รถไฟฟ้าจะไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพฯ อีกต่อไป เพราะระบบขนส่งมวลชนไทยกำลังกระจายตัวสู่ต่างจังหวัด หากติดตามข่าวจะได้ทราบข่าวคราวว่าจังหวัดต่างๆ จะมีรถไฟฟ้าในตัวเมืองแล้ว สาเหตุมาจากการจราจรติดขัดได้เกิดขึ้นในเขตเมืองของต่างจังหวัดแล้วเช่นกัน เนื่องจากคนต่างจังหวัดมักนิยมซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทำให้ช่วงวันทำงานเวลาเช้าและเย็นมักเกิดปัญหารถติดไม่ต่างจากกรุงเทพฯ แต่มองอีกมุม ถ้าเป็นคนต่างจังหวัดแล้วไม่มีรถใช้ จะรู้เลยว่าเป็นทุกข์ขนาดไหน ต้องนั่งรถสองแถว สามล้อ รถตู้ หรือไม่ก็ตุ๊กตุ๊กเอา ฮ่า ๆ ช่วงหลังดีขึ้นมาเล็กน้อยเพราะว่ามีรถแท็กซี่ในบางจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และมีแอปพลิเคชันเรียกรถต่าง ๆ เข้ามามากขึ้น แต่ขนส่งสาธาณะยังถือว่าทางเลือกน้อยอยู่ จนกระทั่งรถไฟฟ้ารางเบาได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น บางคนอาจจะงงว่ารถไฟฟ้ารางเบาเป็นแบบไหน อันเดียวกับรถไฟฉึกกะฉักไหม ขอบอกไว้เลยว่าคนละอย่าง ต่างจากรถไฟฉึกกะฉักแน่นอน เพราะรถไฟใช้ไอน้ำ แต่รถไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าจ้า ฮ่า ๆ รถไฟฟ้าในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Light Rail Transit หรือย่อว่า LRT แปลเป็นไทยคือรถไฟฟ้ารางเบา เรียกอีกชื่อว่าแทรมก็ได้ (Tram) เพราะเหมาะกับเมืองขนาดกลางและเล็ก ประชากรปานกลาง ไม่ต้องขนส่งคนจำนวนมากเหมือนใน กทม. แต่มีรางสร้างคู่ไปกับถนนเลย ทีนี้มาดูกันว่า รถไฟฟ้าไทยในต่างจังหวัดที่รัฐบาลคอนเฟิร์มแล้วมีจังหวัดไหนกันบ้าง แต่ในที่นี้จะเลือกอัปเดตเฉพาะที่โครงการรถไฟฟ้าที่รับผิดชอบโดย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เท่านั้น ไม่รวมโครงการที่เอกชนแต่ละจังหวัดจะสร้างเองนะ เท่าที่ทราบตอนนี้มีสงขลาและขอนแก่น ข้อมูลยังไม่แน่นอนว่าจะเสริมสร้างตอนไหนและอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง สำหรับ รฟม. นั้น กำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าใน 4 จังหวัดใหญ่ของไทย ดังนี้ (อัปเดต ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2563) 1) ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง (ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี) เป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนค่อนข้างมาก เพราะเพิ่งมีการจัดสัมมนาสื่อมวลชนเพื่อชมระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ไปเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2563 เชียงใหม่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยและมีชาวต่างชาติเดินทางไปมากมาย จะเริ่มก่อสร้างในปี 2565 คาดว่าจะเสร็จปี 2570 ระยะทางทั้งสิ้น 16 กม. และมีจำนวน 16 สถานี 2) ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ช่วงตลาดเซฟวัน - สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) เพิ่งมีการจัดการประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 2 ไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 ค่อนข้างล้มลุกคลุกคลาน เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งในที่ประชุมว่ามีปัญหาและความจัดแย้งบางอย่างจนต้องขอให้เปลี่ยนเส้นทาง ระยะทาง 11.17 กม. มีสถานีจำนวน 20 สถานี คาดว่าจะก่อสร้างเดือน เมษายน 2565 เปิดให้บริการต้นปี 2568 3) ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต (ช่วงท่านุ่น - สนามบินภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง) เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีต่างประเทศสนใจ เพราะฝรั่งเศสได้มาร่วมประชุมเพราะอยากจะลงทุนด้วย เนื้อหอมไม่เบาทีเดียว และการก่อสร้างจะพิเศษหน่อย เพราะจะแบ่ง 2 ระยะ ถ้าติดตามข่าวสารบางที่ก็จะเขียนชื่อช่วงแค่ระยะที่ 1 อย่างเดียว เพราะกว่าจะได้สร้างระยะที่ 2 ก็คงกินเวลาหลายปี โดยแต่ละระยะมีรายละเอียด ดังนี้ - ระยะที่ 1 ช่วงสนามบินนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม. จำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2564 และเปิดให้บริการในปี 2567 - ระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น – เมืองใหม่ ระยะทาง 16.8 กม. ส่วนระยะทาง จำนวนสถานี การก่อสร้างและการเปิดให้บริการ จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง 4) ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดง (ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก – เซ็นทรัลฯ พิษณุโลก) ถือเป็นน้องใหม่ล่าสุดที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา อีกหนึ่งจังหวัดในภาคเหนือที่มีรถแทรม เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีวัดที่สวยงามและโด่งดันอันดับต้น ๆ ของประเทศ ทำให้ตอนนี้ภาคเหนือ มีรถไฟฟ้ารางเบามากที่สุดในไทย เริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569 เป็นรูปแบบ “รถรางล้อยาง” (Auto tram) ระยะทาง 12.6 กม.จำนวน 15 สถานี แอบส่องโครงการรถไฟฟ้ารางเบา 4 จังหวัดใหญ่ของไทย