การใช้ Excel ช่วยในการคำนวณ และการดึงข้อมูลเป็นส่งที่ช่วยทำเราสามารถทำง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่หากการนำสูตรต่างใน Excel มาใช้ในการทำงาน ไม่ถูกต้อง หรือใส่ข้อมูลในสูตรไม่ถูก กลับทำให้การทำงานนั้นยากขึ้น และอาจทำให้ใช้เวลาในการทำงานเพิ่มมากขึ้นวันนี้ ชะนีฝึกหัดขอนำสูตร IF ที่ใช้ในการทำงานบ่อยๆ เช่น การคำนวณข้อมูลแบบขั้นบันได การแสดงผลการทดสอบโดยการกำหนดเงื่อนไข (อันนี้สามารถประยุกต์ใช้ในการแบ่งกลุ่มของคะแนนผลทดสอบได้นะคะ) เป็นต้นIF เป็นการกำหนดเงื่อนไขการแสดงข้อมูล กรณีที่เป็นจริงหรือตรงตามเงื่อนไข และกรณีที่เป็นเท็จหรือไม่ตรงตามเงื่อนไขทั้งนี้ ในการกำหนดเงื่อนไขควรกำหนดรูปแบบของข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไข เพื่อให้สามารถแสดงผลตามที่กำหนดได้ถูกต้อง โดยข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไขสามารถเป็นข้อมูลตัวเลข (Number) หรือข้อความ (Text) ก็ได้เรามาเริ่มที่รายละเอียดของสูตร IF กันก่อนนะคะสูตร IF : =IF(logical_test,[Value_if_true],[Value_if_false])ความหมายLogical_Test : เงื่อนไขที่กำหนดValue_if_True : การแสดงผลกรณีที่เป็นจริงหรือตรงตามเงื่อนไขValue_if_False : การแสดงผลกรณีที่เป็นเท็จหรือไม่ตรงตามเงื่อนไขตัวอย่าง=IF(D1>5,"True","False")ความหมายLogical_Test : D1>5 : ข้อมูลช่อง D1 มากกว่า 5Value_if_True : "True" : ถ้าข้อมูลช่อง D1 มากกว่า 5 แสดงข้อความ TrueValue_if_False : "False" : ถ้าข้อมูลช่อง D1 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 แสดงข้อความ Falseตัวอย่าง=IF(D1>=5,"True","False")ความหมายLogical_Test : D1>=5 : ข้อมูลช่อง D1 มากกว่าหรือเท่ากับ 5Value_if_True : "True" : ถ้าข้อมูลช่อง D1 มากกว่าหรือเท่ากับ 5 แสดงข้อความ TrueValue_if_False : "False" : ถ้าข้อมูลช่อง D1 น้อยกว่า 5 แสดงข้อความ Falseการแสดงผลที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขในกรณีที่กำหนดเงื่อนไขเป็น ข้อมูลตัวเลขมีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่าข้อมูลที่กำหนด หากข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไขเป็นข้อความ จะแสดงผลเป็น Trueตัวอย่าง=IF(D1>=5,"True","False")ความหมายLogical_Test : D1>=5 : ข้อมูลช่อง D1 มากกว่าหรือเท่ากับ 5ถ้าข้อมูลช่อง D1 : Four : แสดงข้อความ Trueถ้าข้อมูลช่อง D1 : ห้า : แสดงข้อความ Trueถ้าข้อมูลช่อง D1 : ไม่ผ่าน : แสดงข้อความ Trueถ้าข้อมูลช่อง D1 : Love : แสดงข้อความ Trueถ้าข้อมูลช่อง D1 : Test : แสดงข้อความ True ในกรณีที่กำหนดเงื่อนไขเป็น ข้อมูลตัวเลขเท่ากับข้อมูลที่กำหนด หากข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไขเป็นข้อความ (Text) จะแสดงผลเป็น Falseตัวอย่าง=IF(D1=5,"True","False")ความหมายLogical_Test : D1=5 : ข้อมูลช่อง D1 เท่ากับ 5ถ้าข้อมูลช่อง D1 : Four : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : ห้า : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : ไม่ผ่าน : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : Love : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : Test : แสดงข้อความ Falseดังนั้น รูปแบบของข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไข มีผลต่อการแสดงข้อมูล โดยหาต้องการตรวจสอบข้อมูลที่เป็นตัวเลข รูปแบบข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบ ควรเป็นข้อมูลรูปแบบตัวเลข เพื่อไม่ให้เกิดการแสดงผลไม่ตรงกับเงื่อนไขนอกจาก IF จะใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขของข้อมูลรูปแบบตัวเลขแล้ว IF สามารถใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขของข้อมูลรูปแบบข้อความได้ตัวอย่าง=IF(D1="ห้า","True","False")ความหมายLogical_Test : D1=5 : ข้อมูลช่อง D1 เป็นข้อความ ห้าถ้าข้อมูลช่อง D1 : Four : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : ห้า : แสดงข้อความ Trueถ้าข้อมูลช่อง D1 : ไม่ผ่าน : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : Love : แสดงข้อความ Falseถ้าข้อมูลช่อง D1 : Test : แสดงข้อความ Falseทั้งนี้ IF สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับสูตรอื่นๆ ได้ เช่น การใช้สูตร IF รวมกับ COUNTIFสูตร COUNTIF : =COUNTIF(Range,Criteria)ความหมายRange : ช่วงของข้อมูลที่ต้องการCriteria : ค่าที่ต้องการนับ เช่น ข้อความ ตัวเลขตัวอย่าง=IF(COUNTIF(B3:K3,"เครื่องหมายถูก")>=5,"ผ่าน","ไม่ผ่าน")ความหมายLogical_Test : COUNTIF(B3:K3,"เครื่องหมายถูก")>=5 : นับจำนวนข้อที่ได้เครื่องหมายถูกในแถว 3 มีจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับ 5Value_if_True : "ผ่าน" : ถ้าจำนวนข้อที่ได้เครื่องหมายถูกในแถว 3 มากกว่าหรือเท่ากับ 5 แสดงข้อความ “ผ่าน”Value_if_False : "ไม่ผ่าน" : ถ้าจำนวนข้อที่ได้เครื่องหมายถูกในแถว 3 น้อย 5 แสดงข้อความ “ไม่ผ่าน” แต่หากยังทำไม่ได้ในครั้งแรก ไม่เป็นไรนะคะ ต้องลองฝึกทำและฝีกฝนบ่อยๆค่ะ เมื่อเริ่มเข้าใจและทำได้ก็จะกลายเป็นเรื่องสนุกและเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ(รูปภาพทั้งหมดจากผู้เขียน)7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์