วันนี้ผมมีโอกาสกลับเข้าป่าอีกครั้ง เป็นที่ที่สมัยพ่อกับแม่ยังคงปลูกมันสำปะหลังท้ายป่าดง เรียกได้ว่าหลังเขาจริง ๆ พ่อปลูกกระท่อมไว้ท้ายเขาลูกใหญ่ในอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ชื่อ “เขาสะบ้า” หากนึกย้อนไปมันคือช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่ง ได้เล่นกับธรรมชาติ คลุกดิน คลุกฝุ่น ได้หนีระเบิด(เพราะสมัยก่อนเขาลูกนี้ถูกใช้ซ้อมยิงปืนใหญ่) ติดอยู่กับแม่ตอนพายุพัดกระท่อมพัง เรียกได้ว่านึกถึงทีไรก็จะมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ตกเย็นเดินตามพ่อไปอาบน้ำตามบ่อบ้าง น้ำตกแอ่งน้ำบ้าง มีเจ้าหมาตัวโปรดกระดิกหางตามไปด้วยความเป็นเด็กเราจึงเดินระเรื่อยไปตลอด เพราะมันมีลูกไม้ป่าให้เด็ดกินตลอดทาง ทั้งหมากเม่า เล็บเหยี่ยว ลูกพรม ตะขบ โดนพ่อดุทุกทีว่าเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน ดอกกล้วยเต่าในบรรดาลูกไม้ป่าทั้งหลาย ผู้เขียนจะชื่นชอบ “กล้วยเต่า” เป็นที่สุดบางที่ก็เรียก “ไข่เต่า” แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกน่ารัก น่ากินแล้วใช่ไหมล่ะ? ยิ่งเวลาเห็นลูกของมันยิ่งอยากลิ้มลองเข้าไปอีกตามประสาเด็ก ๆ ลูกสีเหลืองสดใส กินแล้วหวานติดใจ ห้อยเป็นพวงอยู่ใต้พุ่มเตี้ย ผมมักจะอ้อนพ่อให้ช่วยเก็บเสมอ ๆ เด็ดจากขั้วมาได้แลเห็นผลกลมมนเป็นข้อ ๆ ดูคล้ายตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา ชวนให้เด็ดลูกเขียวติดมือกลับกระท่อมแทนของเล่น พ่อมักว่า “เด็ดลูกที่ควรเด็ด กินลูกที่ควรกิน เราต้องอาศัยอยู่ป่าอีกนาน” จนจำได้ขึ้นใจ พ่อยังสอนว่ากล้วยเต่าช่วยแก้โรคซาง ตานขโมย เวลามีไข้ตัวร้อนเอารากมาต้ม นอกจากอร่อยแล้วยังแก้ปวดท้องมิน่าตอนเด็ก ๆ เราไม่ค่อยป่วย เพราะกินแต่ของดีตามธรรมชาติ ผลกล้วยเต่าเมื่อสุกเมื่อได้ย้อนกลับเข้าป่าดงแม้ไม่อาจย้อนวัย กล้วยเต่าเพื่อนเก่ายังพออวดลูกเหลืองสดให้เห็นบ้าง แต่ป่าที่เคยวิ่งเล่นสมัยเด็กบางลงไม้ใหญ่ถูกตัดโค่น มองดูน่าใจหายด้วยความเสียดายเพราะมันคือที่หล่อหลอมให้เราเป็นคนรักธรรมชาติ และศิลปะ เหมือนห้องสมุดใหญ่ เหมือนห้องครัวกว้าง ๆ สมัยเด็กยังคิดในใจเลยว่าต่อให้หลงป่าก็ไม่มีวันอดตาย กล้วยเต่าลูกโต ๆถึงยามนี้สิ่งหนึ่งที่อยู่ในหัวใจเรามาตลอดคือ จะกลับเข้าป่าถอยห่างจากคนและสังคมที่วุ่นวาย ขอใช้ชีวิต กับธรรมะและธรรมชาติจะปลูกป่าที่เคยวิ่งเล่นให้กลับมาเขียวอีกครั้ง รอหน่อยนะ กล้วยเต่าเพื่อนเก่าไม่นานพวกนายจะกลับมาขึ้นเต็มป่าดังเดิมปกและภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน