รีเซต

“อาคม” รับเงินกู้ 1 ล้านล้าน ใกล้เกลี้ยงแล้ว เจอโควิด ระลอก 3 ต้องขอกู้เพิ่ม

“อาคม” รับเงินกู้ 1 ล้านล้าน ใกล้เกลี้ยงแล้ว เจอโควิด ระลอก 3 ต้องขอกู้เพิ่ม
ข่าวสด
10 มิถุนายน 2564 ( 01:19 )
70
“อาคม” รับเงินกู้ 1 ล้านล้าน ใกล้เกลี้ยงแล้ว เจอโควิด ระลอก 3 ต้องขอกู้เพิ่ม

 

“อาคม” รับเงินกู้ 1 ล้านล้าน ใกล้เกลี้ยงแล้ว เจอโควิด ระลอก 3 ต้องขอกู้เพิ่มเสริมสภาพคล่อง ยันหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจ่อชนเพดานแค่คาดการณ์

 

ต่อมาเวลา 23.50 น. นายอาคมเติม พิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงในการประชุมพิจารณา พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดต่เชื้อไวรัสโคโนนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่คาดคิด และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการใช้เงิน ซึ่งข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่างๆ ของสภาฯ ทางเราก็จะน้อมรับนำไปพิจารณาและนำไปแก้ไขให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพราะว่าในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประสบกับการแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 และพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น ก็ได้อนุมัติโครงการจนเหลือเงินไม่มาก จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเงินเพื่อมารองรับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนและเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเราก็อยากให้สถานการณ์จบเร็ว

 

นายอาคม ชี้แจงว่า การกู้เงินของกระทรวงการคลังโดยสำนักบริหารหนี้ มีหลายรูปแบบ ทั้งการจากการกู้ผ่านสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ในรูปแบบพันธบัตรออมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน แล้วแต่ประเภท เพื่อระดมทุนหรือมาใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนสภาพคล่อง โดยในประเทศ 98% ซึ่งการกู้ภายในประเทศก็มีประเด็นที่จะต้องหารืออยู่ตลอดเวลากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้การกู้เงินและการออกพันธบัตรต่างๆ ไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินภายในประเทศ

 

เพราะหากดูดเงินออกมามาก ก็จะไปกระทบกับภาคเอกชนที่มีความต้องการใช้จ่ายเงินเช่นเดียวกัน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกู้เงิน เพราะจะต้องกู้ เมื่อต้องมีความจำเป็นใช้เงิน และมีแผนงาน โครงการ และความพร้อมในการอนุมัติ

 

นายอาคม ชี้แจงอีกว่า ส่วนประเด็นการใช้เงินคืนเมื่อไรนั้น ความจริงเมื่อกู้เงินแล้วก็จะไปรวมอยู่ในเรื่องของจำนวนหนี้ที่เรามีอยู่ทั้งหมด โดยการใช้หนี้ 5 แสนล้านบาท ก็จะไม่ได้ใช้ในทันที แต่จะดูในเรื่องของหนี้ที่ครบชำระก่อน และดูว่าต้นทุนของการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างแหล่งเงินหนึ่งไปอีกอย่างหนึ่งนั้นเป็นอย่างไร

 

ส่วนกรณีหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ที่สมาชิกสภาฯ ระบุว่าในสิ้นเดือนก.ย. หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะอยู่ที่ 58.56% ประเด็นนี้ก็ขอเรียนว่าเป็นเรื่องของการคาดประมาณการณ์ และสมมติฐานว่าเราจะขาดเงินเท่าไหร่และมีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลเท่าไหร่

 

จากนั้น นายชวน ชวนหลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธาน ได้สั่งพักการประชุมในเวลา 00.25 น. และนัดประชุมต่อในเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิ.ย.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง