ชายวัย 40 ผูกคอดับ คาดทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ร.ต.อ.ธนดร ภักษารัมย์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิต จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด อ.สตึก และแพทย์เวร รพ.สตึก เข้าร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านในหมู่ 12 หมู่บ้านวรานนท์ ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอติดกับกิ่งต้นมะม่วง สูงจากพื้นประมาณ 250 ซม. ทราบชื่อนายวิโรจน์ ปราบมาลัย อายุ 40 ปี หน่วยกู้ภัยจึงปลดออกนำร่างวางลงพื้น ตรวจสอบไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงถังน้ำสีดำคว่ำอยู่ ผู้ตายน่าจะนำมายืนก่อนผูกคอ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชั่วโมง

จาการตรวจสอบ พบจดหมายลาตาย 3 ฉบับอยู่ในประเป๋ากางเกง เขียนด้วยข้อความตัดพ้อ เรื่องหนี้สิน และสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แล้วจะอยู่ไปทำไม ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้ พร้อมฝากขอโทษทุกคนที่ตัดสินใจทำแบบนี้

นายเอก ปราบมาลัย อายุ 68 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำลูกชิ้นขาย ในครอบครัวอยู่อาศัยกัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก โดยลูกชายที่เสียชีวิต จะเป็นคนเอาลูกชิ้นไปขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึกเป็นประจำทุกวัน ถือเป็นเสาหลักหารายได้มาจุนเจือครอบครัวเพราะพ่อแม่มีอายุมากแล้ว

นายเอก กล่าวต่อว่า ช่วงเช้าวันนี้ได้เปิดประตูห้องนอนจะปลุกลูกชาย แต่ปรากฏว่าไม่เห็นลูก เห็นเพียงโทรศัพท์มือถือ ก็คิดว่าลูกไม่ได้ออกไปนอนนอกบ้าน จึงเดินตามหาบริเวณหลังบ้าน เห็นลูกอยู่ไกลๆ คิดว่ายืนปัสสาวะอยู่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ พบว่าเท้าลอยพื้นดิน จึงคิดว่าผูกคอตาย จึงเรียกญาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

“ส่วนสาเหตุตอนแรกคิดว่าลูกจะคิดมากหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาได้ 3 วัน เพราะบ่นว่าปวดหัว แต่เมื่อมาเห็นจดหมาย จึงรู้สาเหตุที่ทำลงไปเพราะปัญหาเศรษฐกิจ จริงแล้วครอบครัวพออยู่ได้แต่อาจจะไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ลูกคิดสั้นดังกล่าว” นายเอก กล่าว