ศาลาแก้วกู่ แหล่งความรู้สร้างความดี สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับสถานที่ที่น่าสนใจอีกที่นึงของชาวหนองคาย ใครได้มาหนองคายต้องมาแวะเที่ยวที่นี้ด้วย นั้นก็คือ ศาลาแก้วกู่นั้นเอง ถ้าใครได้มาที่นี้จะเห็นรูปปั้นสูงเด่นเป็นสง่าหลากหลายทีเดียว ดูมีความขลังเพราะแต่ละรูปปั้นเป็นรูปพระพุทธรูป งู พระรูปของพระโพธิสัตว์ ความเชื่อพื้นบ้าน ตัวละครจากรามเกียรติ์ แม่นาคี และอื่นอีกมากมาย ทางเข้าจะมีของขายเป็นเสื้อ ผ้าถุง หมวก หลายร้านอยู่ติดๆกันภาพโดย Minion Around chic ก่อนที่จะเข้าไปชมความงามต้องเข้าไปจ่ายค่าเข้าชมเพื่อไว้สำหรับบำรุงสถานที่ก่อนนะค่ะในราคา 20 บาท ชมได้ทั้งวันให้จุใจไปเลยจ้า พอผ่านประตูเข้าไปจะมีคนมาแอบถ่ายอย่าลืมทำหน้าสวยๆไว้ด้วยน้า พอผ่านเข้าไปจะเจอรูปปั้นละลานตาใหญ่มากถ้าเทียบกับตัวเรา ณ ตอนนั้นเลย มองดูรูปปั้นเหล่านั้นครั้งแรกรู้สึกว่ารูปปั้นเหล่านั้นเหมือนมีชีวิตยังไงไม่รู้ ชาวต่างชาติและคนไทยต่างพากันมาเที่ยวสิ่งแปลกตาและก็แปลกใจว่ารูปปั้นเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร สร้างเพื่ออะไร ตามมาดูกันค่ะว่ามีความเป็นมาอย่างไรและดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างภาพโดย Minion Around chic ความเป็นมาของศาลาแก้วกู่หรือชื่ออีกอย่าวคือ”อุทยานเทวาลัย” หรือชื่อที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดแขก” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 42 ไร่ ของสำนักปฏิบัติธรรมและอยู่ในภายในชุมชนสามัคคี อำเภอเมืองหนองคาย จัวหวัดหนองคาย จำนวนรูปปั้นคราวๆน่าจะ 200 กว่าองค์ทั้งใหญ่และเล็ก รูปปั้นมีหลายศาสนาทั้งพราหมณ์ ฮินดู พุทธ อยู่รวมกันเหมือนเป็นการสอนว่าทุกศาสนาสามารถอยู่รวมกันได้อย่างสันติสุข ไม่มีแบ่งแยก และนอกจากนั้นยังมีความหมายแฝงอีกอย่างที่บ่งบอกว่ารูปปั้นเหล่านี้เป็นเทวาลัยที่เป็นตัวแทนถึงดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง สร้างขึ้นโดย ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ เทวาลัยเหล่านี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ปรินิพพาน และตำนานความเชื่อในคริสต์ ฮินดู และพราหมณ์ มีบางเทวาลัยที่สอดแทรกเหตุการณ์จากสำนวนสุภาษิตและนิทานพื้นบ้านไว้ด้วย ที่ฐานของเทวาลัยแต่ละรูปปั้นจะมีข้อความบอกไว้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไรเพื่อไว้สอนใจคนรุ่นหลังที่มาพบเจอให้รู้จักบาป บุญ คุณ โทษ เตือนให้เกรงกลัวในบาปกรรมด้วยภาษาอีสานและภาษาไทยภาคกลาง ประวัติคราวๆที่มาของศาลาแก้วกู่ก็จะประมาณนี้ หลังจากที่เดินเข้ามาข้างในก็จะเจอรูปปั้นช้างตรงหน้าพอดี และที่ฐานมีข้อความว่าง”หมาเห่าช้าง สุภาษิตโบราณ”มีให้อ่านแบบอีสานกับภาคกลางตามภาพข้างล่างนี้เลยภาพโดย Minion Around chic ถัดไปก็มีคำกลอนติดไว้ที่ต้นไม้ ตามภาพเลยจ้าภาพโดย Minion Around chicเป็นคำกลอนที่เราคุ้นชินหูกันมานานเอาไว้บอกว่าคนเราจะสวยไม่ใช่ที่หน้าตาแต่เป็นกริยามารยาทที่แสดงออกมากกว่า เฉียบคมนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เดินต่อไปก็เจอรูปปั้นอีกมากมายตามภาพเลยนะภาพโดย