แอฟริกาใต้เผย กลุ่มเด็กเล็กรักษาตัวในรพ.พุ่ง หลังโอไมครอนอาละวาด

3 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างความเห็นของแพทย์ในแอฟริกาใต้ระบุว่า ผู้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่เด็กเล็ก หลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดียังเร็วเกินไปที่จะรู้ได้ว่ากลุ่มเด็กเล็กนั้นมีความไวต่อการเกิดโรคเป็นพิเศษสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่

ทั้งนี้สัปดาห์หลังจากแอฟริกาใต้แจ้งเตือนถึงการพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์โอไมครอน ในประเทศ ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วมากกว่าในการระบาด 3 รอบแรกของแอฟริกาใต้ โดยคลัสเตอร์แรกที่พบอยู่ในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย จากนั้นมีการแพร่ลามไปอย่างรวดเร็วในกลุ่มวัยรุ่น ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้แพร่เชื้อไปยังกลุ่มผู้สูงอายุอีกด้วย

อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแอฟริกาใต้ บอกว่า พวกเขาเห็นจำนวนการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และยังเห็นอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปีด้วย

นางวาสซิลา แจสแซท จากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติ(เอ็นไอซีดี)ของแอฟริกาใต้ แถลงว่า เราเห็นการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี

“อุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี ขณะนี้มากเป็นอันดับ 2 และเป็นรองเพียงกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น”

นักวิทยาศาสตร์ของแอฟริกาใต้ให้เหตุผลที่เป็นไปได้หลายประการที่มีต่อแนวโน้มนี้ว่า หนึ่งในนั้นอาจเป็นเพราะเด็กในกลุ่มอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนโรคโควิดตามที่ทางการกำหนด ขณะที่แพทย์รายงานว่าทั้งเด็กและพ่อแม่ที่มีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดนั้น ยังเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ด้านนางมิเชล กรูม หัวหน้าเอ็นไอซีดี กล่าวว่า ไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาดไปมากกว่าการระบาดในช่วงใดในจังหวัดโกเต็ง ที่เป็นศูนย์กลางการระบาด โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าโอไมครอนนั้นแพร่เชื้อได้ง่ายและสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้

ขณะที่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา แอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นในหนึ่งวัน จำนวน 11,535 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดโกเต็ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่แอฟริกาใต้ออกมาร้องเตือนว่าพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่