บทเรียนการลงทุนหุ้นในสมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นบทเรียนหนึ่งที่ทำลายนักลงทุนกลุ่มหนึ่งจนหายนะถึงกับเข็ดขยาดกับหุ้นไปตลอดชีวิต ในขณะเดียวกันวิกฤตินี้ก็สร้างนักลงทุนชั้นเซียนอีกหลายคน ที่รู้จักใช้การเปลี่ยนวิกฤติมาเป็นโอกาสได้ด้วยการลงทุนหุ้นแบบ Value Investor (VI) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกของเขา ได้เปิดใจถึงแนวทางการลงทุนแบบ VI ซึ่งทำให้เขามีพอร์ตหุ้นเติบโตหลักพันล้านบาทได้ นอกจากนี้เขายังกลยุทธ์ตีแตก คือกล้าเสี่ยง เมื่อประเมินแล้วว่ามันน่าเสี่ยง จากข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่ เมื่อเห็นโอกาสแล้วก็ต้องตีแตก เนื้อหาภายในเล่มลงทุนในหลักทรัพย์ต้องทำให้เหมือนกับการเข้าหุ้นทำธุรกิจการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินการของกิจการหุ้นถูก-หุ้นแพงสไตล์การลงทุนตีแตกนักลงทุนเอกของโลกการค้นหาหุ้นที่จะซื้อและขายเรื่องน่าห่วงในการลงทุนการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆบทส่งท้าย ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์ ได้เข้าใจว่าทำไมถึงต้องลงทุนแบบ Value Investor เพราะเราต้องการลงทุนเสมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ โดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด หากกิจการมันไม่ดีหรือเราเลือกผิด เราก็ยังขายหุ้นทิ้งแล้วเอาเงินไปลงทุนหุ้น (กิจการ) ตัวอื่นได้ได้เรียนรู้ว่าการลงทุนหุ้นกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร แม้ว่าหุ้นจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่ถ้าเราเข้าใจหุ้นอย่างลึกซึ้ง เราก็จะหาผลตอบแทนจากมันได้ไม่ยากได้เรียนรู้การวิเคราะห์แนวโน้มผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ มีรายละเอียดดังนี้กำไรและยอดขายมีรายได้เติบโตสม่ำเสมอมีการลดยอดหนี้ลงเรื่อยๆลูกหนี้การค้า ถ้ามีสัดส่วนที่สูง ให้ระวังเรื่องของหนี้สูญที่อาจเกิดขึ้นสินค้าคงคลัง ระวังอย่าให้ตกค้างสต๊อกมากจนขายไม่ออก (Death Stock) ได้เรียนรู้หลักการวิเคราะห์งบการเงินของ ดร.นิเวศน์ โดยสรุปดูข้อมูลย้อนหลังหลายๆปีเพื่อประมาณคร่าวๆไป 1 ไตรมาส หรือคาดการณ์ถึงสิ้นปีแบบง่ายๆ เช่น เอากำไรล่าสุดเป็นฐาน คูณด้วยตัวเลขไตรมาสที่เหลืออยู่ เพื่อหาว่ากำไรในปีนี้จะเป็นเท่าไรถ้างบการเงินมีหมายเหตุของผู้สอบบัญชีปรากฏบนหน้าแรก ต้องระวัง !!! มันบ่งบอกถึงความไม่โปร่งใสบางอย่างบริษัทที่มีหนี้สูงต่อเนื่องพอกพูนสะสม อันตรายมาก....เสี่ยงต่อการล้มละลายกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต้องสูง 18-20% ต่อปีขึ้นไป โดยหุ้นต้องมีกำไรให้เห็นก่อนที่เราจะเข้าไปลงทุน กำไรที่ว่าคือกำไรจากการดำเนินงาน ไม่ใช่กำไรจากการขายทรัพย์สิน ได้เรียนรู้ว่าหุ้นถูกหรือแพง ให้ดูจากค่า P/E คือค่าที่เปรียบเทียบราคาหุ้นกับผลกำไรต่อหุ้น หุ้น ก. ราคา 100 บาท/หุ้น ถ้ามีผลกำไรสูง 20 บาทต่อปี ค่า P/E จะได้ 5 เท่า ส่วนหุ้น ข. ราคา 10 บาทต่อหุ้น เหมือนจะถูก แต่กำไรแค่ 1 บาทต่อปี หาค่า P/E ได้ 10 เท่า แบบนี้หุ้น ก. ถือว่าถูกกว่า หุ้น ข. สรุปก็คือ หุ้นที่ค่า