Minion Around chic มาสะดุดกันที่รูปปั้นราหูกินจันทร์ มีคำคมด้วยว่า”แสงหิ่งห้อยหรือจะเทียบแสงดาวพราวระยับอนู่บนฟ้า…… “ตามภาพเลยจ้า ใครสนใจอ่านต่อในภาพเลยน้าภาพโดย Minion Around chicเจอเทวาลัยที่ฐานเขียนว่า “นาวีชีวิต ที่มาของศาลาแก้วกู่สำนักพระพุทธมามกะสมาคมจังหวัดหนองคาย” ภาพโดย Minion Around chic ชอบคติของปู่เหลือมากเลยไม่รู้เข้าใจความหมายผิดไหมลองมาดูกันค่ะ ข้อความตามภาพเลยนะคะเป็นกลอน ที่เข้าใจคือ ”นาคีมีพิษเท่าพระอาทิตย์แต่เดินไปอย่างช้าไม่อวดอำนาจ ผิดกับแม่งป่องมีพิษแค่นิดทำเป็นชูหางอวดตัวเองว่ามีฤทธิ์มากมาย”ความหมายดีมากเลยชอบค่ะ เดินกันจนเหนื่อยเพราะมีอีกเยอะ ให้อ่านแต่จะยกมาในส่วนที่ตัวเองคิดว่าน่าสนใจนะคะ เดินต่อไปเรื่อยจะเจอเทวาลัยงู 7 หัวเขาเรียกว่าปางนาคปกในฐานบอกว่างั้น รายละเอียดประมาณว่าเป็นรูปปั้นตอนเจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้ ภาพตามนี้จ้าภาพโดย Minion Around chic ต่อมาก็เป็นประวัติพระเวสสันดรชาดกภาพโดย Minion Around chic ภาพนี้พระอินทร์ พระพรมตามศาสนาพราหมณ์-ฮินดูภาพโดย Minion Around chic เดินไปเรื่อยๆก็เจอแต่ประวัติพระพุทธเจ้าจากประสูติจนปรินิพพาน แล้วก็ไปเจอเทวลึงค์ คือ คุณพระบิดาทางทวารผ่านเจ้าเมืองกายะนคร เป็นการแสดงการเวียนว่าย ตายเกิด ใครยังมีกรรมก็ยังมาเกิดเป็นมนุษน์อีกไปเรื่อนๆส่วนคนที่หมดกรรมก็ไม่มาเกิดเป็นมนุษย์ให้ทุกทรมานอีกต่อไป การกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ต้องเข้าทางทหารเทวลึงค์อีกอันเข้าสู่เทวลึงค์อีกอันตามภาพภาพโดย Minion Around chicถ้าเราเดินเข้าทางทวารมองออกไปจะเห็นที่รูปปั้นอีกอันตรงหน้าว่า มดลูกว่าใครมีกรรมก็จะเข้าสู่ความเน่าเหม็น….. ตามภาพภาพโดย Minion Around chic พระยาจิตราช มีสามหน้า คือ ใบหน้าบุญ ใบหน้าบาป ใบหน้ากึ่งบาปกึ่งไม่บาป กับเรื่องราวในเมืองกายะนครที่เอาไว้สอนคนในเรื่องสัจธรรม กงกรรม กงเกียนนทั้งหลายของสัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม ภาพโดย Minion Around chicและเดินไปเรื่อยก็ผ่านเทวาลัยมากมายที่มีประวัติมีเรื่องราวให้ชวนอ่านอีกเยอะเอาไว้ใครสนใจตามกันมาเที่ยวที่หนองคายก็อย่าลืมแวะเที่ยว ศาลาแก้วกู่ เดินมาถึงที่กราบสักการะบูชาร่างของพ่อปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ บนศาลาแก้วกู่ชั้น 3 เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาไหว้ได้เฉพาะเวลา 07.00 – 17.00 น.เท่านั้นภาพโดย Minion Around chic ความสนุกก็มีเท่านี้ ที่นี้บอกได้คำเดียว ใครมากลับไปอาจจะเป็นคนดีมากกว่าเดิมก็ได้เพราะเข้ามาเที่ยวที่นี้เหมือนได้ขัดเกลาจิตใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นเอง ใครสนใจก็ตามพิกัดข้อมูลสถานที่ด้านล่างนะค่ะพิกัดที่ตั้ง : ชุมชนสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย 43000เวลาเปิดให้บริการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00น.-17.00น.ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 บาท (ค่าบำรุงสถานที่) เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท