หลังจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น หลายๆ คนคงคิดถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ดิชั้นก็เป็นคนหนึ่งที่โหยหาการเดินทางมากกกก หลังจากเปิดประเทศก็เริ่มวางแผนเที่ยวกันเลยค่ะ จุดหมายแรกของเราก็คือ ประเทศอังกฤษ การขอวีซ่าอังกฤษ ต้องขอแยกจากประเทศในกลุ่มเชงเก้ง หรือแม้ใครมา transit ก็ต้องทำวีซ่าอังกฤษนะคะการขอวีซ่าอังกฤษสามารถขอผ่านเวป www.gov.uk โดยเราจะจองเป็นวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือน ซึ่งมีราคาการทำอยู่ที่ 100 ปอนด์ เป็นมาตรฐานเลยนะคะ (A Standard Visitor visa costs £100 for up to 6 months. The earliest you can apply is 3 months before you travel) ละก็สามารถขอได้ก่อนเดินทาง 3 เดือน ก่อนหน้านี้เคยไปอ่านเจอว่า ให้ทำวีซ่าก่อน 3 เดือน นับจากวันที่ไปทำ biometric บางคนก็บอกว่า 3 เดือนตอนกรอกใบสมัคร แต่เรากรอกเอกสารเกิน 3 เดือน แต่ไปทำ bio ในช่วง 3 เดือนก่อนเดินทาง ก็สามารถทำได้นะคะ แต่ขอยังไม่การันตีว่าสรุปนับจากตรงไหน การกรอกเอกสาร สามารถ search จาก google ได้นะคะ มีคนให้ความรู้ละเอียดมากๆ ส่วนตัวเราแค่ทำตามลำดับขั้นตอนในฟอร์ม ถามอะไรก็ตอบไป ก็สามารถทำไปได้จนจบนะคะสิ่งที่ต้องเตรียมในการกรอกข้อมูลก็คือpassport ที่ยังไม่หมดอายุ และมีหน้าเหลือ 1 หน้าประวัติการเดินทางภายใน 10 ปีที่ผ่านมา ว่าเคยไปไหนมาบ้าง ทั้งใน UK ,ประเทศในกลุ่มเชงเก้ง และประเทศอื่นๆ ที่เราสามารถกรอกวันไปกลับได้ทั้งหมด ประวัติคนในครอบครัว หรือคนที่เราจะ support หรือคนที่ support ให้เราประวัติรายได้ต่างๆ ของเรา ว่าเรามีรายได้จากอะไร เท่าไหร่ มีหนี้สิน หรือค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่บ้างวางแผนการเดินทางที่ UK รวมถึง วางแผนค่าใช้จ่าย ว่าจะใช้จ่ายรวมคิดเป็นเงินเท่าไหร่ (ปอนด์) การกรอกข้อมูลเริ่มต้นจะให้เราใส่ e-mail และกำหนด password เราใช้ username/password ของเรากรอกให้ทั้งสามี และลูก แต่หากทำแยกได้ก็ดีนะคะ เพราะตอนเค้าส่ง link มาเผื่อเราจะกรอกในครั้งเดียวไม่เสร็จ เพื่อให้ไปแก้ไข หรือแม้แต่ upload เอกสาร ไม่งั้นจะงง มากๆ ค่ะ แต่เนื่องจากลูกยังไม่มี e-mail ของตัวเอง คุณแม่เลยใช้ของตัวเองกรอกให้ค่ะ เอกสารของลูกที่ต้องเตรียมก็คล้ายของแม่เลยค่ะ แต่ ที่เพิ่มเติมก็คงเป็นใบเกิด หลักฐานของการเป็นแม่ลูกกัน และส่วนตัวทำหนังสือแนะนำตัว และแจกแจงการไปเที่ยวรวมถึงพยายามบอกถึงความสามารถในการไปเที่ยวของเรา หลังจากกรอกเอกสารเสร็จ เราจะได้ใบ checklist ซึ่งโดยรวมหลักๆ จะประกอบด้วย 2 ส่วน ก็คือ passport พร้อมสำเนา 1 ใบหลักฐานทางการเงิน (Evidence of funds available to you, and which are clearly accessible by you) ไม่ว่าจะเป็น statement (สามารถใช้เอกสารที่ download จาก app ธนาคารได้) หลักฐานการทำงาน ที่เหลือก็จะเป็นเอกสารเพิ่มเติม เช่นEvidence of support you will receive from your sponsor including details of what support is being provided and how หลักฐานการได้รับการสนับสนุนซึ่งส่วนหนึ่งก็จะเขียนจดหมายแนะนำตัว