ในปี 2567 นี้หลายๆ แบรนด์ได้ออกมือถือหลายรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 5,000 บาทและบางรุ่นก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับผู้อ่านที่มีงบประมาณในการซื้อพอดีหรือจำกัด แต่ก็ยังต้องการมือถือที่มีคุณภาพกำลังดี ปลอดภัย สเปคแรงแถมกล้องยังสวยอีกด้วย และนี่คือ 5 รุ่นที่ครีเอเตอร์ Chaplucat คัดสรรมาให้ผู้อ่านได้อ่านนั้นเองครับเพราะจากการประเมินคนไทยในช่วงปี 65-66 ทำให้หน่วยงานหลายๆ หน่วยงานพบว่าคนไทยมากกว่า 60% จะเลือกซื้อมือถือราคาถูกมากกว่ามือถือราคาแพงมากขึ้น ซึ่งมือถือบางรุ่นที่มีราคาถูกหรือรุ่นเก่าเกินไป ก็จะเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานหรือไม่ก็ผลิตไม่ได้มาตรฐาน พังง่ายเกินไป แต่หากเลือกราคาแพงเกินไป จะไม่พองบประมาณหรือหากต้องเสียค่าซ่อมและอะไหล่ก็จะแพงตามรุ่นนั้นๆ ด้วย1.SAMSUNG Galaxy A05sมือถือแบรนด์เกาหลีค่ายดัง วันนี้มาในรุ่นรองน้องเล็กที่มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายๆ อย่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง A04s ถือว่าคุ้มมากๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 50 ล้านให้ใช้งาน มีการใช้ชิปประมวลผล Snapdragon® 680 ทำให้เล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปแบบประจำวันได้สบายๆ สามารถชาร์จเร็วได้สูงสุด 25W มาพร้อมความจุเริ่มต้นเลยที่ 128 GB ข้อดี :ได้หน้าจออัตรารีเฟรชเรทถึง 90 ความละเอียด FHD+ พร้อมกับขนาดของจอ 6.7 นิ้วสามารถชาร์จตัวเครื่องได้ด้วยสาย USB-C แบบสบายๆ เลย แถมรองรับการชาร์จเร็ว 25Wมีความจุแรมเริ่มต้นที่ 6 GB และหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 128 GB เลยเหมาะกับสายเกมมิ่งพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวคือ กล้องหลัก 50 ล้าน กล้องมาโคร 2 ล้านและกล้อง Depth 2 ล้านข้อเสียใช้เป็น OneUi รุ่นปกติส่งผลให้กินทรัพยากรเครื่องเยอะ ทำให้ค่อนข้างหน่วงบ้างไม่แถมอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ภายในกล่องแล้วราคาที่วางจำหน่าย : 4,999 บาท ( ความจุ 6/128GB )2.Redmi 13cคราวนี้มาจีนบ้าง! กับรุ่นนี้เลย Redmi 13c ที่พึ่งเปิดตัวมาไม่นาน รุ่นนี้ให้ขนาดหน้าจอมาอยู่ที่ 6.74 นิ้ว มีอัตรารีเฟรชเรทถึง 90Hz แถมยังมีใบรับรองจาก TÜV ด้วยว่าจอแสดงผลรุ่นนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา แล้วรุ่นนี้ยังเป็นมือถือราคาถูกแบรนด์แรกๆ เลยที่มาพร้อมกับความจุแรมถึง 16 GB ทำให้ไม่ว่าจะเปิดกี่แอพก็ใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีอาการหน่วง พร้อมกับยังชาร์จเร็วสูงสุด 18W และรองรับ 