เคยคิดไหมคะว่าทำไมภาษาจีนมันถึงยากขนาดนี้? อ่านแล้วอ่านอีกสุดท้ายก็จำไม่ได้ คำศัพท์ก็เยอะ ยากก็ยาก แล้วไหนจะตัวพินอินที่ต้องจำอีก แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ไป เพราะเรามีเทคนิคการเรียนภาษาจีนมาฝากทุกคนค่ะ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ทุกวัน เวลาไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ และนี่ก็เป็นเทคนิคที่เคยใช้เองและได้ผลจริงค่ะ เพียงแต่ทุกคนต้องมีวินัย และทำอย่างสม่ำเสมอนะคะ วิธีที่ 1 การดูซีรีส์จีนหรือภาพยนตร์จีน การดูซีรีส์หรือภาพยนตร์จีน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การเรียนภาษาจีนของทุกคนพัฒนาขึ้นได้ ซึ่งการเรียนภาษาจีนโดยการดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ มีเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ นั่นก็คือต้องดูเป็นพากย์จีน และหากมีซับ ก็สามารถเป็นได้ทั้งซับภาษาไทยและซับภาษาจีนเลยค่ะ แต่ข้อดีก็จะแตกต่างกันไปดังนี้ค่ะ ดูพากย์จีน - ซับภาษาไทย ฝึกการฟัง สามารถเรียนประโยคและรูปประโยคที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะบทพูดในซีรีส์ เปรียบเสมือนการจำลองบทสนทนาในชีวิตจริงค่ะ เราสามารถใช้การฟังควบคู่กับการอ่านซับภาษาไทยในการจดจำได้ค่ะ และเรายังสามารถรู้ได้ด้วยค่ะว่าประโยคไหน มีคำแปลว่าอะไร และใช้ช่วงไหนในเหตุการณ์ใด ดูพากย์จีน - ซับภาษาจีน ฝึกการฟังและการอ่านภาษาจีน สามารถเรียนรู้ว่าในประโยคนั้นๆ เขียนอย่างไร ประกอบด้วยคำศัพท์ใดบ้าง และยังทำให้เราเห็นไวยากรณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้เราคุ้นชินกับตัวอักษรภาษาจีนได้มากขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งจะดูพากย์จีนควบคู่กับซับแบบไหน ก็เลือกได้เลยค่ะ แต่หากยังไม่รู้จะเริ่มแบบไหนดี แนะนำให้เริ่มจากการดูพากย์จีนควบคู่กับซับภาษาไทยไปก่อนนะคะ จากนั้นเราค่อยเพิ่มระดับความยากขึ้น เป็นดูพากย์จีนควบคู่กับซับภาษาจีนค่ะ วิธีที่ 2 การแปะโน๊ตคำศัพท์ตามสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน วิธีนี้จะช่วยให้เราได้ทบทวนสิ่งที่เรียนมาแบบไม่ทันได้รู้ตัวเลยค่ะ เพราะการที่เราได้เห็นคำศัพท์หรือประโยคนั้นๆทุกวันซ้ำๆ จะยิ่งทำให้เราจำได้ขึ้นใจมากขึ้นค่ะ เวลาถึงคราวที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ จะช่วยให้เรานึกคำศัพท์หรือประโยคออกมาโดยทีนที และช่วยให้ความตื่นเต้นความลนลานลดน้อยลงด้วยค่ะ แปะคำศัพท์ อย่างเช่น แปะไว้ที่ตู้เย็น และเขียนคำศัพท์ภาษาจีนที่แปลว่าตู้เย็นลงไป แปะไว้ที่โต๊ะ ก็เขียนคำศัพท์ที่แปลว่าโต๊ะลงไป จะช่วยให้จดจำคำศัพท์ภาษาจีนและนึกคำศัพท์ภาษาจีนเมื่อต้องสนทนาได้ง่ายขึ้น แปะประโยคสั้นๆง่ายๆ อย่างเช่น คำว่าตู้เย็น เราสามารถแต่งประโยคใดออกมาได้บ้าง อย่างเปิดตู้เย็น ปิดตู้เย็น คำศัพท์ว่าโต๊ะ เราสามารถแต่งประโยคอะไรได้บ้าง อย่างฉันนั่งโต๊ะ โต๊ะตัวใหม่ โต๊ะสีน้ำตาล เป็นต้นค่ะ แต่ถ้าหากเราแปะทั้งคำศัพท์ภาษาจีนควบคู่ไปกับการแปะประโยคไปด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ วิธีที่ 3 การแต่งประโยคหรือคิดคำศัพท์ด้นสดตามสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน วิธีนี้จะช่วยพัฒนาสมองในการคิดค่ะ ช่วยให้เวลาสนทนาจริงๆในชีวิตประจำวันเราจะไม่ลนหรือตื่นเต้นมากจนเกินไปค่ะ ทำให้การสนทนาราบรื่นเป็นธรรมชาติไม่เกร็ง ซึ่งขั้นตอนการฝึกมีดังนี้ค่ะ คิดคำศัพท์ด้นสดจากสิ่งที่เห็น