โควิดตัวช่วยฟื้น ตลาดคริปโทฯสดใสรับปี 64

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า เกือบ 1 ปีแล้วที่โลกเผชิญกับวิกฤต โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ การลงทุน และ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ แต่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโควิด-19 กลับเป็นตัวเร่งสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากตลาดซึมยาวกว่า 3 ปี และราคาของบิทคอยน์เดือนมีนาคมตกลงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐช่วงเศรษฐกิจหยุดชะงัก จากการล็อกดาวน์ สู่ภาวะกระทิงราคาขึ้นเรื่อยๆ ถึงกว่า 170% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24,295 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เพียงแค่ 9 เดือน ปัจจัยหนุนเกิดจากนักลงทุนสถาบันและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ และอังกฤษกระจายความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง นำเงินไปลงทุนในบิทคอยน์เพื่อเป็นสินทรัพย์คงคลังสำรอง ภาพรวมการเทรดคริปโทเคอร์เรนซี่ในตลาดโลกเห็นว่ามูลค่าตลาดรวมโตขึ้นกว่า 236% จากเมื่อต้นปีอยู่ที่ 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงถึง 6.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา

นอกจากโควิด-19 แล้วอีกสองปัจจัย คือ ความเป็นไปได้ของ Facebook Coin ที่พลิกแผนธุรกิจเปลี่ยนแนวคิดสร้างเหรียญโดยใช้ดอลลาร์สหรัฐตรึงมูลค่าเพียงสกุลเดียว จากแผนเดิมรูปแบบตะกร้าเงินหลายสกุล อีกปัจจัยคือการเกิดขึ้นของ Central Bank Digital Currency เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางทั่วโลก ที่กำลังเร่งศึกษาและทดลองใช้ในจีนแล้ว ขณะที่นักลงทุนไทยกำลังเริ่มปรับตัวและเปิดใจให้กับเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโท เคอร์เรนซี แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เริ่มวางแผนสร้างตลาดเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ภาพรวมการแข่งขันผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ในไทยยังไม่รุนแรงมากนัก ในปัจจุบันได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. เพียง 5-6 แห่ง โดย Satang Pro มีรายได้เกือบ 50% ของตลาดรวมในไทย และรายได้เพิ่มกว่า 3 เท่าในปี 2561

นายปรมินทร์กล่าวว่า ปี 2564 เห็นว่าบิทคอยน์ยังเป็นที่ต้องการในตลาด และตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะยังคงคึกคัก สาเหตุจากสหรัฐและประเทศต่างๆ คงดำเนินนโยบายอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ในภาวะที่บริษัทเอกชนยังไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มที่จากการล็อกดาวน์ ถึงแม้มีวัคซีนแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ดังนั้นความต้องการขายเพื่อ cash out นำเงินสดมาดำรงชีวิตประจำวันรวมทั้งการรักษาธุรกิจยังคงมีอยู่ คาดราคาบิทคอยน์อาจถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาบิทคอยน์คงอยู่ที่ 20,000-24,000 ดอลลาร์สหรัฐ จนถึงต้นเดือนมกราคม หลังจากนั้นมีโอกาสปรับฐาน เดือนเมษายนอาจปรับขึ้นอีกรอบ ต้องระวังไม่ถือยาว ต่อเมื่อโควิด-19 เริ่มดีขึ้น แต่ธรรมชาติของคริปโทเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนต้องระมัดระวังคือการถูกล่อลวงไปลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่

เเกาะติดข่าวที่นี่