สหรัฐฯ กำลังเลือกเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน

กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ทางการทหาร กับการคัดเลือกเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 รุ่นใหม่ภายใต้โครงการ F/A-XX ซึ่งจะเข้ามาแทนที่เครื่องบินขับไล่ F/A-18 Super Hornet และ EA-18G Growler ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบัน โดยเป้าหมายคือการยกระดับสมรรถนะของกองทัพเรือให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศในอนาคต โดยเฉพาะในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

การแข่งขันของยักษ์ใหญ่ 3 ราย

กองทัพเรือเปิดให้สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอากาศยาน โบอิ้ง (Boeing), นอร์ธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) และ ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) เสนอแนวคิดและต้นแบบเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ของตนเองเพื่อเข้าชิงสัญญามูลค่ามหาศาล

อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2025 บริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขัน โดยให้เหตุผลว่าบริษัทต้องการมุ่งพัฒนาโครงการเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ของตนเอง พร้อมกับมีปัญหาด้านงบประมาณภายใน ทำให้สนามแข่งนี้เหลือผู้เล่นหลักสองรายคือ Boeing และ Northrop Grumman

การออกแบบที่แตกต่าง แต่เป้าหมายเดียวกัน

เครื่องบิน F/A-XX ของ Boeing ถูกคาดว่าจะใช้การออกแบบแบบ “ไร้หาง” (tailless design) พร้อมเครื่องยนต์คู่และเทคโนโลยีพรางตัวขั้นสูง (Stealth) ซึ่งช่วยลดการตรวจจับจากเรดาร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนต้นแบบของ Northrop Grumman มีลักษณะคล้ายกับเครื่องบินทดลองรุ่นเก่า YF-23 แต่ตัดส่วนหางออกไปเพื่อเพิ่มความสามารถในการพรางตัวเช่นกัน

การตัดหางออกแม้จะช่วยลดค่าพื้นที่เรดาร์สะท้อน (RCS) แต่กลับทำให้เสียสมดุลทางอากาศพลศาสตร์แบบเดิม ๆ จึงจำเป็นต้องอาศัยระบบควบคุมการบินอัจฉริยะ เช่น ระบบ Fly-by-Wire ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อช่วยให้เครื่องบินสามารถรักษาเสถียรภาพและควบคุมได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์

คุณสมบัติสุดโหดที่กองทัพเรือต้องการ

กองทัพเรือตั้งข้อกำหนดที่ท้าทายสำหรับเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่  

• นักบินเลือกได้ (Pilot optional) สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้งแบบมีนักบินและไร้นักบิน

• รองรับหลายภารกิจ (Multi-role) ทำได้ทั้งรบอากาศ-สู่อากาศ, โจมตีภาคพื้นดิน, สนับสนุนทางอากาศ และต่อต้านเรือรบ

• AI ขั้นสูงทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการควบคุมฝูงโดรน และเชื่อมต่อข้อมูลกับเครือข่ายทั่วโลก

• ทำงานร่วมกับโดรน (MUM-T / Loyal Wingmen) สามารถสั่งการอากาศยานไร้คนขับร่วมรบได้แบบประสานกลยุทธ์

• พิสัยการบินไกลขึ้น 25% จาก F-35C ประมาณ 837 ไมล์ทะเล เพื่อให้เหมาะกับภารกิจในภูมิภาคแปซิฟิก

• รองรับอาวุธพลังงานสูง ใช้ขับเคลื่อนขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและอาวุธพลังงานกำกับ (Directed-energy weapons)

• ความเร็วเหนือกว่าเครื่องบินรบปัจจุบันของสหรัฐฯ

การแข่งขันแห่งอนาคต

โครงการ F/A-XX ถูกเปรียบเหมือน “สนามแข่งรถแห่งอนาคต” ที่สองค่ายยักษ์ใหญ่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น โดยบริษัท Boeing เน้นแนวทาง สมดุลระหว่างความคล่องตัวและการพรางตัว, ขณะที่บริษัท Northrop Grumman มุ่งเน้น ความล่องหนและพิสัยการบินไกล เป็นหลัก

แต่ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 ลำนี้จะกลายเป็นหัวใจใหม่แห่งอำนาจการรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า และเป็นการยืนยันว่าการแข่งขันด้านเทคโนโลยีการบินรบยังคงดุเดือดไม่แพ้สมรภูมิจริงเลยทีเดียว