อย่างเช่น เห็นสุนัข ภาษาจีนแปลว่าอะไร เห็นคุณพ่อของเรา แล้วภาษาจีนแปลว่าอะไร การทำแบบนี้จะช่วยให้เราทบทวนคำศัพท์ได้ตลอดเวลาค่ะ แถมทำที่ไหนก็ได้ คิดคำศัพท์ด้นสดจากสิ่งที่ได้ยิน อย่างเช่น ได้ยินคำว่า กิน ภาษาจีนแปลได้ว่าอะไร ได้ยินคำว่า ซื้อของ ภาษาจีนแปลว่าอะไร แบบนี้จะสามารถช่วยฝึกการฟังและสมาธิได้ค่ะ เมื่อเริ่มคล่องแล้วให้เพิ่มสเต็ปความยากขึ้น โดยการแต่งประโยคด้นสดค่ะ สามารถทำได้ดังนี้เลย แต่งประโยคด้นสดจากสิ่งที่เห็น อย่างเช่น เมื่อเห็น เตียงนอน มันสามารถแต่งเป็นประโยคอะไรได้บ้าง เมื่อเห็น เด็กกำลังวิ่ง เราสามารถแต่งประโยคใดออกมาได้บ้าง แต่งประโยคด้นสดจากสิ่งที่ได้ยิน หัวข้อนี้ให้เปรียบตัวเราเป็นล่ามคนหนึ่งค่ะ ได้ยินประโยคอะไร ให้แปลออกมาเป็นภาษาจีนค่ะ อย่างเช่น ฉันกินข้าว ภาษาจีนพูดว่าอะไร แบบนี้เลยค่ะ นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถทำสลับจากแปลไทยเป็นจีนแล้ว ยังสามารถแปลจากจีนมาเป็นไทยได้ด้วยนะคะ ทำสลับกันไปมา ยิ่งพัฒนาความจำและคลังคำศัพท์เรามากขึ้น และช่วยให้ไม่น่าเบื่อเกินไปด้วยค่ะ วิธีที่ 4 เว้นช่วงการทบทวน แน่นอนว่าการอ่านทบทวนบทเรียนและฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การพักผ่อนเองก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เนื่องจากการใช้ความคิดมากเกินไป อาจทำให้สมองเกิดอาการล้าได้ค่ะ ซึ่งการพักผ่อนก็ทำได้ง่ายๆดังนี้เลยค่ะ หางานอดิเรกอื่นๆทำ แนะนำให้เป็นงานอดิเรกที่เราชอบและรู้สึกผ่อนคลายที่สุดนะคะ ให้พักไปเลยอย่างน้อย 1-2 วันเต็มๆ การทำแบบนี้จะช่วยให้เราพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ค่ะ จัดตารางการพัก การจัดตารางการพัก จะช่วยให้การเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นค่ะ เมื่อสิ้นสุดการพักแล้ว จึงค่อยกลับมาทบทวนดังเดิม ซึ่งวิธีนี้มันเหมือนกับเราเก็บความรู้เอาไว้ ปล่อยเวลาพักให้ฝุ่นจับนิดหน่อย แล้วค่อยมาปัดฝุ่นออกทีหลัง แล้วยังสามารถพิสูจน์ตัวเราได้ด้วยว่า ความจำของเราดีระดับไหน วิธีที่ 5 ทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ การฝึกฝนซ้ำๆและสม่ำเสมอ เป็นวินัยเบื้องต้นที่ต้องมี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามแต่ ซึ่งแน่นอนว่าเห็นผลแน่นอนค่ะ และการพูดมันออกมาบ่อยๆก็ช่วยได้เช่นกันค่ะ แต่ว่าหากทำครึ่งๆกลางๆ ประสิทธิภาพอาจจะน้อยกว่า ทำให้เห็นผลช้า หรือไม่เห็นผลเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เทคนิคทั้ง 5 ที่เรานำมาฝากนี้ ทุกคนสามารถนำไปปรับแต่งหรือปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการทำสิ่งอื่นๆได้นะคะ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นการเรียนภาษาเสมอไปก็ได้ อาจจะนำไปใช้กับการติวหนังสือก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับ 5 เทคนิคเก่งภาษาจีน แม้ไม่ได้อ่านหนังสือ ที่นำมาฝากนั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ “ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ” ใครที่กำลังท้อแท้อยู่ สักวันจะต้องสำเร็จแน่นอนค่ะ! เครดิตภาพปกบทความ : ภาพโดย thingkingbad จาก Pixabay ภาพ 1 โดย毓伟 李จากPixabay ภาพ 2 โดย -Rita-👩🍳 und 📷 mit ❤ จาก Pixabay ภาพ 3 โดย free stock photos from www.picjumbo.com จาก Pixabay ภาพ 4 โดย Lerkrat Tangsri จาก Pixabay ภาพ 5 โดย Karolina Grabowska จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !