อ่างทองสำรวจพบสุสาน 3,000 ปี แหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์-โบราณคดีจากสถาบันต่างๆ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจ ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 5 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม โดย นายสมเกียรติ บริบูรณ์ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยถึงการค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมากบนที่ดินจำนวน 17 ไร่ 2 งาน จากการขุดหน้าดินเพื่อนำไปขาย รวมถึงการให้เช่าพื้นที่เพื่อทำนา ตนจึงเก็บรวมรวมไว้ในห้องพระที่บ้านพัก อาทิ ชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ และสัตว์, ภาชนะดินเผารูปแบบต่างๆ ทั้งที่สภาพสมบูรณ์และชิ้นส่วนที่แตกหัก เช่น ภาชนะดินเผาเนื้อดิน ก้นกลมทาน้ำดินสีแดง ผิวขัดมัน, ชิ้นส่วนภาชนะลวดลายขูดขีด, หินดุ สำหรับทำภาชนะดินเผา, เครื่องมือหินขัด, ชิ้นส่วนหอกสัมฤทธิ์, ลูกปัดทำจากกระดูกปลาขนาดใหญ่ เป็นต้น
รศ.ดร.รัศมี ชูทรงเดช อาจารย์ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร กล่าวว่า จากการสำรวจสภาพพื้นที่เบื้องต้นและพิจารณาโบราณวัตถุที่พบ บ่งชี้ว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์รวมถึงอาจเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี ตรงกับยุคหินใหม่ เทียบเคียงกับแหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร จ.สุพรรณบุรี และแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า จ.กาญจนบุรี ดังนั้นจึงเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญสำหรับชาวอ่างทอง เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่นี่พบภาชนะดินเผาที่มีลักษณะเฉพาะ แตกต่างจากบ้านเก่า และหนองราชวัตร ยิ่งทำให้เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ น่าศึกษาอย่างมาก เพราะอาจเป็นลักษณะเฉพาะของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ส่วนตัวคิดว่าถึงแม้จะรู้อายุเบื้องต้น สิ่งที่ควรทำต่อไปคือกันพื้นที่และขุดค้นตามหลักวิชาการ ถ้าตรงนี้เป็นแหล่งสำคัญจะเป็นหัวใจระหว่างพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างลพบุรี สุพรรณบุรี มีชุมชนสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ประวัติศาสตร์อ่างทองย้อนกลับไปก่อนยุคอยุธยา นี่คือเหตุผลว่าทำไมแหล่งนี้จึงสำคัญมากๆ ของที่เจอ เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ทำจากกระดูกสัตว์และสำริด ชี้ว่าอย่างน้อยที่นี่มี 2 สมัย คือ สมัยหินใหม่ และสัมฤทธิ์ ผ่านมาไม่เคยพบในพื้นที่แถบนี้มาก่อน เมืองโบราณใกล้สุดของแถบนี้ คือ เมืองโบราณคูเมือง ที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นเมืองสมัยทวารวดี โดยชั้นล่างสุดเป็นสมัยหินใหม่ เพราะฉะนั้น หากมีการสำรวจเพิ่มเติม แถวนี้อาจมีชุมชนโบราณอีกมาก
นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของจังหวัดอ่างทองที่มีการพบแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ รู้สึกยินดีมากที่คณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมสังเกตการณ์ อยากขอให้กรมศิลปากรส่งนักโบราณคดีลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อศึกษาขุดค้น โดยอาจมีการพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เนื่องจากเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีค่าของประเทศ นอกจากนี้อาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ในอนาคต เนื่องจากตั้งอยู่ริมถนน เดินทางเข้าถึงง่าย และเชื่อมต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้สะดวก ทางจังหวัดพร้อมทำงานร่วมกันและหาแนวทางร่วมมือในการพัฒนาในอนาคต เพื่อเป็นประโยชน์ต่อลูกหลาน
นายศุทธิภพ จันทราภาขจี นักโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบถึงการลงพื้นที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยมาสำรวจแล้ว 2 ครั้ง เชื่อว่าเป็นแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากโบราณวัตถุซึ่งเจ้าของที่ดินเก็บรวบรวมไว้ ก็เคยเดินสำรวจพบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์เช่นกัน
บทความน่าสนใจอื่นๆ
