นายกฯ ถกแผนรับมือน้ำ เน้นสร้างความเข้าใจปชช.
TNN ช่อง16
5 สิงหาคม 2567 ( 10:28 )
24
วันนี้ (5 สิงหาคม 2567) เวลา 09.20 น. ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ชั้น 3 อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำโดยปริมาณน้ำฝนสะสมช่วงฤดูฝนปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมถึง 1 สิงหาคม 2567 มีปริมาณฝน 563.2 มม. สูงกว่าค่าปกติ +74.8 มม. คิดเป็น +15% ส่วนปริมาณฝนคาดการณ์และปริมาณน้ำ ข้อมูลเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 35 แห่ง มีความจุรวม 70,926 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำ 40,163 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57 รับน้ำได้อีก 30,763 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 สำหรับการคาดการณ์น้ำ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 คาดว่าจะมีน้ำกับเก็บ จำนวน 54,930 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 77 ทั้งนี้ เมื่อเทียบปี 2566 มีน้ำกักเก็บอยู่ที่จำนวน 56,386 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 79 โดยคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำปี 2567 จะน้อยกว่าปี 2566 จำนวน 1,456 ล้านลูกบาศก์เมตร นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องน้ำ เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ประเทศไทยต้องเผชิญทุกปี ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำไม่ได้คุณภาพ ซึ่งมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยนายกฯ มอบหมายให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบดูแลเรื่องน้ำ บูรณาการการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดทำแผนงานและโครงการที่สำคัญ และสามารถเร่งรัดดำเนินการได้ภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี ตลอดจนพิจารณาโครงการสำคัญระยะยาว เพื่อให้ “น้ำถึงไร่นา น้ำสะอาดทุกหมู่บ้าน แก้ปัญหาภัยพิบัติด้านน้ำ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกันนี้ นายกฯ ขอให้เน้นการเสริมประสิทธิภาพของโครงการที่มีอยู่เดิม ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงที่สุด พร้อมทั้งพิจารณาก่อสร้างโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำและระบบกระจายน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้การใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยในช่วงฤดูฝนนี้ มอบหมายให้กรมชลประทานและ GISTDA นำเสนอพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนายกฯ กล่าวต่อว่า จากการรับฟังการนำเสนอเรื่องการบริหารจัดการน้ำจากเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ เลขาธิการ สทนช. อธิบดีกรมชลประทาน และ ผอ.GISTDA ได้ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาเรื่องน้ำของประเทศไทย ตลอดจนแผนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาศัยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยนายกฯ มอบนโยบายประเด็นแผน 3 ปี ด้านทรัพยากรน้ำและโครงการสำคัญ ดังนี้1.ให้ สทนช. เร่งรัดการยกร่างแผน 3 ปี ด้านทรัพยากรน้ำและโครงการสำคัญให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนสิงหาคมนี้ในการนี้ ให้ สทนช. รับผิดชอบในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ2.ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สทนช. บูรณาการการดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าว เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้และ 3.ให้ สทนช. ติดตามและกำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำ และปฏิบัติงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัดนายกฯ ฝากให้กรมชลประทานติดตามรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับขอให้เฝ้าดูพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการขุดลอกแม่น้ำสุไหง โก-ลก ไม่ให้ตื้นเขิน ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาดำเนินการ โดยจะมีคณะกรรมการร่วมไทย-มาเลเซียร่วมด้วย นายกฯ ย้ำให้เร่งดำเนินการ เพราะประเทศมาเลเซียและฝั่งไทยได้รับความเดือดร้อน เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาส“ในบริเวณที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ในการกำหนดขอบเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ชัดเจน และขอเน้นย้ำให้บริหารสถานการณ์และแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว มีการสื่อสารกับประชาชนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เข้าถึง และทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” นายกฯ กล่าวที่มาข่าว:TNN