หลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ทุกคนได้เรียนกันในห้องเรียนชั้นประถมอันแรกๆ คือรูปของคำนาม ซึ่งมีอยู่สองรูป ได้แก่ "รูปพหูพจน์" หรือ "plural" และ "รูปเอกพจน์" หรือ "singular" การใช้คำนามในภาษาอังกฤษต้องคำนึงเรื่องจำนวนเป็นหลักเพราะต้องนำคำนามมาใช้เป็นประธานของประโยคและเป็นตัวที่จะกำหนดรูปกริยาที่ตามมาต่อไป คำนาม "รูปพหูพจน์" หรือ "plural" คือรูปคำนามที่หมายถึงจำนวนที่มากกว่า 1 โดยจะต้องเติม 's' หรือ 'es' ไว้ท้ายคำนาม โดยหลักการเติม 's' หรือ 'es' ต้องที่อักษรที่ลงท้าย คำส่วนใหญ่ต้องเติม 's' ส่วนการเติม 'es' มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1) คำที่ลงท้ายด้วยเสียงมีลม ได้แก่ 'ch', 'sh', 's', 'x', 'z' เช่น "matches" แปลว่า "ไม้ขีดไฟหลายอัน", "dishes" แปลว่า "ชามหลายใบ", "classes" แปลว่า "ชั้นเรียนหลายห้อง", "foxes" แปลว่า "หมาป่าหลายตัว", "quizes" แปลว่า "ข้อสอบหลายชุด" เป็นต้น2) คำที่ลงท้ายด้วย 'o' แต่ไม่ใช่ทุกคำที่ลงท้ายด้วย 'o' โดยเฉพาะคำที่มีสระนำหน้าตัว 'o' ตัวสุดท้าย หรือบางทีอาจจะใช้ได้ทั้งสองรูป เช่น "zoos" แปลว่า "สวนสัตว์หลายแห่ง", "potatoes" แปลว่า "มันฝรั่งหลายลูก", "potatoes" แปลว่า "มันฝรั่งหลายลูก", "mosquitoes" แปลว่า "มันฝรั่งหลายลูก", "heroes" แปลว่า "วีรบุรษหลายคน", "avocados" แปลว่า "อโวคโดหลายลูก", "tomatoes" แปลว่า "มะเขือเทศหลายลูก", "studios" แปลว่า "ห้องหลายห้อง", "echoes" แปลว่า "เสียงสะท้อนหลายเสียง", "zeros" แปลว่า "เลขศูนย์หลายตัว" เป็นต้น3) คำที่ลงท้ายด้วย 'y' แล้วหน้า 'y' เป็นพยัญชนะต้องเปลี่ยน 'y' เป็น 'ies' เช่น "flies" แปลว่า "แมลงวันหลายตัว", "activities" แปลว่า "กิจกรรมหลายอย่าง", "daisies" แปลว่า "ดอกเดซี่หลายดอก", "berries" แปลว่า "ลูกเบอร์รีหลายผล" เป็นต้น4) คำที่ลงท้ายด้วย 'f' หรือ 'fe' แต่ไม่ใช่ทุกคำ หรือบางทีอาจจะใช้ได้ทั้งสองรูป ต้องเปลี่ยน 'f' หรือ 'fe' เป็น 'ves' เช่น "scarves" แปลว่า "ผ้าพันคอหลายผืน", "halves" แปลว่า "ครึ่งหนึ่งหลายส่วน", "knives" แปลว่า "มีดหลายด้าม" เป็นต้นนอกจากการเติม 's' หรือ 'es' การทำคำนามเป็นรูปพหูพจน์ยังมีกรณีพิเศษอื่นๆ ได้แก่ การเปลี่ยนตัวสะกด ยกตัวอย่างเช่น"person" เปลี่ยนเป็น "people" แปลว่า "คนหลายคน""child" เปลี่ยนเป็น "children" แปลว่า "เด็กหลายคน""mouse" เปลี่ยนเป็น "mice" แปลว่า "หนูหลายตัว""tooth" เปลี่ยนเป็น "teeth" แปลว่า "ฟันหลายซี่""foot" เปลี่ยนเป็น "feet" แปลว่า "เท้าหลายข้าง""man" เปลี่ยนเป็น "men" แปลว่า "ผู้ชายหลายคน""woman" เปลี่ยนเป็น "women" แปลว่า "ผู้หญิงหลายคน"หรือ คงรูปเดิม ยกตัวอย่างเช่น "series" แปลว่า "หลายตอน", "fish" แปลว่า "ปลาหลายตัว", "species" แปลว่า "หลายสายพันธุ์" เมื่อเข้าใจแล้วลองมาทำแบบฝึกหัดดูนะคะ1) man เปลี่ยนเป็น "_____"2) child เปลี่ยนเป็น "_____"3) knife เปลี่ยนเป็น "_____"4) watch เปลี่ยนเป็น "_____"5) dog เปลี่ยนเป็น "_____" เฉลย: 1) men, 2) children, 3) knives, 4) watches, 5) dogsเขียนโดยครูด้วงอิงลิชภาพประกอบจาก canva.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !