รีเซต

เช็คสุขภาพหุ้น "BCH" โบรกฯ แนะจังหวะเก็งกำไร

เช็คสุขภาพหุ้น "BCH"  โบรกฯ แนะจังหวะเก็งกำไร
ทันหุ้น
4 มกราคม 2567 ( 10:07 )
38

#ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอน เฮ้าส์ ส่อง BCH ในปี 2567 ได้โควต้าผู้ประกันตนโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้นอีกราว 3 แสนคน หรือเพิ่มขึ้นราว 20% จากที่ 1.54 ล้านราย เป็น 1.85 ล้านราย ตามหลักเกณฑ์ใหม่ซึ่งมีการปรับเกณฑ์ตามความปลอดภัยและ Thai Labor Standard  

 

โดย BCH เป็นกลุ่มรพ. ที่ได้โควตาเพิ่มขึ้นมากสุด ซึ่งมีรพ.ในกลุ่มที่ได้รับการปรับเพิ่มโควต้า 4 รพ. คือ 1) รพ. เกษมราษฎร์ บางแค ได้โควต้าเพิ่มขึ้นราว 1 แสนราย จาก 1.95 แสนรายเป็น 2.93 แสนราย ซึ่งนอกจากได้ตามมาตรฐานใหม่แล้ว ยังได้โควต้าเพิ่มจากการปรับปรุงเพิ่มอาคารและขยายจำนวนเตียงเพิ่มอีก 50 เตียง 2) รพ. เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ได้โควต้าเพิ่ม 8 หมื่นราย จาก 1.93 แสนรายเป็น 2.73 แสนราย 3) รพ. เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ได้โควต้าเพิ่ม 7.4 หมื่นราย จาก 1.05 แสนราย เป็น 1.79 แสนราย และ 4) รพ. เกษมราษฎร์ รามคำแหง ได้โควตาเพิ่มขึ้น 4.1 หมื่นราย จาก 1.38 แสนราย เป็น 1.79 แสนราย ตามเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นหลังจาก ทีได้ผ่านการรองรับมาตรฐาน JCI จากองค์กรของสหรัฐในปีก่อน

 

ฝ่ายวิจัย มอง ณ สิ้นปี 66 BCH มีผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมของกลุ่มที่ราว 1.01 ล้านราย โดยรพ.ในกลุ่มที่เต็มโควตาแล้ว คือ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น และ เกษมราษฎร์บางแค โดยทั้ง 2 รพ. ได้โควตาเพิ่มรวมกันถึง 1.8 แสนราย ทำให้โอกาสที่จำนวนผู้ประกันตนของ BCH ในปี 67 จะเติบโตได้ราว 20% หรือเพิ่มขึ้นราว 1.5 แสนราย 

 

นอกจากนี้ รพ.ของกลุ่มมีการทยอยเซ็น MOU กับสำนักงานประกันสังคมในการให้บริการผ่าตัดหรือทำหัตถการ 5 โรคร้ายโดยผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย 1)  โรคหัวใจและหลอดเลือด 2) โรคหลอดเลือดสมอง 3) โรคนิ่วในไตหรือถุงน้ำดี 4) การผ่าตัดมะเร็งเต้านม 5) การผ่าตัดก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็ว ด้วยค่าความรุนแรงของโรคที่ Adjusted RW หรือหน่วยค่าความรุนแรงของโรคละ 1.5 หมื่นบาท ซึ่งสูงกว่าระดับที่จ่ายให้รพ.ที่เข้าโครงการประกันสังคมทั่วไปที่ค่าความรุนแรงของโรคที่  Adjusted RW ละ 1.2 หมื่นบาท จาก 5 รพ. ใน Q1/66 เป็น 10 รพ. ใน Q1/67 รวมถึงสำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวของผู้ประกันตนมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 เป็นต้นไป เป็นผลให้คาดว่ากำไร Q1/67 จะเติบโต YoY อย่างโดดเด่น

 

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่ากำไร Q4/66 จะเติบโต 5% QoQ และ 72% YoY จากคนไข้ไทยที่เข้ามารับการรักษาโรคระบาดทั้งไข้หวัดใหญ่ โรคทางเดินหายใจเด็กจำนวนมากต่อเนื่องจาก Q3/66 ขณะที่รายได้คนไข้ต่างชาติยังดีต่อเนื่อง แม้คนไข้จากคูเวตจะลดลงเล็กน้อย แต่ได้คนไข้จากประเทศลิเบีย และจากประเทศซาอุดิอาระเบียเริ่มเข้ามารักษาตั้งแต่ Q4/66 หลังจากที่ได้เซ็นสัญญากับสถานทูตทั้ง 2 ประเทศมาหลายเดือนแล้ว 

 

บวกกับทาง BCH ได้ใส่เงินเพิ่มทุนที่รพ.เกษมราษฎร์ เวียงจันทน์ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้สกุลเงินบาทตั้งแต่ช่วง Q3/66 แล้ว เป็นผลให้ผลกระทบขาดทุน FX ของเงินสกุลลาวที่อ่อนค่าลง เหลือเพียงเล็กน้อย เป็นผลให้คาดกำไรทั้งปี 66 จะอยู่ที่ 1,486 ล้านบาท ลดลง  51% ก่อนที่จะกลับมาเติบโตเกิน 20% ในปี 67 ซึ่งดีกว่าประมาณการปัจจุบันของฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเติบโตราว 16% เนื่องจากจำนวนโควตาประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดมาก บวกกับ BCH ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติจาก 9M66 ที่ราว 12% ของรายได้กิจการรพ. และ Q3/66 ที่ราว 16%  เป็น 20% ในปี 67 จากจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

 

โดยผลบวกของฟรีวีซ่านทท.จากจีนอย่างถาวร จะช่วยให้รพ. WMC  ซึ่งมีศูนย์ IVF (เด็กหลอดแก้ว) รองรับคนไข้จากจีนที่ต้องการมีบุตรมาให้บริการ ทำให้ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มทบทวนปรับเพิ่มประมาณการภายหลังจากได้รับ Guidance ของทางบริษัทอย่างเป็นทางการ 

 

ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดราคาเป้าหมายปี 67 จะอยู่ที่ 25 บาท มี upside จากราคาปัจจุบัน 11.6% บวกกับโควตาที่ได้รับจากสำนักงานประกันสังคมสูงกว่าคาดมาก เป็นโอกาสให้ เข้าซื้อเก็งกำไร

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง