รีเซต

รมว.ท่องเที่ยว โปรยยาหอม ดันสงขลา Sport City และ Mice City รับท่องเที่ยววิถีใหม่

รมว.ท่องเที่ยว โปรยยาหอม ดันสงขลา Sport City และ Mice City รับท่องเที่ยววิถีใหม่
ข่าวสด
21 มีนาคม 2565 ( 12:18 )
28

รมว.พิพัฒน์ โปรยยาหอม พร้อมผลักดันสงขลาเป็น “Sport City และ Mice City” ยก งานลองเล่นสงขลาบีชแจม สู่เทศกาลนานาชาติ ปี66 รองรับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่

ชายหาดชลาทัศน์ อ.เมือง จ.สงขลา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประธานพิธีเปิดงานลองเล่นสงขลาบีชแจมครั้งที่ 2

พร้อม นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา น.ส.มัณฑนา ภูธรารักษ์ ผอ.ทท.ททท สำนักงานหาดใหญ่ และ นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมกิจกรรมท่องเทียวเชิงกีฬา ปั้นงานลองเล่นสงขลาบีชแจม ให้เป็นงานเทศกาลระดับนานาชาติปี 66 รองรับเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ความนิยมกีฬาประเภทเซิร์ฟที่สูงขึ้น

เนื่องจากสงขลาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เป็นหัวเมืองใหญ่ทางธุรกิจของภาคใต้ มีโรงแรมที่ได้มาตรฐานจำนวนมาก มีชายหาดที่สวยงาม มีสนามบินนานาชาติ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้เมือง

ทั้งได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมือง SPORT CITY และ MICE City มีความพร้อมรองรับงานใหญ่ๆระดับนานาชาติได้ ปี 65 กระทรวงฯ ได้มีแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนให้สงขลาเป็นเมืองการท่องเที่ยวเชิงกีฬา อย่างยั่งยืน

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า งาน “ลองเล่นสงขลาบีชแจม” เป็นกิจกรรมประเภท Festival ที่มีความน่าสนใจ มีรากฐานที่แข็งแรง จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจ ให้เมืองสงขลาเป็นอย่างดี ทั้งทิศทางการจัดงานที่จับเอา เทรนกีฬาโลก อย่าง เซิร์ฟ และเซิร์ฟสเก็ตเป็น core value ของงาน แต่สามารถให้คนทั่วไป และนักท่องเทียว เข้ามาดื่มด่ำ ความสุขจากบรรยากาศของงาน จากกิจกรรมสันทนาการ ดนตรี อาหารและเครื่องดื่ม จากร้านในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

“ด้วยศักยภาพของงาน และศักยภาพของการเป็นเมือง MICE City ของจังหวัดสงขลา ที่มีความพร้อมของเมือง สถานที่จัดงาน ผู้ประกอบการ ชุมชน พร้อมด้วยมาตรฐาน และการอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับการเป็นเมืองเจ้าภาพจัดงานทำให้ สสปน. เชื่อมั่นว่า งานเทศกาลอย่างงานลองเล่น สามารถใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ไปถึงความเป็นอยู่ของท้องถิ่น และเมือง ได้อย่างยั่งยืน” นายพิพัฒน์กล่าวปิดท้าย