รีเซต

‘อิ๊กดราซิล’ ชี้ธุรกิจเกมมาแรง ‘Home Sweet Home’ ดันรายได้พุ่ง 141% หนุนกำไรไตรมาส 1/64 โต 19%

‘อิ๊กดราซิล’ ชี้ธุรกิจเกมมาแรง ‘Home Sweet Home’ ดันรายได้พุ่ง 141% หนุนกำไรไตรมาส 1/64 โต 19%
มติชน
15 พฤษภาคม 2564 ( 02:23 )
113
‘อิ๊กดราซิล’ ชี้ธุรกิจเกมมาแรง ‘Home Sweet Home’ ดันรายได้พุ่ง 141% หนุนกำไรไตรมาส 1/64 โต 19%

 

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ YGGเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 13.2 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 60.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 ที่มีรายได้รวม 53.1 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้มาจากงานโฆษณาและภาพยนตร์จำนวน 28.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.42% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 19 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานทำโฆษณามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานโฆษณาภายในตัวเกม ขณะที่มีรายได้จากเกมและอินโนเวชั่น 9.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 4.1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้มีการวางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564

 

นายธนัช กล่าวว่า ส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น (Animation) ในไตรมาส1/64 บริษัทมีรายได้ 22.7 ล้านบาท ลดลง 24.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ จำนวน 30 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีพนักงานในส่วนภาพยนตร์บางส่วนได้ถูกโอนย้ายไปช่วยงานเกม Home Sweet Home Survive ทำให้งานภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่บริษัทรับงานลูกค้ามานั้น ได้เริ่มงานในเดือนมีนาคม 2564 จึงทำให้บริษัทรับรู้รายได้ไปตามสัดส่วนดังกล่าวในไตรมาส 1/64 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากงานโฆษณาและภาพยนตร์ เท่ากับ 46.3% มีรายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 37.3% และมีรายได้จากส่วนงานเกมและอินโนเวชั่น 16.3%

 

“บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 โตต่อเนื่อง 15-20% โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเกมมีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสเติบโตสูงขึ้น ซึ่งหลังจากบริษัทฯ ได้วางจำหน่ายเกม Home Sweet Home Survive ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักเล่นเกมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนงานโฆษณาและภาพยนตร์ รวมทั้งงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น( Animation) ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพของทั้งบุคลากรและเทคโนโลยี ให้ทุกงานที่ผลิตออกมามีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากฐานลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลัก รวมถึงบริษัทฯ ยังได้เพิ่มขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศด้วย” นายธนัช กล่าว

 

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา หุ้นละ 0.08 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,400,000 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในเดือนมิถุนายน 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง