The Second Sight: Dead Reckoning คือเกมอินเทอร์แอคทีฟฟิคชันสไตล์ “Choose Your Own Adventure” ที่ผู้พัฒนาชื่อ “SpoiledSweet” ปล่อยบน itch.io เกมนี้เล่าเรื่องชีวิตคนที่มีพลังจิต (Psychic) แต่ประสบอุบัติเหตุจนความจำหายไปเป็นบางส่วน จึงอพยบมาอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งของอเมริกา ซึ่งภายหลังพบว่าเมืองนี้มีทั้งนักเวท เฟรี่ ปีศาจ และเรื่องลึกลับรออยู่มากมาย รูปแบบการเล่นคืออ่านเรื่องและตัดสินใจจากตัวเลือกที่เกมให้ โดยผลของการเลือกจะพาเรื่องไปในทิศทางที่ต่างกัน (Branching Narrative) ตัวเกมเป็นแบบตัวอักษรล้วนไม่มีกราฟิกสนามสู้ แต่เน้นบรรยากาศและตัวละครให้ผู้เล่นสร้างภาพในหัวแทน เกมนี้เหมาะสำหรับคนชอบนิยายแนวแฟนตาซี–ลึกลับ–ไซไฟ เน้น Dialogue และ Character Interaction เป็นหลัก ถ้าคิดถึงซีรีส์อย่าง “Twin Peaks”, “Stranger Things” หรือนิยายของ Stephen King ที่อาศัย “พลังจิต” กับ “เมืองเล็กลึกลับ” เป็นแกนกลาง เกมนี้ก็จะให้อารมณ์คล้ายๆ กัน ก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นจะได้เลือกเพศและชื่อของตัวเอก รวมถึงลักษณะบางอย่าง (เช่น รูปร่าง สีผม) แต่จุดเด่นคือนอกจากเลือกภาพลักษณ์ เรายังเลือกบุคลิกได้ด้วย เช่น เป็นคนตรรกะ–เหตุผล หรือหยั่งรู้–สัญชาตญาณ ซึ่งผลของการเลือกลักษณะเหล่านี้จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในเกมด้วย บรรยากาศในเกม “The Second Sight” ออกมา “อบอุ่น-ลึกลับ” เมืองนี้จะดูสงบ เหมือนชนบทอเมริกันทั่วไป มีร้านกาแฟเล็กๆ ตลาดนัด ชุมชนที่รู้จักกันหมด แต่พอหน้าต่างแสงจันทร์สาดส่องลงมา ก็เริ่มมีอะไรแวบๆ ให้เห็นจากเสี้ยวตาของเรา—บางทีเห็นเงาดำๆ หรือได้ยินเสียงกระซิบจากคนที่ไม่มีใครเห็น เราจะรู้สึกเหมือนถูก “ย้อม” ให้เป็นเจ้าของพลังจิตจริงๆ เรื่องเล่าจึงอยู่ในโหมด “Slow Burn” คือค่อยๆ ให้สงสัยและคาดเดา ไม่ใช่หวือหวาสมบูรณ์แบบทันที เมือง ในเกมนี้มีชื่อ (เพื่อความเป็นส่วนตัวขอไม่เปิดเผย) แต่ถ้าเทียบกับไทย มันคล้าย “เมืองเล็กๆ ในภูเก็ต หรือเชียงใหม่” ที่คนในชุมชนรู้จักกันหมด ประมาณว่า แต่ก็ซุกซ่อนความลับไว้มากมาย เรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ จะดำเนินอยู่ในรัศมีไม่เกิน “อาณาเขตเมือง” นี้ ตัวละครหลัก เป็นคนไทย (หรือชาติอื่นๆ แล้วแต่เราจะเลือก) ที่ถูกอุปการะโดยพ่อเลี้ยงชาวต่างชาติ และอาศัยอยู่ในเมืองเล็กแห่งนี้ ช่วงแรกๆ ของเกม เราจะค่อยๆ รู้จักเพื่อนบ้าน พ่อเลี้ยง พี่เลี้ยง และคนแปลกหน้าที่มาอยู่ใหม่ ซึ่งแต่ละคนก็มีปมซ่อนอยู่ พ่อเลี้ยงของเรา (แม้จะดูหงุดหงิด) แต่ก็ดูแลเราเป็นอย่างดี ช่วงกลางของเรื่องเราจะได้เจอเรื่องราวประหลาดมากขึ้น เช่น มีเด็กหญิงหายตัว รถเก่ายุค 70 กลับมาวิ่งเอง หรือแม้แต่วัตถุลึกลับปรากฏอยู่ในบ้านเก่า NPC (Non-Player Character) ในเกมมีหลายแบบ ทั้งเพื่อนวัยรุ่นที่มีความฝัน พ่อค้าแม่ขายที่เมตตา (หรือบางทีก็ดุ!) เพื่อนบ้านแปลกๆ ที่พูดน้อย แต่ตาส่องประกายความมั่นใจได้ (ซึ่งเราเดาได้ว่าพวกเขาอาจมีตัวตนที่มากกว่าที่ตาเห็น) เกมนี้เน้นความหลากหลายของตัวละคร—มีทั้งเพศ เชื้อชาติ อัตลักษณ์ทางเพศที่ต่างกัน เลือกได้ว่าจะเข้าหาพวกเขาด้วยมิตรภาพหรือสายรักก็ได้ จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้สนุกคือ “ทางเลือก” (Choices) เมื่อเราเจอเหตุการณ์ เช่น ได้ยินเสียงแปลกๆ ในป่าช้า เราสามารถเลือกไปสำรวจ เดินหนี หรือเรียกคนมาช่วยก็ได้ ส่วนใหญ่การเลือกแต่ละทางจะส่งผลให้เรื่องราวเปลี่ยนทิศทางในระยะยาว นอกจากนี้ การติดต่อกับตัวละครต่างๆ ก็มีผลต่อแนวเรื่อง เช่น ถ้าเราเลือกคุยกับเพื่อนสนิทใกล้ชิด ต่อมาก็อาจมีด้านเดียวกับคู่รัก หรือถ้าเราเลือกทำความรู้จักกับพ่อเลี้ยงมากขึ้น ก็จะได้เรื่องราวเกี่ยวกับอดีตของผู้เล่นเองเพิ่มขึ้น เกมนี้ใช้ระบบ “Affection Meter” สำหรับตัวละครสำคัญ เช่น พ่อเลี้ยง เพื่อนสนิท หรือคนแปลกหน้า การที่เราเลือกตอบสนองในทางดีหรือไม่ดี จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระยะยาว ในบางสถานการณ์ ถ้าความสัมพันธ์สูง ก็อาจได้รับความช่วยเหลือเมื่อมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น หรือบางทีก็อาจได้ข้อมูลพิเศษที่คนอื่นไม่มี เกมนี้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแต่จะได้อารมณ์ชัดเจน มีการหลอมรวมภาษาแสลงและภาษากลางได้ดี บาทสนทนาถูกออกแบบให้อ่านแล้วเห็นภาพ บทพูดของตัวละครบางทีก็ทำให้ยิ้มได้ (โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงที่ชอบประชดด้วยความห่วง) บางตำแหน่งของเรื่องมีการใช้ “Code Switching” ระหว่างภาษากลางและสำเนียงท้องถิ่นเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ภาพตัวละครน่าเชื่อถือขึ้น ถ้าเอาองค์ประกอบของเกมนี้มาเปรียบเทียบกับ “วัฒนธรรมไทย” จะพบว่า ชุมชนเมืองไทย ก็มีเรื่องราวลึกลับ ไม่ต่างกัน เชื่อไหมว่า ในไทยเองก็มีตำนาน “ผีตาโขน” “แม่นาคพระโขนง” หรือ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” ที่มีความลึกลับและเชื่อมโยงกับ “พลังจิต” ของคนในท้องถิ่น เมืองไทยเป็นประเทศที่มีภูมิศาสตร์หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเล และเมืองใหญ่ ทำให้เกิดนิทานและเรื่องเล่าพื้นบ้านมากมาย ถ้าเกมนี้ถูกนำมาทำฉบับ “เมืองไทย” ก็คงน่าสนใจไม่น้อย เช่น ถ้าเราได้เป็นเด็กน้อยในจังหวัดเชียงรายที่มี “บ้านผีสิง” และต้องใช้ “หยั่งรู้” แก้ปริศนา ก็คงสนุกไม่แพ้กัน เมื่อลองเล่นจริงๆ แล้วรู้สึกว่า เกมนี้ “กินเวลา” เหมาะกับการนั่งเล่นช่วงกลางคืนเงียบๆ หลังจากเลิกงานหรือเลิกเรียน เพราะบรรยากาศมันดึงเข้าไปในโลกของเกมได้ดีมาก เหมือนได้อ่านนิยายโดยที่เราเป็นคนเลือกทางเดินเอง บางครั้งการเลือกครั้งหนึ่งของเราก็ทำให้เรื่องเปลี่ยนไปมากกว่าที่คิด ยิ่งไปกว่านั้น การได้ขยายสายสัมพันธ์กับ NPC แต่ละคนทำให้เราได้อารมณ์หลากหลาย ทั้งอบอุ่น ลุ้นระทึก และบางทีก็ประหลาดใจกับทฤษฎีสมคบคิดที่เกมสร้างขึ้นมา The Second Sight: Dead Reckoning คือเกมทดสอบแนวอินเทอร์แอคทีฟฟิคชันที่เน้นเนื้อเรื่อง–ตัวละคร–ทางเลือก เหมาะกับคนชอบนิยายลึกลับที่มีปมชีวิตเล็กๆ ให้ค้นหา ถ้าคุณชอบนิยายแบบ “เมืองเล็กๆ มีความลับ” หรือชอบแนวแฟนตาซี–พลังจิต–โลกคู่ขนาน รวมถึงชอบการสื่อสารกับตัวละครหลากหลาย เกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมน่าลอง ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !