เมียหมวดบอล ยันแต่งงานมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหาชู้สาว ตั้งข้อสังเกต มือปืนยิงผิดตัว
เมียหมวดบอล เหยื่อมือปืนบุกสังหารจ่อยิงโหดในค่ายทหาร ออกมายืนยัน แต่งงานมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหาชู้สาว ตั้งข้อสังเกตนอกจากถูกมือปืนเข้าใจผิด ยิงผิดตัว ต้นเหตุสามีเป็นคนอัธยาศัยดี ส่วนปมขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชายอมรับไม่ถึงขั้นรุนแรง เผยไทม์ไลน์ห่างกันครึ่งชั่วโมงก่อนถูกยิง
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นางสาวกณิศฐ์ฐา พันธ์สวัสดิ์ อายุ 33 ปี ภรรยา ร.ท. รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี นายทหารหัวหน้าหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม เสียชีวิต ภายในค่ายทหาร เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ออกมาเปิดเผยถึงปมการเสียชีวิตของสามีว่า ในการเสียชีวิตของสามี คือหมวดบอล ตนยังคาใจ และคิดไม่ออกว่าจะมาจากต้นเหตุอะไร เพราะสามีไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งรุนแรงกับใครมาก่อน ส่วนปมชู้สาว ตนแต่งงานกันมา 7 – 8 ปี มีลูกชาย 1 คน อายุ 6 ขวบ อยู่กินกันมา ทะเลาะกันแค่เรื่องเล็กน้อยในครอบครัว สามีเป็นคนรักครอบครัว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง ที่จะเป็นต้นเหตุ
แต่ตนตั้งข้อสังเกตหากจะเป็นไปได้ คือ ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะปกติสามีเป็นศิลปิน เป็นนักดนตรี รู้จักคนเยอะ อาจมีผู้หญิงเข้ามาพูดคุยปรึกษา ทักทายพูดคุยสนิทสนมบ้าง เพราะพื้นฐานเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ไม่เคยมีปัญหาเชิงลึกชู้สาว เนื่องจากตนใกล้ชิดตลอดกับสามี ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามคือผู้ก่อเหตุมีความเข้าใจผิด เป็นสาเหตุให้มีการยิงผิดตัว เพราะอาจไปเข้าใจว่าสามีไปยุ่งเกี่ยวเชิงชู้สาวกับฝ่ายหญิงที่มีแฟนอยู่แล้ว
อีกประเด็นคือความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน หรือมีปัญหาทะเลาะกับบุคคลอื่นถึงขั้นรุนแรงไม่เคยมีมาก่อน โดยสามีบรรจุรับราชการ หลังจบจากโรงเรียนดุริยางค์ทหารบก เมื่อปี 2548 ทำงานที่ จ.ปัตตานี และย้ายมาอยู่ที่ มทบ.210 นครพนม เมื่อประมาณปี 2560 พื้นฐานครอบครัวสามี เป็นคน จ.เพชรบุรี ส่วนตนเป็นคน จ.สงลา
นางสาวกณิศฐ์ฐา พันธ์สวัสดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ตนแสดงออกถึงความไม่พอใจ ตั้งข้อสงสัยปัญหาการทำงาน นั้น ยอมรับว่า ได้เคยกล่าวคำพูดจาไม่พอใจผู้บังคับบัญชา หลังสามีถูกยิงเสียชีวิต แต่ตนไม่ได้ปักปำใคร เป็นเพียงอารมณ์โกรธช่วงที่เสียใจ และคาใจ เกี่ยวกับการทำงานของสามี เพราะมีเรื่องเดียว ที่เคยมีปัญหาในการทำงานกับผู้บังคับบัญชา คือ กรณีก่อนนี้ถูกต้องกรรมการสอบข้อเท็จจริง เรื่องการเบิกจ่ายใช้น้ำมัน ในการเดินทางไปราชการ ที่ไม่ตรงตามระเบียบ โดยไม่มีเจตนาทุจริต แต่มีการชี้แจงจบไปก่อนนี้แล้ว และไม่ได้มีการลงโทษรุนแรง แต่ยังเป็นเรื่องเดียวที่นำมาคิดเป็นประเด็นหลังสามีเสียชีวิต
แต่ทั้งนี้ยังคิดตลอดว่า คงไม่ใช่ต้นเหตุที่จะถึงขั้นรุนแรงลงมือทำร้ายกันขนาดนี้ อย่างไรก็ตามตนยังคิดไม่ออก ถึงความชัดเจนของปมการทำร้ายสามีครั้งนี้ แต่เชื่อมั่นว่า หากไม่มีปมเบื้องหลังเรื่องการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือความเข้าใจผิด ทางตำรวจ และผู้บังคับบัญชาจะต้อง ตามจับคนผิดมาลงโทษให้ได้ แต่หากเรื่องนี้เงียบไปตนเชื่อว่าจะต้องมีเบื้องหลังแน่นอน และเชื่อมั่นว่าคนก่อเหตุจะต้องเป็นบุคคลภายใน เพราะยากที่คนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุแล้วหลบหนีไปได้ ภายในค่ายทหาร
นางสาวกณิศฐ์ฐา พันธ์สวัสดิ์ กล่าวถึงไทม์ไลน์ก่อนสามีเสียชีวิต ว่า ในช่วงบ่ายได้ขับรถยนต์เข้าไปในเมืองนครพนม พร้อมสามี เพื่อไปรับลูกชาย 6 ขวบ ที่โรงเรียน และไปธุระ พอกลับถึงค่าย ประมาณ 19.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากนั้นได้ขับรถยนต์ไปจอดเพื่อส่งสามี ไปที่หมวดดุริยางค์ทหาร เพื่อไปเคลียร์งาน และขับรถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้กลับบ้านพัก ห่างกันประมาณ 400 -500 เมตร ตนจึงกลับก่อนพร้อมลูกชาย ห่างกันประมาณ 30 นาที มีคนแจ้งว่าสามีถูกยิงเสียชีวิต ในเส้นทางหลังค่าย ระหว่างขับรถจักรยานยนต์ กลับบ้านพัก ซึ่งเป็นจุดที่มืด ปลอดคน เชื่อว่าคนร้ายมีการวางแผน เตรียมการอย่างดี และรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง