โควิด: รัสเซียปัดครหา “ปกปิด” ยอดผู้เสียชีวิต-เซ่นไวรัสมรณะไม่ถึง 1%
โควิด: รัสเซียปัดครหา “ปกปิด” ยอดผู้เสียชีวิต-เซ่นไวรัสมรณะไม่ถึง 1%
โควิด: รัสเซียปัดครหา - วันที่ 25 เม.ย. เดลีเมล์ รายงานกระแสวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ก่อให้เกิด โรคโควิด-19 ใน ประเทศรัสเซีย ว่า นายเซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก แถลงปฏิเสธข้อครหาว่าทางการรัสเซียปกปิดจำนวนผู้เสียชีวิตจริง
หลังยอดผู้ป่วยสะสมเมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 68,662 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 615 คน ส่งผลให้อัตราการตายจากโรคโควิด-19 ในรัสเซียอยู่ที่ร้อยละ 0.9 น้อยกว่าหลายประเทศที่มีการติดเชื้อในจำนวนใกล้เคียงกัน
“ไม่มีใครปกปิดอะไรทั้งนั้น” นายโซเบียนินแถลงชี้แจงผ่านสถานีโทรทัศน์รอสซิยา-24 พร้อมระบุว่ากระแสข่าวดังกล่าวเป็นประเด็นที่ไม่มีเหตุผล รัสเซียรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ เพราะมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อในวงกว้าง ยิ่งเจอผู้ป่วย และผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายต่อการสู้ศึกปราบปรามโควิด-19
“สถานการณ์ในประเทศของเราแตกต่างออกไป เราตรวจสอบหาเชื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ได้พุ่งเป้าไปที่บุคคลซึ่งมีอาการชัดเจน หรือบุคคลที่ป่วยหนัก หากพวกเขาอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเราจะตรวจแบบเจาะลึกเพื่อเร่งรักษาผู้ติดเชื้อ”
นายโซเบียนินกล่าวอีกว่า นอกจากการตรวจหาเชื้อซึ่งมีประชาชนมากกว่า 2.5 ล้านคนที่ผ่านการตรวจแล้ว กรุงมอสโกยังมีระบบการแยกกักตัวที่ดีและน่าพอใจอย่างยิ่ง ซึ่งตนขอขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ปฏิบัติตามข้อบังคับในช่วงล็อกดาวน์
“ประชากรส่วนใหญ่มีความรับผิดชอบมาก และสิ่งนี้ช่วยให้ทางการไม่ต้องยกระดับใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ในบางประเทศพบว่านโยบายไม้อ่อนนั้นไม่เพียงพอ และทำให้ทางการต้องใช้ไม้แข็งด้วยการส่งกองทัพไปลาดตระเวนตามถนนหนทาง ซึ่งเราไม่ต้องการผลลัพธ์แบบนี้”
ทั้งนี้ แม้อัตราการเสียชีวิตในรัสเซียจะน้อยมาก แต่ผู้เสียชีวิตรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีอย่างน้อย 60 คน ถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ
ขณะเดียวกันมีความวิตกถึงการรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลในกรุงมอสโก ซึ่งสามารถรองรับผู้ติดเชื้อที่ต้องแอดมิตนอนโรงพยาบาลได้ราว 80,000 คน ภายหลังทางการท้องถิ่นเตือนว่าเตียงผู้ป่วยในเมืองหลวงจะเต็มหมดในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: