รีเซต

“พิชัย”ประเมินส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 4% ปัจจัยบาทอ่อนสนับสนุน

“พิชัย”ประเมินส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 4% ปัจจัยบาทอ่อนสนับสนุน
ทันหุ้น
12 มีนาคม 2568 ( 12:24 )
15

 

“พิชัย”ประเมินส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 4% ชี้ปัจจัย”บาทอ่อน-ขยายตลาดใหม่”สนับสนุน จับตาสินค้านำเข้าทะลักกระทบภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ แนะผู้ผลิตเร่งปรับตัวหนุนภาคส่งออก

 

#ทันหุ้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเมินว่า การส่งออกของไทยในปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 5% คาดว่า ในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 4% โดยปัจจัยที่จะผลักดันให้การส่งออกขยายตัวได้ในระดับดังกล่าว คือ การขยายตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศใหม่ที่ไม่เคยไป และจะประสานให้การส่งออกมีอุปสรรคน้อยลง

 

“เราต้องมานั่งดูว่า ในเซ็คเตอร์ไหนที่เราไม่เคยไป เราก็จะผลักดัน ขณะเดียวกัน เราจะเข้าไปแก้ไขปัญหาที่ทำให้การส่งออกสะดุด โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศผู้นำเข้า เราก็จะมีการประสานอย่างใกล้ชิดระหว่างการส่งออกของไทยและการนำเข้าของประเทศต่างๆ”

 

นอกจากนี้ ปัจจัยในเรื่องของค่าเงินบาทนั้น เขากล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าย่อมส่งผลดีต่อการส่งออก ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ส่งออกอยากเห็น แต่ในแง่ของผู้ดูแลนั้น ก็อยากให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ ฉะนั้น ถ้าค่าเงินบาทอ่อนแบบมีเสถียรภาพก็จะเป็นผลดี ซึ่งทุกคนก็อยากเห็นภาพเดียวกัน

 

สำหรับดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลงในขณะนี้จะกระทบต่อภาคการส่งออกหรือไม่ เขากล่าวว่า เราได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวแล้ว โดยสาเหตุเป็นเพราะสินค้าที่เข้ามา แล้วส่งออกไปต่างประเทศเลย จึงไม่ผ่านกระบวนการผลิตในประเทศ เราก็มาดูว่า เป็นสินค้าใด มีคุณภาพหรือไม่ เมื่อเข้ามาแล้วกระทบต่อการผลิตในประเทศให้น้อยลงหรือไม่ ก็จะไปดูเรื่องนี้เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิตในประเทศ

 

ขณะเดียวกัน ในแง่การเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ ต้องมาดูว่า การผลิตที่น้อยลงเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมหรือไม่ หรือ อยู่ระหว่างการปรับตัวอย่างไร ถ้าการผลิตดีขึ้นแล้วก็จะส่งผลต่อการส่งออก เชื่อว่า ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง

 

เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลพยายามเรียกความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งการเรียกความเชื่อมั่นจะต้องดูในสิ่งที่เราได้ดำเนินการไปว่า มีอะไรที่สำเร็จเป็นขั้นเป็นตอน โดยเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นปัจจัยที่จะเรียกความเชื่อมั่น โดยจีดีพี 2ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา จีดีพีขยายตัวที่ 3% กับ 3.2%ส่วนปีนี้ ก็จะพยายามผลักดันให้จีดีพีเติบโตที่ 3.5%โดยการลงทุนใหม่และการจ้างงานจะเป็นตัวผลักดัน

 

“อาจเป็นความโชคดีที่เกิดปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ไทยเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน ดังนั้น ก็เป็นจังหวะที่เราจะเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในไทย เราก็บอกได้ว่า เรามีนโยบายอะไร ขับเคลื่อนด้วยอะไร เพื่อให้การลงทุนประสบความสำเร็จ”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง