ธปท.รับกังวลหนี้พุ่ง ภาษีการค้าโลกกระทบ

นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยหลังการบบรรยาย ในโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง ประจำปี 2568 “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้สู่ความยั่งยืน“ ว่า ความคืบหน้าโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 2 ที่เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 - 15 กรกฎาคมปีนี้ มีลูกหนี้มาลงเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 7.3 หมื่นราย ที่จะเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้และลดหนี้ต่อไป  

ทั้งนี้ จากมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการ ธปท.คาดหวังให้คนมียอดหนี้ไม่สูงมากเข้ามาปลดล็อกหนี้ได้ดีขึ้น จะได้ช่วยลดหนี้ในจำนวนรายที่มากขึ้น แต่ในแง่มูลค่าหนี้อาจจะลดลงได้ไม่มากนัก ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ราว 16.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 87.4 ของ GDP ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 88.4 ในไตรมาสก่อน 

แต่มองว่าหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 2 ปีนี้ มีแนวโน้มลดลงได้ เนื่องจากแบงก์ระมัดระวังการปล่อยกู้ บวกกับ GDP ออกมาค่อนข้างดีที่ร้อยละ 2.3 จึงคิดว่าหนี้ครัวเรือนน่าจะลดลงได้จากร้อยละ  87.4 แต่ถ้ามาตรการช่วยดึงคนที่มีหนี้นอกระบบเข้ามาได้มากขึ้น ตัวเลขหนี้จะเพิ่มขึ้นบ้างก็ไม่เป็นไร 

นางสาวสุวรรณี กล่าวยอมรับว่ากังวลต่อระดับหนี้ที่อาจสูงขึ้น ในภาวะที่นโยบายภาษีการค้ากดดันระดับหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ยังต้องติดตามใกล้ชิด เพื่อดูว่าควรมีมาตรการมาดูแลเพิ่มเติมหรือไม่  

ส่วนการดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐนั้น ธปท. ได้มีมาตรการตามแนวทางการให้สินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ ให้ลูกหนี้ที่อาจถูกกระทบจากภาษีทำให้รายได้ลดลง มีปัญหาการชำระหนี้ สามารถเข้าไปขอเจรจาเพื่อปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ได้  

 "ตั้งแต่เปิดลงทะเบียนตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.มาประมาณสัก 15 วัน มีคนลงทะเบียนแล้ว 7.3 หมื่นคน เป็นจำนวนบัญชี 1.4 แสนบัญชี เฉลี่ยลูกหนี้ 1 คนก็จะมีหนี้ประมาณ 2 บัญชี ที่เข้ามาลงทะเบียน ถ้ารวมกับเฟส 1 รวมทั้งหมดแล้วจะมีคนละเบียนแล้วทั้งสิ้นประมาณ 1.4 ล้านราย เป็นบัญชีประมาณเกือบๆ 2 ล้านบัญชี แต่ทั้งนี้ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิ.ย. เพราะว่าข้อมูลเดือนก.ค.ยังไม่มา ซึ่ง สิ้นเดือนมิ.ย.ที่ยังไม่เปิดเฟส 2 มีลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไขที่ลงทะเบียน 1.4 ล้านราย เข้าเงื่อนไขแล้ว 6.5 แสนราย ก็คือ  6.5 คน ยอดหนี้เกือบๆ 5 แสนล้าน หรือ 4.8 แสนล้าน ทั้งนี้ ลูกหนี้ทั้งหมดที่เข้าเงื่อนไขก็ยังต้องเข้าไปติดต่อ คล้ายหลักฐานตามกฎหมาย ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่จะไปทำบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเดิมเพื่อให้ความช่วยเหลือเกิดขึ้นได้จริง"