ย่างเข้าสู่ปี พ.ศ. 2563 นับเป็นปีที่ประเทศไทยเราต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากฝุ่น PM 2.5 หรือปัญหาจากโรคระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่รุนแรงไม่แพ้กันนั่นก็คือปัญหา “ภัยแล้ง” ล่าสุดปัญหาภัยแล้งได้เข้ามาเล่นงานถึงที่บ้านของผู้เขียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ วันนี้ผู้เขียนเลยอยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์การต่อสู้กับปัญหาภัยแล้งของผู้เขียนเองปัจจุบันผู้เขียนอาศัยอยู่จังหวัดสกลนครโดยใช้น้ำประปาของหมู่บ้านเป็นหลัก ปัญหามีอยู่ว่าน้ำประปาหมู่บ้านจากเมื่อก่อนไหลปกติดีแต่พอเข้าสู่ปีนี้ ทางหมู่บ้านมีการปล่อยน้ำเพียงวันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้นคือช่วงเช้า 1 ชั่วโมงและช่วงเย็นอีก 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำไม่เพียงพอต่อในการใช้งานภายในครอบครัว จำเป็นต้องมองหาแหล่งน้ำอื่นมาทดแทน ซึ่งบังเอิญมองไปเห็นน้ำบาดาลเก่าอยู่หลังบ้านพอดีจึงลองไปใช้มือโยค ๆ ดูมีน้ำไหลออกมาใสสะอาดน่าใช้มาก ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เขียนเองได้ทิ้งร้างไปเมื่อสักประมาณสามปีที่แล้วหลังจากที่หมู่บ้านมีน้ำประปาให้ใช้ จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่าเราน่าจะซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติมาต่อกับน้ำบาดาลอันเก่าก็น่าจะใช้ได้แล้ว ผู้เขียนลงทุนซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติราคาเกือบ 5000 บาท เพื่อมาต่อกับน้ำบาดาลอันเก่าหลังบ้าน ผลปรากฏว่าน้ำไม่ขึ้นครับ โอ้พระเจ้าจอร์จ! เราจะทำยังไงดี จึงกลับไปย้อนอ่านคู่มือของปั๊มน้ำอัตโนมัติซึ่งเขียนว่าสามารถดูดน้ำได้ที่ความลึก 7 เมตร แต่ทว่าน้ำบาดาลที่บ้านเราลึกถึง 12 เมตร เลยคิดว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปั๊มน้ำไม่สามารถดูดน้ำบาดาลขึ้นมาได้ผู้เขียนตัดสินใจซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติมาใหม่อีกหนึ่งตัวโดยเพิ่มความแรงจาก 100 วัตต์ เป็น 370 วัตต์ คราวนี้มั่นใจแล้วว่าน้ำบาดาลจะต้องขึ้นมาอย่างแน่นอน มาถึงนาทีที่ต้องลุ้นผลกัน ปรากฏว่าน้ำไม่ขึ้นอีกแล้วครับ คราวนี้ต้องกุมขมับแล้วละครับ ลงทุนซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติมาสองตัวแต่ไม่สามารถดูดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้สักตัวจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนใหม่ เหลือบมองไปเห็นปั๊มน้ำตัวเก่าที่เราใช้เมื่อสมัยก่อนที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ปั๊มชัก” จึงไปลองเสียบปลั๊กดูปรากฏว่าไดนาโมยังใช้งานได้ดีอยู่ ผู้เขียนจึงไปซื้ออุปกรณ์มาต่อกับไดนาโมตัวเดิมเพื่อให้ใช้งานได้อีกครั้ง ซึ่งโดยปกติคุณสมบัติของปั๊มชักนั้นจะสามารถดูดน้ำได้ที่ความลึกมากกว่า 30 เมตร คราวนี้จึงมั่นใจสุด ๆ คิดว่ายังไง ๆ น้ำบาดาลก็ต้องขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่แล้วผู้เขียนก็ต้องผิดหวังอีกเป็นครั้งที่สามครับ น้ำยังคงไม่ขึ้นเหมือนเดิม เอาไงดีละทีนี้ หมดเงินซื้อเครื่องปั๊มน้ำไปสามเครื่องแต่ยังไม่สามารถดูดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้งานได้จนสุดท้ายต้องยอมตัดใจกลับไปง้อน้ำประปาหมู่บ้านอีกครั้ง โดยคราวนี้อาศัยการเก็บน้ำไว้ในถังเก็บน้ำขนาดใหญ่แล้วจากนั้นค่อยใช้ปั๊มอัตโนมัติดูดน้ำต่อเข้าภายในตัวบ้าน เมื่อเปิดก๊อกน้ำน้ำก็จะไหลทันทีไม่ใช่ไหลแค่วันละ 2 ชั่วโมงเหมือนเมื่อก่อนกับปัญหาเรื่องของน้ำประปาในครั้งนี้ทำให้ผู้เขียนได้ประสบการณ์หลายอย่างเลยนะครับ การคิดที่จะเลือกใช้น้ำบาดาลนั้นต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องหมู ๆ หากเมื่อเราได้ทิ้งร้างไว้เมื่อหลายปีแล้วนั้น การที่เราจะกลับมาใช้งานใหม่ในทันทีน้ำอาจจะดูดไม่ขึ้น ผลคือปั๊มน้ำอัตโนมัติใช้งานได้ดีเพียงแต่ว่าตาน้ำด้านล่างของน้ำบาดาลอาจจะอุดตันไปแล้วทำให้ไม่สามารถดูดน้ำขึ้นมาได้ หากเราต้องการที่จะใช้น้ำบาดาลจริง ๆ แล้วนั้น จำเป็นจะต้องให้ช่างน้ำบาดาลมาทำการเป่าเศษหินเศษทรายที่อุดตันอยู่ด้านล่างออกเสียก่อนถึงจะใช้งานได้ครับ สรุปว่าจริง ๆ แล้วน้ำบาดาลถือว่าเป็นน้ำที่มั่นคงกว่าสะอาดกว่าน่าใช้งานมากกว่าน้ำประปา แต่ต้องให้ช่างมาตรวจสอบก่อนเพื่อความชัวร์ ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงของผู้เขียนเหมือนกันนะครับ จึงอยากนำเอาเรื่องราวมาฝากเพื่อน ๆ นักอ่าน เผื่อว่าใครที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันนี้อยู่ และกำลังตัดสินใจว่าจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำภายในบ้านอย่างไรดี หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับจะได้มีน้ำไว้ใช้กันอย่างสบายใจเครดิตภาพโดยผู้เขียน “แอมมี่คุง”