ช่วงปลายปีแบบนี้สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่มาไว้ใช้งานสักคัน แต่ยังไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหนที่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้งานของเราบ้าง วันนี้เราเลยได้ไปทำการรวบรวม 5 รถเก๋ง มือ 1 ในงบไม่เกิน 8 แสนบาท ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนน่าโดนบ้างมาไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับทุกคนแล้ว ซึ่งจะมีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรบ้าง เราไปดูกันเลย Toyota Yaris ATIV GR Sport รถยนต์ซีดาน รุ่นยอดนิยมจาก Toyota ที่ตอบโจทย์กับคนหลายกลุ่ม หลายวัย และหลากหลายไลฟ์สไตล์ เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด โดย Toyota Yaris ATIV GR Sport เป็นรถยนต์ระบบไฮบริด (Hybrid) พร้อมเกียร์ E-CVT เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i 1,496 ซีซี ที่ให้กำลังแรงม้ากำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 - 4,800 รอบต่อนาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถให้กำลังสูงสุดถึง 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร จึงทำให้รถรุ่นนี้มีกำลังรวมสูงสุดถึง 111 แรงม้าเลยทีเดียว ภายในเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับเป็นแบบปรับธรรมดา 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบธรรมดา 4 ทิศทาง บริเวณคอนโซลหน้าเพิ่มความพรีเมียมและเรียบหรูด้วยการหุ้มหนังสีดำ พร้อมบุนุ่ม นอกจากนี้ในส่วนของมาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างครบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดจอสีขนาด 7 นิ้ว แบบ Digital หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth และ USB - A 3 ตำแหน่ง และ USB-C 1 ตำแหน่ง มีระบบกรอง PM 2.5 อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ Smart Entry และ Push Start ช่วยให้ชีวิตง่ายและปลอดภัยมากกว่าการใช้กุญแจแบบเดิม ๆ รุ่น: Yaris ATIV GR Sport ราคาเริ่มต้น: 769,000 บาท ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี: Platinum White Pearl Black Roof / Red Mica Metallic Black Roof / Attitude Black Mica Honda City e:HEV SV Honda City 2025 เปิดตัวมาพร้อมกันทั้งหมด 6 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ S, V, SV, RS, e:HEV RS (รุ่นท็อป) และ e:HEV SV (รุ่นรองท็อป) ที่เราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้ โดย Honda City e:HEV SV 2025 เป็นรถเก๋งฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 1,498 ซีซี หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI จับคู่กับระบบเกียร์ E-CVT กำลังแรงม้ากำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 - 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 - 5,000 รอบต่อนาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที อีกทั้งยังมาพร้อมดิสก์เบรกหน้าหลัง พร้อมช่องระบายความร้อนที่ดิสก์เบรกหน้า ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ เพิ่มความหรูหราด้วยกระจังหน้า และมือจับประตูด้านนอกและด้านในสีโครเมียม ส่วนภายในก็มีให้เลือกถึง 2 โทนสี คือ ดำและสีแดงเข้ม คอนโซนหน้าสีดำ Piano Black พร้อมเบาะที่หุ้มด้วยหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็ให้มาสมกับการเป็นรุ่นรองท็อปสุด ๆ และสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Honda SENSING เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของ Honda ที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ของรถรุ่นนี้และ e:HEV RS (รุ่นท็อป) จะมาพร้อม LSF* ซึ่งจะช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ ดังนั้นจึงจะช่วยทั้ง รักษาระยะห่าง, ชะลอความเร็วตามโดยอัตโนมัติ และ หยุดหรือชะลอความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติ รุ่น: City e:HEV SV ราคาเริ่มต้น: 729,000 บาท ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี: น้ำเงินออบซิเดียน (มุก) / ขาวแพลทินัม (มุก) / ดำคริสตัล (มุก) / เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) / เงินลูนาร์ (เมทัลลิก) MAZDA2 Essential XDL Signature MAZDA2 Essential Sedan เปิดตัวมาทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกัน โดยจะมีราคาเริ่มต้น 529,000 บาท สำหรับรุ่น 1.3 Prime แต่สำหรับรุ่นที่เราจะนำมะแนะนำในวันนี้ คือรุ่น XDL Signature ที่ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในซีรีส์นี้ ซึ่งจะเป็นรถยนต์ซีดาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv - D 1.5 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว 1,499 ซีซี มาตรฐานไอเสียยูโร 5 ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ซึ่งข้อดีของรถยนต์รุ่นนี้คือขับสนุก เร่งแซงมั่นใจ ออกตัวแรง ที่สำคัญอัตราการประหยัดน้ำมันคือดีมาก ๆ เหมาะกับคนที่ต้องขับรถทางไกลเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วต้องขับรถเข้าเมืองเป็นประจำ อันนี้คือตอบโจทย์มาก ๆ เลย แต่ถ้าใครที่เน้นขับในเมือง ระยะทางใกล้ ๆ หรือต้องเจอสภาพรถติดบ่อย ๆ เราแนะนำให้ไปเลือกรุ่นที่เป็นเครื่องเบนซินจะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ รุ่น: MAZDA2 Essential XDL Signature ราคาเริ่มต้น: 749,000 บาท ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี: Air Stream Blue / Soul Red Crystal / Polymetal Gray / Platinum Quartz / Snowflake White Pearl / Aero Gray / Machine Gray / Jet Black MG5 Pro X MG5 รถเก๋งดีไซน์สปอร์สุดเท่ ที่เปิดตัวมาพร้อม 3 รุ่นย่อย ที่รุ่น Pro X ที่เรานำมาแนะนำกับในวันนี้จะเป็นรุ่นท็อปของซีรีส์ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi - TECH ขนาด 1,498 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน – เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speeds พวงมาลัยแบบเเร็คเเอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ที่มาพร้อมโหมดการปรับน้ำหนักของพวงมาลัย 3 โหมด คือ ในเมือง, มาตรฐาน และ สปอร์ต ดิสท์เบรกหน้าหลัง พร้อมช่องระบายความร้อนที่ดิสก์เบรกหน้า เพิ่มความหรูหราและความเท่ด้วย หลังคาซันรูฟ สปอยเลอร์หลัง และคาลิปเปอร์สีเเดง รองรับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-Smart และพิเศษสุดเฉพาะ MG5 Pro X คือ ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA / BSD / RCTA / RCW) เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถมากขึ้นอีกระดับ รุ่น: MG5 Pro X ราคาเริ่มต้น: 669,900 บาท ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สี: Nuclear Yellow / Arctic White / Black Knight / Scarlet Red / Metal Ash Grey / Mineral Green Suzuki Swift GLX ถ้าเพื่อน ๆ กำลังตามหารถยนต์ที่ทั้งคุ้ม ดูแลง่าย ค่าบำรุงรักษาไม่แรง และไม่จุกจิก เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ Suzuki Swift ที่เปิดตัวมาพร้อม 3 รุ่นย่อย และสำหรับรุ่นที่เรานำมาวันนี้คือรุ่น GLX ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรีส์นี้ โดย Suzuki Swift GLX มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน K12M 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ความจุ 1,197 ซีซี ที่ให้กำลังอัดสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน - เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ดิสก์เบรกหน้าหลัง พร้อมช่องระบายความร้อนที่ดิสก์เบรกหน้า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบเช๋นกัน ไม่ว่าจะเป็นจอกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Blutooth® และ ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพง 4 ตำแหน่งพร้อมทวีตเตอร์ หน้าจอแสดงผลขับขี่แบบ LCD และในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ให้เพิ่มมาพิเศษเฉพาะรุ่นคือ ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า SRS, ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง SRS และ กล้องมองหลัง รุ่น: Suzuki Swift GLX ราคาเริ่มต้น: 637,000 บาท ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี: Speedy Blue Metallic / Ablaze Red Pearl / Pure White Pearl / Mineral Gray Metallic / Star Silver Metallic / Super Black Pearl เครดิตภาพปก/ภาพประกอบ ภาพปก: Canva: Pexels ภาพประกอบ: Toyota Motor Thailand / Honda Thailand / Mazda Thailand Official / MG Thailand / Suzuki Motor Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !