ข้อดี-ข้อเสีย งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว มีอะไรบ้าง?สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาไขคำตอบให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง ที่ผ่านมาทั้งการเป็นพนักงานประจำ และการประกอบธุรกิจส่วนตัว ปัจจุบันผมขายของ ตลาดนัดทั่วไป ผมออกจากงานประจำมาได้ 2-3 ปีแล้ว ช่วงนี้ถือเป็นช่วงหนักสุดๆแล้ว สินค้าที่ผมขายเป็นสินค้าแฟชั่น ปรากฏว่าขายยากมาก ขายได้แต่ละวัน หักทุน หักค่าน้ำมัน หักค่ากิน แทบไม่ได้กำไรเลย ติดลบอีกต่างหาก ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ใครที่มีงานประจำ ควรจะคิดดีๆ ก่อนจะออกมาหาความท้ายทาย ในสมรภูมิชีวิตแบบผม เพราะถ้าคุณเลือกที่จะออกมาเป็นนายตัวเอง มันมีผลลัพธ์แค่สองทางครับคือ ปัง กับ แป๊ก อยู่ที่ว่าคุณจะรับความเสี่ยงได้มั้ย ไม่ใช่ว่าผมจะห้าม ให้ทำธุรกิจส่วนตัวนะครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าอยากเป็นนายตัวเอง ต้องศึกษาให้ดีก่อน ต้องรู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่เราคิดจะทำ ลองขายของควบคู่ไปกับงานประจำไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยง ดีกว่าออกมาเสี่ยงทั้งที่เราไม่มีประสบการณ์และพื้นฐานความรู้อะไรเลย เพราะมันจะทำให้เราเจ๊ง เหมือนที่ผมเคยเจอมาครับ เกริ่นมาซะยาวเลย เราไปดูกันดีกว่าว่า ข้อดี-ข้อเสีย งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว มีอะไรบ้าง?งานประจำข้อดีของการทำงานประจำ1.มีรายได้อย่างสม่ำเสมอข้อดีของอาชีพรับจ้าง(พนักงานประจำ) คือการมีรายได้สม่ำเสมอในทุกๆเดือน แต่ละบริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานไม่เหมือนกัน บางบริษัทก็จ่ายทุกวันที่ 15 กับ สิ้นเดือน หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า เงินออกเป็น วิก แบ่งจ่าย 2 ครั้ง กลางเดือนกับสิ้นเดือน บางบริษัทก็ สิ้นเดือนทีเดียวเลย หรือไม่ก็ทุกวันที่ 25 ของเดือน มีรายได้สม่ำเสมอ ความหมายคือได้เงินชัวร์สม่ำเสมอทุกเดือน ยกเว้นบริษัทปิดตัวลง2.ไม่ต้องลงทุนสำหรับคนที่ไม่รู้จะขายอะไร การทำงานประจำก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ไม่ต้องลงทุนให้มีความเสี่ยง เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ไม่ใช่เจ้าของ ฉะนั้นถือเป็นข้อดีของอาชีพรับจ้าง เช้าทำงาน เย็นกลับบ้าน สบายใจ3.ไม่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดพูดง่ายๆว่าทำงานหน้าเดียว หัวหน้าสั่งอะไร ก็ทำตามคำสั่ง ไม่ต้องไปวุ่นวายกับคนอื่น รับผิดชอบหน้าที่ตัวเองให้เสร็จลุล่วง 4.