หลักฐานการเงินที่จะสนับสนุนว่ามีความสามารถพอรึเปล่า ซึ่งเราก็ใช้เอกสาร statement ของตัวแม่เอง Evidence of the relationship, if any, between you and your sponsor Evidence that your sponsor is not, or will not be, in breach of UK immigration laws at the time of your visit ในส่วนนี้ก็จะเป็นหลักฐานความสัมพันธ์ เช่นใบเกิด ซึ่งจะมีชื่อพ่อแม่อยู่แล้วall documents must be in English หลักฐานทุกอย่างต้องเป็นภาษอังกฤษนะคะtranslated documents must be certified เอกสารทุกอย่างค้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ส่วนตัวเราเคยขอวีซ่าเชงเก้นเลยได้เอกสารที่มีการแปลแบบมี License แต่เห็นในเพจหลายเพจบอกว่าแปลเองก็ได้ค่ะany passports provided must be the originalsและจะต่อไปยังขั้นตอนการจ่ายเงิน และเลือกวันนัดทำ biometric กับทาง vfs เรานัดวันไปทำวันที่ 5 สค.65 จะมีเมลล์ confirm appointment เราก็ปริ้นออกมาด้วยนะคะ โดยให้ปริ้นอันล่าสุดที่มีการ upload เอกสารครบทุกอย่างแล้ว ส่วนใครจะไม่ upload เอง จะให้เจ้าหน้าที่ upload ให้ก็จะเสียค่าบริการเพิ่มนะคะวันที่ไปทำ bio vfs uk จะอยู่ที่ตึก trendy สุขุมวิท 13 พิกัด ให้ไปก่อนเวลา 15 นาทีนะคะ เราค้องไปชั้นล่างสุดก่อนนะคะ เพื่อรอคิวขึ้นลิฟท์ไปชั้น 28 จะมีเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ไปตามเวลาที่นัดหมายนะคะ หลังจากขึ้นไปชั้น 28 จะมีให้สแกนตัวผ่านเข้าไป และยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ทำคิว หลังจากนั้นก็เข้าไปข้างใน วันที่เราไปโชคดีมากเพราะคิวสั้นมาก เดินเข้าไปได้เรียกไปเคสเคอร์เลย เจ้าหน้าที่ก็จะเช็คเอกสารตามใบ checklist ซึ่งหากเรา upload เอกสารเองหมดแล้ว ก็ไม่ต้องเตรียมเอกสารซ้ำอีกนะคะ เอาไปแค่ passport และใบ checklist เท่านั้นค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะถามว่าจะรับ sms หรือจะให้ส่งทางเมลล์อย่างเดียว ซึ่งหากเลือกส่ง sms ด้วยจะเสียค่าบริการอีก 85 บาท ส่วนเรารับแต่เมลล์อย่างเดียว(ซึ่งสามีเลือกรับ sms พบว่าข้อความและเวลาได้พร้อมๆกับ email เลยค่ะ และเลือกว่าจะมารับ passport เองหรือให้ส่งไปรษณีย์ ซึ่งถ้าส่งไปรษณีย์จะเสียค่าส่ง 280 บาทค่ะหลังจากเช็คเอกสารและจ่ายค่าบริการเรียบร้อยก็ไปห้องทำ biometric ซึ่งจะมีการถ่ายรูป และสแกนลายนิ้วมือทุกนิ้ว เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ หลังจากนั่นก็รอๆๆๆๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ณ ตอนนี้จะรอกระบวนการประมาณ 8-10 weeks (ปกติจะประมาณ 6wk)แต่เราได้เล่มเร็วเกินคาด วันที่ 23 สค. 65 ก็ได้รับ email แจ้งแล้วว่าเล่มได้ส่งออกมาแล้ว และวันที่ 25 สค.เล่มก็ส่งมาถึงบ้านแล้วค่ะ และสรุปก็ผ่านนนนน ค่าาาา เตรียมไปเที่ยวอังกฤษกันได้แล้วค่าาาปล.เราทำงานรับราชการ และสามีเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ลูกสาวอายุ 5 ปี รูปภาพทั้งหมด By Psychiartist7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์