ความพยายามเหล่านี้อาจเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนความหมายของคำว่า “ชีวิต” ในศตวรรษนี้