มีวันหยุด มีโบนัส มีสวัสดิการเพื่อนๆที่ทำงานเก่าของผม พวกเขาเฝ้ารอแต่โบนัสปลายปี ทั้งที่เงินเดือนที่ได้ทุกเดือนแทบไม่พอใช้ การได้โบนัสเปรียบเสมือนว่า พวกเขาถูกหวยรางวัลใหญ่ เลยทีเดียว นอกจากโบนัสแล้ว สิงที่พวกเขาปรารถนาที่สุด คือวันหยุดพักร้อน เหมือนเป็นการได้พักชาร์จแบตไปในตัว หลังจากที่ตรากตรำทำงาน มาอย่างหนักหน่วง ส่วนเรื่องสวัสดิการที่ดีก็สำคัญกับพวกเขาเช่นกันข้อเสียของงานประจำ1.โอกาสน้อยที่จะ "รวย"ถ้าคุณทำงานประจำอย่างเดียวตลอดชีวิต โอกาสที่คุณจะ รวย มีน้อยมากครับ แค่เงินเดือนในแต่ละเดือนก็ไม่พอกินแล้ว ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบ้าน ถ้าออกรถ ก็ค่างวดรถอีก เห็นไหมครับโอกาสรวยแทบมองไม่เห็น ต่อให้คุณมีรายได้เสริม คุณก็ต้องมีรายได้มากกว่างานประจำครับ มันถึงจะพอได้เก็บ2.รายได้จำกัดใช่แล้วครับ การทำงานประจำ รายได้ค่อนข้างจำกัด ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น ถึงจะมีโอทีให้ทำ มันก็ไม่ได้เยอะพอที่จะทำให้คุณสบายได้ เพราะเงิน ไม่ได้รดน้ำแล้วงอกเงยหรือเพิ่มขึ้นมา เห็นด้วยกับผมไหมครับว่างานประจำไม่สามารถมีรายได้ทะลุขีดจำกัดได้3.ทำงานนอกเหนือหน้าที่ตัวเองจากประสบการณ์ของผม การทำงานหน้าเดียวไม่มีอยู่จริงช่วงที่ผมทำงานในโรงงาน งานที่ตนเองรับผิดชอบเสร็จแล้ว ก็ต้องไปกวาดพื้น เก็บขยะไปทิ้ง กลับมาก็ต้องถูพื้นต่อ ถ้าเพื่อนไม่ทำโอที ก็ต้องไปทำงานแทนเพื่อน เยอะแยะจุกจิกมาก เรียกได้ว่า ใช้งานคุ้ม4.ต้องอยู่ในกฎระเบียบการที่ต้องอยู่ในกฎระเบียบเป็นอะไรที่อึดอัดมากๆครับ ความรู้สึกเหมือนให้เราอยู่ในที่แคบๆ ขยับตัวแทบไม่ได้ ความรู้สึกแบบนั้นเลย ห้ามจับกลุ่มคุยกัน ห้ามเข้าห้องน้ำนาน ห้ามทำตัวให้ว่าง ต้องหาอะไรทำตลอดเวลา ห้ามฯลฯ อีกหลายอย่างเต็มไปหมด อึดอัดมากครับธุรกิจส่วนตัวข้อดีของธุรกิจส่วนตัว1.มีโอกาส รวยพ่อค้าแม่ค้าระดับแถวหน้าของประเทศไทย ก็ร่ำรวยจากการทำธุรกิจส่วนตัวทั้งนั้น(การขายของออนไลน์) ผมยังไม่เห็นมีใครที่รับจ้างคนอื่นแล้วรวยเลย ถ้าเราจับธุรกิจถูก เรามีโอกาสมั่งคั่งร่ำรวยได้เลย2.มีอิสระข้อดีของงานอิสระ คืออยากหยุดวันไหนก็หยุดได้ ตามใจฉัน อยากไปเที่ยวไหนก็ไปได้ ไม่ต้องมีหัวหน้างานมาบอกให้ทำนู่นทำนี่ ไม่มีกฎระเบียบ เพราะมัน เป็นธุรกิจของเรา เราจะทำอะไรก็ได้ ตามใจเรา อย่าได้แคร์ครับ3.ตัดสินใจได้ด้วยตนเองธุรกิจเราเวลามีปัญหา หรือเราอยากลองอะไรใหม่ๆ เรามาสารถตัดสินใจเองได้ ไม่จำเป็นต้องรอหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา ชีวิตเราเราเลือกเองได้ไม่ต้องมีคนมาออกคำสั่ง4.มีแรงขับเคลื่อน และ ความคิดสร้างสรรค์หรือเรียกง่ายๆว่า "มีไฟ" เราจะมีไอเดียใหม่ๆตลอด ต้องใช้ความคิดทุกวัน เพื่อความอยู่รอด ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้แตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆในตลาดข้อเสียของธุรกิจส่วนตัว1.ต้องลงทุนยุคนี้มีคนเริ่มทำธุรกิจโดยไม่ต้องลงทุนก็มีนะครับ ที่เค้าสอนๆกันใน Youtube, Facebook แต่ก่อนที่เราจะขายของออนไลน์ได้ เราก็ต้องมีโทรศัพท์ มีอินเตอร์เนต ใช่ไหมครับ? หรือบางคนเถียงว่า ไม่ต้องมีมือถือก็ได้ ยืมเพื่อนเอา คุณจะยืมเค้าทุกวันเหรอครับ บางคนอาจจะแย้งว่า ไม่ต้องมีเงินเติมเนตก็ได้ ไวไฟฟรี ตามคาเฟ่เยอะแยะ คุณจะขยันไปคาเฟ่ทุกวันเหรอครับ แล้วรถที่คุณเอาไป มันก็ต้องเติมน้ำมันใช่ไหมครับ ? นี้แหละครับเค้าเรียกว่าต้นทุนหรือการลงทุน ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกครับไม่เหมือนงานบริษัท ที่เรามีหน้าที่แค่ทำงาน เสร็จแล้วก็กลับบ้าน โดยไม่ต้องลงทุน2.มีความเสี่ยงจากประสบการณ์ของผมเอง ผมออกงานมาครั้งนึงแล้ว เพราะผมอยากเป็นนายตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ชอบอิสระ แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่า การตัดสินใจของผม มีความเสี่ยง คิดแค่ว่าอยากออกจากงานมาขายของ โดยไม่มีประสบการณ์เลย สุดท้ายก็เจ๊ง!!!ไม่เป็นท่า ได้กลับไปทำงานเหมือนเดิม3.รายได้ไม่แน่นอนบางวันได้เยอะ บางวันได้น้อย บางวันหักค่าที่ ค่ากิน ค่าน้ำมัน ไม่เหลือ ช่วงผมออกงานมารอบสอง ช่วงแรกๆขายดีมาก เพราะมีโครงการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล คนใช้เงินไม่คิด วันไหนพีคๆ ขายได้เป็นหมื่น แต่ปัจจุบันนี้ ยอดลดลงอย่างน่าใจหาย ผมไม่รู้ว่าผมจะยื้อได้อีกนานแค่ไหน หรือว่าสุดท้ายแล้ว ผมต้องได้กลับไปทำงานประจำอีก4.ปัญหาร้อยแปดที่ต้องเจอธุรกิจมาพร้อมกับปัญหาแน่นอนครับ ถึงแม้ว่า ธุรกิจของผมไม่ใช่ธุรกิจหลักล้าน หลักสิบล้าน แต่ปัญหามันมีแน่นอนครับ ไหนจะปัญหาล็อคข้างๆตั้งกินพื้นที่ เราก็ไม่กล้าว่าเค้า เดี๋ยวจะมีปัญหากัน ไหนจะเรื่องสินค้าเรา มีตำหนิ ชำรุดเสียหาย ไหนจะต้องรีบมือลูกค้าทุกรูปแบบบางคนก็เกะสินค้าโดยที่ไม่ขออนุญาต บางคนทำสินค้าเสียหายแแล้วเดินหนี สิ่งเหล่านี้แหละครับ ที่เรียกว่าปัญหาที่เราต้องเจอ ถ้าเราทำธุรกิจส่วนตัว สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มี ข้อดี ข้อเสีย เหมือนกัน เพื่อนๆที่อยากเป็นนายตัวเองก็ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ ส่วนเพื่อนๆคนไหนยังมีงานประจำทำอยู่ ก็สู้ๆนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ เรื่องโดย Toomtam78เครดิตภาพปก จาก fauxels /pexels.comรูป 1 จาก Christina Morillo/pexels.comรูป 2 จาก Andrea Piacquadio/pexels.comรูป 3 จาก Mehmet Turgut Kirkgoz/pexels.com รูป 4 จาก Nathan Cowley /pexels.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !