เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Apple ก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง iPhone 16e ครับ ที่มาพร้อมกับความคาดหวังมากมายจากผู้ใช้งานทั่วโลกครับ แต่คำถามสำคัญคือ "มันคุ้มค่าไหม?" แล้วมันมีจุดเด่นอะไรบ้างที่ทำให้เราควรสนใจ? วันนี้ แต้มเอง จะมาทำการพรีวิวให้ทุกท่านได้ทราบกันครับผม ดีไซน์ของตัวเครื่อง iPhone 16e ยังคงรักษาดีไซน์คลาสสิกแบบที่เราคุ้นเคยจาก iPhone 14 มาครับ ด้วยขอบเครื่องทรงเหลี่ยม กรอบอะลูมิเนียม และหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ที่มากับรอยบากของ Face ID ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของ iPhone ไปแล้วครับ ฝาหลังเป็นกระจกสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ให้ความรู้สึกหรูหราพอสมควรครับ รุ่นนี้มีสองสีให้เลือก คือ สีขาวและสีดำ ซึ่งเรียบง่ายและเหมาะสมกับทุกสไตล์ครับ น่าเสียดายที่ Apple ไม่ได้เพิ่มสีใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามา แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันคือการมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายครับ ปุ่ม Action กับคุณสมบัติใหม่ที่ใช้งานได้จริง หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ iPhone 16e คือปุ่ม Action ที่มาแทนปุ่ม Silent Switch บน iPhone รุ่นก่อนครับ คุณผู้อ่านสามารถตั้งค่าปุ่มนี้ให้ทำงานได้หลากหลาย เช่น ใช้เปิด/ปิดเสียง, เปิดไฟฉาย, เปิดกล้อง หรือฟังก์ชันอื่นๆ ที่คุณต้องการครับผม ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งานที่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้นครับ นอกจากนี้ยังสามารถปรับการทำงานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตได้มากขึ้นอีกด้วย หน้าจอ Super Retina XDR คมชัดและทนทาน iPhone 16e ใช้หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้วที่ให้สีสันสดใสและคมชัดครับ ความละเอียดของหน้าจอก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีมากๆ ครับ นอกจากนี้ตัวกระจก Ceramic Shield ที่ทนทานต่อการขีดข่วนและการตกกระแทกก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยให้คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลหน้าจอมากนักครับผม กล้อง Fusion Camera 48MP หนึ่งในจุดที่ Apple ตั้งใจทำให้ดีขึ้นใน iPhone 16e คือกล้องครับ ตัวกล้องหลังใช้ระบบ Fusion Camera ความละเอียด 48MP ซึ่งให้ภาพคมชัดและมีการปรับปรุงในเรื่องของ Hybrid Focus Pixel ที่ช่วยให้การโฟกัสและการถ่ายภาพนั้นทำได้ดีขึ้นในทุกสภาพแสงครับ จุดเด่นคือกล้องนี้สามารถทำงานได้เหมือนกับมีเลนส์สองตัวในตัวเดียว ได้แก่ เลนส์ Wide (1x) และ Telephoto (2x) ครับ ทำให้สามารถถ่ายภาพที่มีระยะไกลขึ้นได้ โดยยังคงความละเอียด 12MP อยู่ครับ นอกจากนี้ยังมีระบบ OIS (Optical Image Stabilization) ที่ช่วยลดการสั่นของภาพขณะถ่ายอีกด้วยครับ น่าเสียดายที่ไม่มีเลนส์ Ultra-wide มาให้ทำการถ่าย Macro หรือภาพใกล้ชิดครับผม ชิป A18 ประสิทธิภาพเป็นเลิศ iPhone 16e มาพร้อมกับชิป A18 ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm รุ่นที่ 2 ซึ่งทำให้มันมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจนครับ คุณผู้อ่านจะเห็นถึงการใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมหรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่หนักๆ ครับ การใช้ชิป A18 นี้สามารถทำให้ประสิทธิภาพของ iPhone 16e ดีกว่า iPhone SE 3 ถึง 40% เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ยังรองรับ Ray-tracing และ Neural Engine 16-core ที่จะทำให้การใช้งาน AI หรือการประมวลผลต่างๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้นครับผม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น Apple ไม่ได้ระบุความจุของแบตเตอรี่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple บอกว่า iPhone 16e มีเวลาใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ ครับ โดยมีการทดสอบเปรียบเทียบว่า iPhone 16e ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 11 ถึง 6 ชั่วโมง และ iPhone SE ถึง 12 ชั่วโมงครับผม ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีมากๆ ในการยืดระยะเวลาใช้งานให้ยาวนานขึ้นครับ พอร์ต USB-C สิ่งที่น่าสนใจที่สุดใน iPhone 16e คือการใช้พอร์ต USB-C แทนพอร์ต Lightning ครับ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด เพราะมันหมายถึงการปิดตำนานพอร์ต Lightning ของ iPhone ไปแล้วครับ อย่างไรก็ตาม iPhone 16e รองรับ USB 2 ซึ่งทำให้การถ่ายโอนข้อมูลอาจจะไม่เร็วเท่าพอร์ต USB 3 ที่อยู่ใน iPhone Pro ครับ นอกจากนี้ยังไม่มีการรองรับ MagSafe บนรุ่นนี้ซึ่งเป็นการตัดฟีเจอร์ที่หลายคนชอบครับ โดยส่วนตัวแล้ว iPhone 16e ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับสำหรับผู้ที่อยากได้ iPhone ที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่ไม่สูงมากนักครับ แม้ว่าจะขาดฟีเจอร์บางอย่างเช่น MagSafe หรือพอร์ต USB-C ที่รองรับความเร็วสูงสุด แต่ก็ยังคงตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วไปได้ดีครับผม ถ้าคุณผู้อ่านมองหาความคุ้มค่ากับการใช้งานในชีวิตประจำวัน iPhone 16e ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะคุณได้ทั้งดีไซน์ที่เรียบหรู ฟีเจอร์ที่ครบครัน และประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในราคาที่เหมาะสมครับ น่าซื้อไหม? ถ้าคุณไม่ต้องการฟีเจอร์พิเศษหรือคุณเป็นคนที่ต้องการ iPhone ที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่าครับ นี่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่เลวเลยครับ ราคาและความคุ้มค่า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท iPhone 16e ความจุ 128GB ราคา 22,900 บาท iPhone 16e ความจุ 256GB ราคา 26,900 บาท iPhone 16e ความจุ 512GB ราคา 34,900 บาท คุณผู้อ่านสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายหน้าร้านวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ครับรุ่น 128GB ถือว่าไม่แพงเกินไปครับ เมื่อเทียบกับสเปกและประสิทธิภาพที่ได้ครับผม ถือว่าคุ้มค่ามากครับ นอกจากนี้ยังมีรุ่นความจุ 256GB และ 512GB ให้เลือก ตามความต้องการของผู้ใช้ครับ สำหรับใครที่มองหา iPhone ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล iPhone 16e ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ ด้วยการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่คลาสสิก กล้องที่ดีขึ้น ชิป A18 ที่เร็วขึ้น และการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิมครับผม นี่คือ iPhone ที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงราคาไม่เกิน 30,000 บาทครับ นั่นเองครับ นอกจากนี้ คุณผู้อ่านก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพประกอบบทความ รูปที่ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 จาก Apple News Room รูปภาพหน้าปก - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !