บล.เมย์แบงก์ แนะขาย "BH" รับผลดีท่องเที่ยวฟื้น แต่ราคาต็มมูลค่า

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH คงคำแนะนำ “ขาย” คงราคาเป้าหมายที่ 187 บาท คาดกำไรหลักไตรมาส 4/65 จะลดลง -1% QoQ แต่สูงขึ้น 144% YoY โดยกำไรหลักที่ลดลง QoQ อาจเกิดจากฤดูกาลและขาดรายได้จากโควิด ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ในไตรมาส 3/65 

โดยปกติแล้ว ไตรมาสที่ 3 มักจะเป็นช่วง High Season เนื่องจากมีผู้คนเจ็บป่วยในช่วงฤดูฝน ในแง่ของรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศ ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% QoQ และ 99% YoY (เป็น 3.8 พันล้านบาท) ขณะที่ผู้ป่วยในประเทศอาจลดลง 17% QoQ และ 20% YoY (เป็น 1.55 พันล้านบาท) เนื่องจากฤดูกาล มองว่าตลาดน่าจะตอบรับเชิงลบต่อกำไรที่อ่อนตัว QoQ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับฐานได้

คาดอุปสงค์ที่คั่งค้างหมดสิ้น Q2/66

ประมาณ 2 ใน 3 ของรายได้ของ BH มาจากผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งสัดส่วนรายได้ลดลงเหลือ 42% ในช่วงโควิดในไตรมาส 3/64 อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/65 ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จะสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดในไตรมาส 4/62 ที่ 14% เราประเมินกำไรหลักในไตรมาส 4/65 อาจสูงกว่าช่วงก่อนโควิด (Q4/62) ถึง 67% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการพักรักษาตัวของผู้ป่วยต่างชาติที่บินเข้ามารับการรักษาหลังจากโควิดสงบลง เราเชื่อว่าอุปสงค์ที่คั่งค้างอาจลดลงอย่างมากภายในสิ้นไตรมาส 2/66

การเติบโตอาจชะลอลงในระยะยาว

BH มีโรงพยาบาลเพียงแห่งเดียวในใจกลางกรุงเทพฯ เนื่องจากมุ่งเน้นที่คุณภาพสูง จึงไม่ต้องการขยายธุรกิจเกินขีดความสามารถในการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่เป็นเลิศ ขณะที่เรามองว่ามาตรฐานระดับมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมนั้นถือว่าน่าชื่นชม แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าประเด็นนี้น่าจะจำกัดการเติบโตของรายได้และกำไรหลักในระยะยาว

อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น แต่หุ้นเต็มมูลค่าแล้ว

ฝ่ายวิจัยใช้วิธี DCF, WACC 5.69% และการเติบโต 2% ในการประเมินมูลค่าหุ้น BH เชื่อว่าจะรับอานิสงส์หลักจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ แต่หุ้นซื้อขายที่มูลค่า P/E ปี 66 ที่สูงถึง 43.1 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากกำไรที่ลดลง แถมราคาหุ้นก็สะท้อนปัจจัยนี้ไปแล้ว อัพไซด์ที่สำคัญคือ หลัง 1H66 เป็นต้นไป ผู้ป่วยต่างชาติยังคงฟื้นตัวต่อ