“อยู่ที่เรียนรู้อยู่ที่ยอมรับมัน เติมความคิดสติเราให้ทัน” ประโยคจากเพลงดังที่ชื่อว่า อยู่ที่เรียนรู้ ของ คุณกมลา สุโกศล ครับเพื่อน ๆ ที่หยิบยกขึ้นต้นมาก็เพราะเราจะมาพูดถึงเรื่อง การยอมรับความจริง กันครับ ความจริงในที่นี้ก็คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นนั่นแหละครับ เช่น เราโดนหวยกิน เราสอบตก ทีมฟุตบอลที่เราเชียร์แพ้ อะไรต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นจริง ๆ บนโลกใบนี้นั่นแล้วแหละครับ แล้วทำไมเราต้องยอมรับความจริง ก็เพราะว่าถ้าเราไม่ยอมรับความจริง มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่สบายอกสบายใจ คิดมากปวดหัวเกิดความเครียด และเจ็บป่วยในที่สุด นี่แหละครับผลของการไม่ยอมรับความจริงภาพจาก pexels.comแล้วเราจะฝึกหรือเรียนรู้การยอมรับความจริงได้อย่างไรละ ง่าย ๆ เลยครับเราต้องเข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้ก่อนนั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ ก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าโลกนี้มันไม่แน่ไม่นอน วันนี้มีเรื่องให้สุขสมหวัง วันพรุ่งนี้ก็อาจจะมีเรื่องแย่ ๆ ให้เราเศร้าเสียใจได้เสมอ อารมณ์ความรู้สึกของเรามันก็เกิด ๆ ดับ ๆ แบบนี้นั่นเอง ถ้าเป็นหลักธรรมของศาสนาพุทธ ก็เป็นเรื่องไตรลักษณ์ประกอบด้วย อนิจจัง(สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง) ทุกขัง(สิ่งทั้งหลายไม่คงทนถาวร) อนัตตา(สิ่งทั้งหลายไม่มีตัวตน) ในเมื่อมันเป็นแบบนี้เราลองไปดูกันดีกว่าว่า เราจะเรียนเรื่องราวพวกนี้ได้จากเหตุการณ์หรือเรื่องราวไหนได้บ้างภาพจาก pixabay.comการดำรงชีวิต มันก็เป็นเรื่องเกี่ยว เงิน ๆ ทอง ๆ อาหารการกิน เสื้อผ้าหน้าผม ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มือถือ คอมพิวเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่นอนหมอนมุ้ง รถยนต์ รวมไปถึงที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโต ตึกแถว ห้องเช่า พวกนี้มันเป็นที่เราต้องรับรู้และสัมผัสโดยตรง ทุก ๆ วัน เราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เห็นมันเสื่อมสภาพ หรือพังเสียหายไปต่อหน้าต่อตา เราเลยต้องเรียนรู้จะยอมรับมันเอาไว้ก่อนเลยว่าสักวันมันก็จะจากเราไป ความบันเทิงความสนุกสนาน น่าจะเป็นเรื่องใกล้ตัวของวัยรุ่นอย่างเรา ๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนัง เรื่องของดนตรี เกมกีฬา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี คือพวกนี้เราสร้างมันขึ้นมาเพื่อตอบสนองตัวเรานั่นเอง เมื่อสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนสภาพไป ไม่สามารถสนองความสุขสมหวังให้เราได้ เราก็จะรู้สึกแย่รู้สึกผิดหวัง ให้พยายามบอกกับตัวเองครับ ว่ายังมีเรื่องราวสนุก ๆ ให้เราทำอีกเยอะเลยบนโลกใบนี้ ผู้คนและสังคม แน่นอนว่าเราต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ไล่ตั้งแต่ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ ปู่ย่าตายาย มีลูกมีหลาน ไปจนถึงเพื่อนที่ทำงาน และเรื่องราวของสังคมโลก พวกนี้เราต้องได้ติดต่อสื่อสารหรือรับรู้ ได้มีความรู้สึกให้กัน ไม่ว่าดีหรือร้าย พอถึงวันหนึ่งไม่เราก็เขาต้องเปลี่ยนสภาพ จากแข็งแรงก็เจ็บก็ป่วยได้ จากหนุ่มสาวก็เป็นแก่ชรา และสุดท้ายต้องจากโลกนี้ไป ดินฟ้าอากาศ รวมไปถึงอุณหภูมิ และกาลเวลาด้วยนะครับ แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ฤดูกาลต่าง ๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวมืด เดี๋ยวก็ค่ำ เราไม่สามารถกำหนดดินฟ้าอากาศได้ใช่ไหมละครับ ฝนจะตกน้ำจะท่วมเราก็ต้องยอมรับมันให้ได้ ทำงานยังไม่เสร็จถึงเวลามืดค่ำหมดเวลางาน ก็ต้องพักผ่อนแล้วปล่อยให้ค่ำคืนนั้นหมดไปเสียก่อน เช้าขึ้นมาก็ลุกขึ้นสู้ต่อนะครับภาพจาก pexels.comสรุปมา 4 ข้อนี้เพื่อจะเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนเพื่อน ๆ ได้บ้างนะครับ ผู้เขียนเองก็ยังต้องเรียนรู้อยู่หลายข้อ จริง ๆ แล้วเกือบจะทุกข้อเลยก็ว่าครับ เพราะมันก็ยากจริง ๆ นั่นแหละเพื่อน ๆ ถึงแม้ว่ามันจะฟังเหมือนง่าย แต่ก็ต้องฝึกอยู่บ่อย ๆ ให้จิตใจเราแข็งแกร่งพอที่จะยอมรับความจริงในทุก ๆ เรื่องได้ และลืมมันไปให้ได้ไวที่สุด จากนั้นเราก็จะพบว่ามีเรื่องราวดี ๆ เรื่องราวสนุก ๆ รอเราอยู่อีกเยอะเลยละครับภาพจาก pexels.comภาพหน้าปกจาก pexels.com