P/E สูง ถือว่าหุ้นแพง หุ้นที่ P/E ต่ำ ถือว่าหุ้นถูก ได้เรียนรู้ว่านักลงทุนมีสไตล์การลงทุนอยู่ 5 แบบซื้อหุ้นคุณภาพสูงแบบไม่เกี่ยงราคา (Growth Investor)ซื้อหุ้นคุณภาพปานกลาง ราคาปานกลางซื้อหุ้นคุณภาพต่ำ ราคาต่ำ (Value Investor)ซื้อหุ้นทุกระดับคุณภาพ ที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน (Value Oriented Investor)ซื้อหุ้นเฉลี่ยทั้งตลาด ตามราคาตลาด (Passive Investor) ได้เรียนรู้ว่าการลงทุนหุ้นก็คล้ายกับการเล่นไพ่ตีแตก คือ เรามีสิทธิ์เลือกพนันได้หลังจากที่เราเห็นไพ่ หรือได้วิเคราะห์หุ้นดูก่อนแล้ว ถ้าไพ่ของเราหรือหุ้นของเราไม่ดี เราก็ไม่ต้องพนัน แต่ถ้าไพ่เราดีสุดยอดหรือหุ้นเราดีจริงๆ โอกาสชนะน่าจะสูง เราก็มีสิทธิ์ที่จะพนันหรือซื้อหุ้นนั้นทั้งหมด เรียกว่า ตีแตก ได้เรียนรู้ว่าเทคนิคค้นหาหุ้นที่น่าสนใจโดยใช้ตะแกรงร่อน นั่นคือ การจัดเรียงข้อมูลผลการดำเนินงาน ข้อมูลความถูกความแพงของหุ้น ข้อมูลของหุ้นทั้งตลาด แล้วเลือกว่าหุ้นตัวไหนน่าสนใจ แล้วศึกษาต่อว่าหุ้นนั้นดีจริงหรือไม่ นอกจากนี้การใช้เหตุการณ์พิเศษต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วดูว่าหุ้นตัวไหนได้รับผลกระทบ เช่น การลดค่าเงินบาท 2 ก.ค 2540 ที่ทำให้ ดร.นิเวศน์ เลือกลงทุนหุ้นส่งออกในช่วงนั้น อีกทางหนึ่งคือการซื้อขายหุ้นตามเจ้าของหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่มีการวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ ทั้งหมดคือบางส่วนของความประทับใจจากหนังสือ ยังมีรายละเอียดอีกมากที่หนังสือเล่มนี้สร้างปรากฏการณ์นักลงทุนสาย VI สมัยปี พ.ศ.2540 ประสบความสำเร็จกันอย่างมากมายหลายคน แต่ตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ยุคทองของ VI ไทยได้ผ่านพ้นไปแล้ว รอจังหวะที่โอกาสนั้นจะกลับมาหรือไปหาโอกาสดังกล่าวจากต่างประเทศ เช่น เวียดนาม เป็นต้น ตีแตก ส่วนตัวสำหรับครีเอเตอร์มองว่าไม่เหมาะกับมือใหม่ประเภทที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นเลย มันเหมาะสำหรับมือใหม่ในด้านแนวคิดมากกว่าว่า... สมัยนั้นเขาคิด เขาวางแผนการลงทุนกันแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตีแตกขายดีจนถึงทุกวันนี้คือ เครื่องมือที่จะพาเราไปสู่จุดหมายของการลงทุน ซึ่งถ้าเราลงทุนผิดพลาด เราควรทบทวนจากหนังสือเล่มนี้หลายๆรอบ สำหรับครีเอเตอร์แล้ว หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ลงทุนแบบ VI เป็นครั้งแรก ลงทุนราวกับเราเลือกจะเป็นหุ้นส่วนของธุรกิจนั้นๆ เครดิตภาพภาพปก โดย wirestock จาก freepik.comภาพที่ 1 2 3 4 โดยผู้เขียนภาพที่ 5 โดย brgfx จาก freeoik.comภาพที่ 6 โดย pikisuperstar จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ เด็กวัดดอน ชีวิต ความฝัน และการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ Super Stock ในตลาดหุ้นเวียดนามรีวิวหนังสือ ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ ฝ่าวิกฤติหุ้นด้วย VI พันธุ์แท้ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ ลงทุนหุ้นอย่างสบายใจ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !