เสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวันนั้นมักจะมีกลิ่นเหม็นนั่นเป็นสาเหตุมาจากในระหว่างวันของเรานั้นต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายส่งผลให้ร่างกายมีเหงื่อไคลออกตามผิวหนัง เสื้อผ้าของเราก็ซับเหงื่อไคลเอาไว้เป็นสาเหตุให้ให้เสื้อผ้าที่เราสวมใส่มีกลิ่นเหม็น กิจวัตรประจำวันของเราหลังจากอาบน้ำก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้าชิ้นใหม่เพื่อป้องกันโรคผิวหนังที่เกิดจากสวมใส่เสื้อผ้าชิ้นเดิมหากไม่มีการทำความสะอาดภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabayสำหรับการซักผ้านั้นก็มีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นคือ การซักผ้าด้วยมือ และ การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งทั้ง 2 วิธียังคงเป็นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หลักการซักผ้าหลายบ้านที่ใช้กันอยู่ก็มีหลักไม่มากนัก เช่น การแยกซักระหว่างผ้าขาวออกจากผ้าสี ซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ชำรุดก่อนการลงมือซัก รวมทั้งการแยกประเภทเสื้อผ้าออกจากกัน ต่อจากนั้นแล้วจึงลงมือซักโดยแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบ้านว่าต้องการซักด้วยวิธีใด โดยอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผ้าสะอาดขึ้นมีมีเหมือน ๆ กันในทุกบ้านไม่ว่าจะเป็นการซักผ้าด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า และลงท้ายด้วยการปรับปรุงเสื้อผ้าให้หอมและรู้สึกนุ่มใส่แล้วสบายตัวด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม แตกต่างกันที่ยี่ห้อเพียงที่แต่ละบ้านเลือกใช้เท่านั้นเองภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabayแต่ปัญหาที่ตามมานี่ซิ ทำไมใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดเหมือนกันแต่เนื้อผ้ากลับหอมไม่เหมือนกัน บางบ้านหอมนาน บางบ้านไม่หอมเลยแต่ ทั้ง ๆ ที่แต่ละยี่ห้อก็โฆษณาชวนเชื่อว่าใช้แล้วหอมนาน บางยี่ห้อความหอมที่โฆษณานั้นยาวนานถึง 14 วันเลยทีเดียว ตัดภาพมาบ้านเรา 24 ชั่วโมงกลิ่นเกือบหมดแล้ว นั่นเป็นเพราะแสงแดดตัวดีนั่นไงที่ทำลายความหอมภาพโดย Kaoru Yamaoka จาก Pixabayโดยปกติแล้วการนำผ้าที่ซักแล้วออกตากแดดจะช่วยลดการเกิดเชื้อรา เชื้อโรค และแบคทีเรียต่าง ๆ หลาย ๆ บ้านจึงมักตากแดดเป็นเวลานาน ๆ เพื่อหวังให้เชื้อเหล่านั้นตายด้วยแสงแดด แต่การตากแดดนาน ๆ นั้นจะทำให้กลิ่นหอมจางหายไปได้เหมือนกัน เนื่องจากความร้อนจะทำให้กลิ่นหอมค่อย ๆ จากออกไปจากเนื้อผ้า โดยความจริงแล้วไม่ควรตากให้ผ้าอยู่กับแดดนานมากเกินไป ควรเว้นไว้เพียงระยะเวลาให้ผ้าแห้งก็ควรเก็บได้แล้ว เช่น สำหรับผ้าบาง ๆ หากแดดแรงตากไว้เพียง 1 – 2 ชั่วโมงก็เพียงพอขอขอบคุณแหล่งข้อมูลhttps://bit.ly/2ybgvEjรูปปก https://pixabay.com/th/photos/ซักรีด-แห้ง-ล้างแห้ง-แขวน-ล้าง-963150/ ภาพโดย Willi Heidelbach จาก Pixabay