ภาพประกอบโดยผู้เขียน หนังสือ Thesdays with Morrie เขียนโดย : Match Albom แปลและเรียบเรียงโดย : อมรรัตน์ โรเก้ ติดอันดับหนังสือขายดีตลอดกาลของ New York Time ฉลองครบรอบ 10 ปี เป็นหนังสือที่เปิดเผยแก่นแท้ สัจธรรม ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิต ทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงความรู้สึกรัก เรียนรู้วิธีที่จะบอกรักชีวิตของตนเองอย่างเรียบง่าย ซึ่งเกิดจากการสนทนาระหว่างครูมอร์รี่ ซวอตส์กับลูกศิษย์มิตช์ อัลบอมในทุก ๆ วันอังคารทั้งสิบสี่วัน ครูมอร์รี่ ไม่เพียงแต่เป็นครูที่สอนวิชาการในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ครูมอร์รี่สอนวิชาความหมายแห่งชีวิต ซึ่งเป็นการสอนจากประสบการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของครูเอง ดังคำกล่าวที่ครูมอร์รี่ที่ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือ การเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรักให้แก่ผู้อื่น และการเปิดรับให้ความรักเข้ามา” สื่อถึงการแบ่งที่ไร้ต้นทุน ที่ทุกคนสามารถแบ่งให้กันและกันได้ ในปี 1994 ครูมอร์รี่ได้รับข่าวร้ายจากหมอด้านประสาทวิทยาว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) และโรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายได้ อาการของโรคนี้จะเริ่มอ่อนแรงที่ปลายเท้า ลุกลามไปทั้งตัวถึงลำคอ จนทำให้พูดไม่ชัด ทานข้าวลำบาก หรือแม้กระทั้งไม่มีแรงพยุงคอ โดนส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) จะเสียชีวิตภายใน 3 – 5 ปี แต่หมอบอกกับครูมอร์รี่ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น การที่ครูมอร์รี่ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ทำให้ครูมอร์รี่รู้สึกว่าชีวิตตนเองใกล้พบกับจุดจบ แต่กระนั้นครูมอร์รี่ก็คิดขึ้นมาว่าจะไม่มีทางปล่อยให้ตนตายจากโลกนี้ไปโดยไม่ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุด ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งของครูมอร์รี่นั้น ทำให้ครูเปรียบเสมือนงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ครูมอร์รี่เองเป็นตำราเรียนชิวิตมนุษย์ ที่จะเล่าถึงแก่นแท้ของการมีชีวิตอยู่ให้กับผู้อ่านหนังสือเล่มนี้เครดิตภาพ jcomp จาก People photo created by jcomp - www.freepik.com">www.freepik.com ผู้ที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว จะได้เรียนรู้ทั้งเรื่อง ความสุข ความทุกข์ ครอบครัว เงินทอง ความตาย การให้อภัย ความรัก หรือแม้กระทั้งความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่ครูมอร์รี่และมิต ได้สนทนากันในทุก ๆ วันอังคารก่อนที่ครูมอร์รีจะจากโลกนี้ไป ทิ้งไว้เพียงประสบการณ์คำสอนที่เราสามารถปรับทัศนคติในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี และคุณจะเห็นคุณค่าของตัวเองขึ้นมามากกว่าเดิม หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเข้าไปอยู่ในใจของผู้อ่านนะครับภาพประกอบโดยผู้เขียน