เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีสื่ออยู่ในมือทุกคนเข้าถึงโซเชียลกันได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเด็กเล็ก คนโต ยันคนแก่ ก็เล่นและใช้โซเชียลมีเดียเป็นกันทุกคน เป็นเรื่องที่ถ้ามองแล้วก็ดูเหมือนจะปกตินะคะ แต่ในมุมมองของเรา เรามองว่าการที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้มันชั่งเป็นดาบสองคมจริง ๆ ค่ะ เราจะเห็นบนหน้าข่าว หน้าสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับคดีบนโลกโซเชียล หรือ บางคนก็ใช้มันทำผิด ๆ เช่น การขายสิ่งของผิดกฏหมาย(ขายกันอย่างโฉ่งฉ่างเลยทีเดียว) หรือจะเป็นการโพสต์อะไรที่มันสองแง่สองง่ามเพื่อแลกกับยอดไลค์ หรืออะไรก็ตามที่เราเห็นบนโลกโซเชียล และแน่นอนค่ะ ว่า เมื่อเราโพสต์ลงไปแล้วมันไม่มีคำว่าส่วนตัว มันจึงส่งผลแน่นอน ทีนี้เรามาดู 5 เคล็ดลับที่เราจะหยิบยกมาพูดกันในวันนี้กันค่ะ เพื่อที่จะได้เป็นการเตือนสติหลาย ๆ คนค่ะ 1. กลายเป็นคนขี้อวด ขอบคุณภาพจาก freepik.comแน่นอนค่ะถึงแม้ว่าการโพสต์นั้น เราอาจจะคิดของเราว่าก็โพสต์ในพื้นที่ส่วนตัวของเรา แต่ แต่ อย่าลืมนะคะ เมื่อเราโพสต์ลงบนโซเชียลเมื่อไหร่เมื่อมีคนเห็นเราก็ต้องตกเป็นขี้ปากหลาย ๆ คน อาจจะถูกนินทา ติฉินได้ว่า “ขี้อวดจัง” บลา ๆ และอาจจะทำให้คนอื่นหมันไส้เอาได้ด้วยนะคะ เพราะฉะนั้น เวลาจะโพสต์อะไร ก็โพสต์อะไรที่มันสร้างสรรค์จะดีกว่าค่ะ หรือจะอวดก็อวดสิ่งดี ๆ ที่มีประโยชน์ดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องส่วนตัวของเราจริง ๆ หากอยากโพสต์ก็ไม่ต้องตั้ง สาธารณะค่ะ ให้เห็นเป็นส่วน ๆ ไป หรือ ไม่โพสตฺอะไรที่มันล่อแหลมหรือบ่งบอกถึงการโอ้อวดมากเกินไป เช่น ทอง รถ เงิน บ้าน เป็นต้นค่ะ 2. ทำให้คนอื่นรำคาญ ขอบคุณภาพจาก pixabay.comรู้สึกไหมคะเวลาที่เราจะโพสต์อะไรก็ตามแล้วอาจจะมีเพื่อนมาเม้นเหน็บแนมเราว่า จะโพสต์อะไรนักหนา ลงอะไรถี่เกิ๊น บลา ๆ มันทำให้เราฉุกคิดเหมือนกันนะคะว่า เอิ่มมม เฟสเราทำไมคนอื่นถึงเดือดร้อนจัง ยิ่งเราหาคำตอบเราก็ยิ่งเครียดค่ะ มันเหมือนกับว่า ทำไมต้องมายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวของเรา อ่ะ คำนี้มาอีกแล้วนะ “พื้นที่ส่วน”(ที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกโซเชียล) เพราะฉะนั้นเราเลยค่อย ๆ เรียนรู้ค่ะว่า โลกโซเชียลมันก็คือสังคมอย่างนึง ร้อยพ่อพันธ์แม่มารวมกันมันก็เหมือนกับสังคมที่เราต้องออกไปใช้ชีวิตทุกวัน แน่นอนว่าเราไม่สามารถใช้ชีวิตให้ถูกใจใครได้ แม้แต่กระทั่งการโพสต์แคปชั่น รูปภาพ หรือเช็คอินบนพื้นที่ส่วนตัวเราก็ตาม ก็ยังไม่วายมีคนรำคาญ เพราะฉะนั้น ก็ให้จำกัดเวลาโพสต์ดูบ้างก็ดีค่ะ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ดูเยอะ ไม่ดูล้นจนรกหน้าฟิดเพื่อน ๆ จนเกินไป และเพื่อเป็นการลดการโพสต์ ลดการแชร์ ของเราลงไปได้ด้วยนะคะ ค่อย ๆ ทำ ค่ะ 3. ตกเป็นเป้าหมายจากคนที่ไม่หวังดี ขอบคุณภาพจาก freepik.comแน่นอนว่า เมื่อเราเล่นโซเชียล เราใช้มันอยู่ทุกวันเพื่ออัพเดทชีวิตประจำวันลงในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่ก็อาจจะมีคนที่คอยจ้องใช้โอกาสนี้เพื่อเข้าหาเรา หรือ คิดไม่ดีกับเราค่ะ จากหลาย ๆ เพจ หรือ หลาย ๆ คนก็คงจะเคยมีประสบการ์ณโดนหลอกกันมาบ้างแล้วถ้าเราตามจากสื่อหน้าเพจนะคะ จะเห็นว่ามีคนโดนอยู่แทบทุกวัน เพราะฉะนั้น ข้อมูลส่วนตัวของเราอย่าไปเปิดเผยข้อมูลโจ่งแจ้งชัดมากบนโซเชียล และเวลาคนทักมาคุยหรือเข้าหาก็อย่าไปเชื่อใจอะไรง่าย ๆ ค่ะ โลกโซเชียลมันก็คือ โลกมายา อย่าไปลงงมงายเชื่อคนง่ายหรือไว้ใจอะไรใครง่าย ๆ นักนะคะ เพื่อประโยชน์ของทุกคนเองค่ะ 4. ถูกนินทา ขอบคุณภาพจาก freepik.comแน่นอนค่ะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องโดนกันมาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเราอยู่ในโลกออนไลน์ หรือ โลกโซเชียลแล้ว เราไม่สามารถควบคุมปากใครไม่ให้นินทาได้ แม้กระทั่งคนใกล้ตัว เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อก็มีเยอะแยะ บางทีการโพสต์ แชร์เรื่องราวส่วนตัว หรืออะไรก็ตามที่เราโพสต์ไปนั้น อาจจะทำให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดได้ จนกลายเป็นเรื่องซุบซิบ ๆ นินทาเกิดขึ้นได้ ในที่ทำงาน หรือ ข้างนอกได้ค่ะ และในโลกโซเชียลนี้ไม่มีใครที่จะหวังดีกับเราแบบ100%หรอกค่ะ ทางที่ดีควรป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกพูดถึงในด้านเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยการหยุดแชร์เรืองส่วนตัวหรือเขียนโลกส่วนให้คนอื่นได้รับรู้บ้างก็น่าจะดีค่ะ 5. เกิดภาพลักษณ์ด้านลบ ขอบคุณภาพจาก freepik.comภาพลักษณ์ด้านลบของใครหลายคนมักจะเกิดจากการโพสต์ระบายความรู้สึกต่าง ๆ นา ๆ ลงบนโซเชียลอย่างไม่ทันระมัดระวังตัวค่ะ จนลืมไปว่าพื้นที่ส่วนตัวบนโลกสาธารณะใบนี้เต็มไปด้วยคนที่คอยจ้องจับตามองอยู่ การโพสต์ระบายบางสิ่งบางอย่างที่กำลังอัดอั้น จึงทำให้เป็นตัวการหลัดที่สามารถทำให้เกิดภาพลักศณ์ในทางด้านลบต่อสายตาคนอื่น ๆ ได้นะคะ สรุปว่า 5 ข้อนี้ที่เราได้หยิบยกมาพูดในวันนี้ก็เพื่อ อยากให้ทุกคนได้มีสติในการใช้โซเชียลอย่างมีสติ และ ให้รู้ถึงเท่าทันบนโลกออนไลน์ค่ะ เพราะทุกวันนี้มีคนจำนวนมากเลยค่ะที่ตกเป็นเหยื่อในโลกออนไลน์แห่งนี้ และในสังคมเราทุกวันนี้ก็มีคนจำนวนมากที่ใช่สื่อออนไลน์โซเชียลนี้ทำร้าย ทำลาย มันมีทั้งดีและไม่ดีอยากให้ทุกคนได้ใช้โซเชียลอย่างมีสตินะคะ ขอบคุณภาพปกจาก pixabay.com