นายกฯ ลงพื้นที่สระบุรี ยันจะพยายามทำให้ราคาข้าวมีกำไรตันละ 6,000 บาท
นายกฯ ลงพื้นที่สระบุรี ยืนยัน จะเดินหน้าทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว จะพยายามทำให้มีกำไรตันละ 6,000 บาท
วันนี้ (9 ก.พ. 67) เวลา 13.15 น. ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตำบลหนองยาว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี นายc นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาด้านชลประทาน โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระบุรี นายประทีป นิลมูล ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานคลองเพรียวสามขวาพัฒนา และเกษตรกรชาวนาในพื้นที่มารอให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
ภายหลังการรับฟังบรรยายการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา นายกรัฐมนตรีแสดงความพอใจต่อการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน และเชื่อว่ากรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของเกษตรกรชาวนา พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้แสดงความพอใจต่อราคาข้าวที่สูง ยืนยันรัฐบาลจะเดินหน้าหาตลาดข้าวและตลาดสินค้าเกษตรให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวและสินค้าเกษตร โดยนายกฯ ได้กล่าวยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องต้นทุนการทำการเกษตร โดยเฉพาะราคาปุ๋ย และราคาไฟฟ้า สั่งการให้กรมชลประทานศึกษาการใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์เพื่อประหยัดต้นทุนการทำการเกษตร
โอกาสนี้ นายกฯ ได้พบปะกับพี่น้องเกษตรกรที่มาให้การต้อนรับ พร้อมสอบถามเรื่องปัญหาต่าง ๆ โดยมีตัวแทนชาวบ้านได้นำเรียนปัญหากับนายกฯ เรื่อง การทำนาข้าว ขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนให้มีน้ำทำนาข้าว เพื่อจะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ พร้อมกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาที่ดีขึ้น นายกฯ ยืนยันว่า จะเดินหน้าทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว จะพยายามทำให้มีกำไรตันละ 6,000 บาท
ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ หากจ่ายหนี้ไปแล้วเกินครึ่งหนึ่งขอให้หยุดจ่าย ขอประชาชนอย่ากลัวและเป็นกังวล ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องแก้ไขปัญหาหนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ฝากให้เกษตรกรช่วยกันอย่าเผาตอซังข้าว เพื่อลดมลพิษ ลดฝุ่น PM.2.5
สำหรับภาพรวมการเพาะปลูกข้าวนาปรังในช่วงฤดูแล้ง 2566/67 ทั้งประเทศทำนาปรังไปแล้วกว่า 8.38 ล้าน ไร่ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ 5.63 ล้านไร่ จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานต้องปรับการจัดสรรน้ำเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนพื้นที่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งหลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ รวมทั้งสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้าเป็นหลัก
เสร็จแล้วนายกฯ ได้เดินทางไปตรวจติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองลำสนธิ ณ วัดสิงหาราม ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ต่อไป
ที่มาและภาพจาก รัฐบาล