5G ด้วยข้อดี :ดีไซน์แปลกใหม่ดูเท่และมีสไตล์ มีการเคลือบด้วยกระจก Corning Gorilla ทนทานกว่าได้หน้าจอแบบ LCD ที่มาพร้อมขนาดใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว พร้อมกับมีอัตรารีเฟรชเรทถึง 90Hzเป็นมือถือราคาถูกรุ่นแรกๆ ที่มาพร้อมกับการรองรับ 5G แบบ Wi-Fi ทำให้โหลดข้อมูลเร็วขึ้นมีความจุแรมเริ่มต้นที่ 14GB และหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 128GB เลย ใช้งานทั่วไปประจำวันลื่นๆข้อเสียอแดปเตอร์ภายในกล่องแถมมาเพียงแค่ 10W เท่านั้น ต้องหาซื้อแยกใช้งานเอา หากต้องการชาร์จเร็วเหมือนกับมือถือราคาถูกทั่วๆ ไปบางครั้งจะมีแอพที่ไม่ต้องการติดตั้งมากับเครื่อง ทำให้เปลื้องพื้นที่มากกว่าเดิมราคาที่วางจำหน่าย : 3,999 / 4,799 บาท ( ความจุ 6/128 และ 8/256GB )3.Vivo Y17sหนึ่งในแบรนด์ที่หลายๆ คนพบเจอตามห้างต้องรุ่นนี้เลยกับ Y02t มือถือรุ่นรองน้องเล็กสุดจากทางค่าย ที่มาพร้อมกับแรมมากถึง 12GB ใช้งานเปิดแอพได้ยาวๆ พร้อมกล้องคู่รุ่นใหม่สามารถถ่ายโหมด Portrait และกลางคืนได้สวยงามเนียนตากว่าเดิม สามารถกันน้ำกระเซ็นใส่ได้ไม่ต้องกลัวพัง ถูกใจสายถ่ายภาพมากแน่ๆ แล้วยังมีการปรับปรุงหน้าจอแสดงผลสว่างถึง 840 นิตใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ เลย ข้อดี :ฟีเจอร์ดีที่สุดที่มือถือในช่วงราคานี้ไม่มีคือ สามารถกันน้ำกระเซ็นใส่หลังเครื่องได้ได้หน้าจอแบบ LCD ที่มาพร้อมขนาด 6.56 นิ้ว สามารถแสดงผลสว่างถึง 840 นิต ปรับปรุงกล้องหลังคู่รุ่นใหม่ ช่วยให้ถ่ายโหมดกลางคืนกับ Portrait ได้สวยงามเนียนตาขึ้นกว่าเดิมมีความจุแรมเริ่มต้นที่ 12GB และหน่วยความจำที่ 128GB สามารถใช้งานได้แบบลื่นไหล ไม่มีหน่วงค้างข้อเสียความละเอียดของรุ่นนี้ได้แค่ HD+ เท่านั้นค่อนข้างน้อยและสีของจอไม่ค่อยดูสดเท่าไหร่ราคาที่วางจำหน่าย : 4,690 บาท ( ความจุ 12/128GB )4.Oppo A18แบรนด์ที่อยู่ข้างกับ Vivo ก็ต้อง Oppo เลยกับ A18 มือถือรุ่นน้องเล็กสุดที่ถูกอัปเกรดใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ที่มาพร้อมกับการรับประกันเลยว่าสามารถใช้ได้ลื่นไหลยาวๆ เลย 3 ปี รุ่นนี้มีการอัปเกรดใหม่เหมาะกับสายชอบดูหนังเลย เพราะมีการปรับปรุงให้จอถึง 720 นิตและรองรับขอบเขตสีกว้าง P3 แถมยังมีการเลือกลำโพงรุ่นใหม่เสียงดังกว่ามือถือทั่วไปถึง 3 เท่าเลย แถมยังสามารถกันน้ำกระเซ็นใส่ฝาหลังได้ด้วย และมีการใช้ Ai ผสมกับกล้องหลังแบบคู่ ในการปรับปรุงคุณภาพของโหมด Portrait ให้เนียนตาสวยงามขึ้น ข้อดี :ฟีเจอร์ดีที่สุดที่มือถือในช่วงราคานี้ไม่มีคือ สามารถกันน้ำกระเซ็นใส่หลังเครื่องได้ได้หน้าจอ AMOLED ที่มาพร้อมขนาด 6.56 นิ้ว สามารถแสดงผลสว่างถึง 720 นิต ปรับปรุงลำโพงแบบใหม่ ทำให้เสียงดังขึ้นกว่ามือถือรุ่นปกติถึง 3 เท่าและจอที่รองรับขอบเขตสี P3มีการใช้ Ai ผสมกับกล้องหลังแบบคู่ ช่วยปรับปรุงคุณภาพของโหมด Portrait ให้เนียนตาสวยงามขึ้น ข้อเสียปัญหาความร้อนของตัวเครื่อง สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติไม่เหมือนมือถือทั่วไปอะไหล่และศูนย์บริการของเครื่อง ค่อนข้างหายากและมีราคาที่แพงกว่าปกติราคาที่วางจำหน่าย : 4,190 บาท ( ความจุ 4/128GB )5.Redmi A3อยากได้มือถือดีไซน์เก๋ๆ ต้องรุ่นนี้เลย Redmi A3 ที่พึ่งเปิดตัวมาไม่นานเช่นกัน รุ่นนี้ให้ขนาดหน้าจอมาอยู่ที่ 6.71 นิ้ว มีอัตรารีเฟรชเรทถึง 90Hz แถมรุ่นนี้ยังใช้ดีไซน์แปลกใหม่ดูเท่และมีสไตล์แบบรุ่นพี่อย่าง Xiaomi 14 Ultra เลยแถมยังมีการเคลือบด้วยกระจก Corning Gorilla ทำให้ทนทานกว่ามือถือทั่วไป โดยเฉพาะสีเขียวที่เปลี่ยนฝาหลังจากกระจกเป็นวัสดุคล้ายผ้าหนัง มีการปรับปรุงให้สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ HyperOS ได้ยาวๆ ถึง 2 ปีเต็มๆ แถมยังมีความจุแรมมากถึง 8GB ด้วยข้อดี :ดีไซน์แปลกใหม่ดูเท่และมีสไตล์ มีการเคลือบด้วยกระจก Corning Gorilla ทนทานกว่าได้หน้าจอแบบ LCD ที่มาพร้อมขนาดใหญ่ถึง 6.71 นิ้ว พร้อมกับมีอัตรารีเฟรชเรทถึง 90Hzโดยเฉพาะสีเขียวที่เปลี่ยนฝาหลังจากกระจกเป็นวัสดุคล้ายผ้าหนังทำให้ดูหรูหรากว่ามือถือทั่วไปมีความจุแรมเริ่มต้นที่ 11GB และหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 64GB เลย ใช้งานทั่วไปประจำวันสบายๆข้อเสียแม้จะใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C แต่ก็ชาร์จเร็วเพียงแค่ 10W เท่านั้นกล้องความละเอียดค่อนข้างต่ำไปหน่อย อย่างน้อยต้องเริ่มต้นที่ 12 ล้านพิกเซลราคาที่วางจำหน่าย : 2,699 / 3,199 บาท ( ความจุ 3/64 และ 4/128GB)สำหรับผู้อ่านที่มีงบประมาณพอดี แต่ต้องการมือถือที่มีคุณภาพดีเพื่อใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นมือถือเหล่านี้ที่ครีเอเตอร์เลือกคัดสรรมาให้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้อ่านก็ได้ แต่! อย่างไรก็ตามผู้อ่านก็ควรตรวจสอบข้อมูลของมือถือเพิ่มเติมและรีวิวจากผู้ใช้งานจริงด้วยครับ เพื่อให้ได้ภาพรวมที่ชัดเจนและเลือกซื้อแต่ละรุ่นได้ง่ายขึ้นด้วยนะครับวันนี้ครีเอเตอร์ Chaplucat ขอตัวลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับ ^^ เครดิตภาพขอบคุณภาพที่ 1 จาก : Samsung ประเทศไทย ขอบคุณภาพที่ 2 จาก : Xiaomi ประเทศไทย ขอบคุณภาพจาก : Vivo ประเทศไทย ขอบคุณภาพที่ 3 จาก : OPPO ประเทศไทย ขอบคุณภาพที่ 4 จาก : Xiaomi ประเทศไทย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !