ในสมัยนี้เวลาจะเดินทางไปในสถานที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งก็ต้องใช้รถยนต์กันแต่อย่าลืมดูแลเครื่องยนต์ภายในที่อยู่ใต้ฝากระโปรงรถด้วย เนื่องจากอุปกรณ์นั้นที่จะพูดถึงในบทความนี้คือ วาล์วน้ำ หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เทอร์โมสตัท ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำและใช้อุณหภูมิเป็นตัวกำหนดการเปิด-ปิดการไหลของน้ำและรักษาอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ให้มีความร้อนคงที่ ซึ่งรถยนต์แต่ละค่ายก็จะออกแบบแตกต่างกันไป มีหน่วยเป็น องศาเซลเซียส แสดงลักษณะของวาล์วน้ำรถยนต์ดังรูปขอบคุณภาพจาก : https://www.sanook.com/auto/60485/การทำงานของวาล์วน้ำ เมื่อเครื่องยนต์เย็นอยู่วาล์วน้ำจะอยู่ในสถานะปิดแต่เมื่อไหร่เครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิจุดที่วาล์วน้ำเปิดก็จะปล่อยน้ำให้ไหลผ่านเพื่อให้น้ำร้อนที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ออกไปสู่หม้อน้ำหน้าเครื่องเพื่อระบายความร้อนให้เย็น ส่วนน้ำหม้อน้ำก่อนหน้านี้คือน้ำเย็นได้ผ่านการระบายความร้อนแล้วก็จะไหลเข้าไปแทนที่ เพื่อระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ต่อไป แสดงการจำลองของวาล์วน้ำโดยการต้มน้ำในหม้อ คือ เมื่อน้ำร้อนถึงจุดวาล์วจะทำการเปิดทำการดังรูปขอบคุณภาพจาก : Thaimechanic.com แหล่งรวมเทคนิคของช่างไทยขอบคุณภาพจาก: เจ ออโต้แก๊ส เมื่อใช้รถยนต์ไปนานๆอาจมีตะกรัน หรือ เศษสนิมไปเกาะสปริงวาล์วน้ำทำให้เมื่อถึงอุณหภูมที่กำหนดไม่สามารถเปิดวาล์วน้ำได้จะส่งผลให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่าปกติจนเป็นเหตุให้เครื่องยนต์เสียหายได้ โดยเฉพาะการขับในเมืองซึ่งรถติดมาก ๆ ทำให้ความร้อนเครื่องยนต์ขึ้นสูงมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับการขับรถนอกเมืองซึ่งอุณหภูมิแตกต่างกันสิ้นเชิง ทิ้งท้ายเล็กน้อย วาล์วน้ำเสียมี 2 ลักษณะ คือ เสียในลักษณะวาล์วปิด (งานเข้าแต่มีวิธีแก้ไข) และ เสียในลักษณะวาล์วเปิด (ยังโชคดี) -ถ้าเสียในลักษณะวาล์วปิด แก้ไขเบื้องต้นคือ จอดรถข้างทางดูสถานที่ปลอดภัยรอให้เครื่องยนต์เย็น ๆ และเปิดที่ฝาหม้อน้ำเพื่อระบายแรงดันน้ำในห้องหม้อน้ำ (ระวังน้ำจะพุงออกมาโดนร่างกายควรรอให้เย็นและน้ำผ้ามาช่วยในการเปิดฝาหม้อน้ำนะครับ) จัดการกับวาล์วน้ำโดยการถอดออกจากระบบโดยการใช้เครื่องมือถอด หลังจากนั้นประกอบเข้าที่เดิมแล้วใส่น้ำให้เต็มระบบพร้อมติดเครื่องเพื่อไล่อากาศออกให้เต็มระบบ แต่ที่สำคัญเราต้องดูก่อนว่า 1. มีอุปกรณ์หรือไม่ 2. มีน้ำเพียงพอสำหรับการเติมหม้อน้ำหรือไม่ -ถ้าเสียในลักษณะวาล์วเปิดก็จะถือว่าโชคดี และรถยนต์ยังสามารถวิ่งได้ต่อไป แต่จะรู้ว่าทำไมเครื่องยนต์ร้อนช้ากว่าเดิม (ควรจะเปลี่ยนนะครับ)***แต่ถ้าถอดเปลี่ยนวาล์วน้ำแล้วเราควรที่จะดูทั้งระบบ เช่น พัดลม , หม้อน้ำ , วาล์วน้ำ , ปั้มน้ำ , ท่อทางน้ำต่าง ๆ ว่ามีอะไรมีอะไรผิดปกติหรือไม่***จากประสบการณ์โดยตรง (ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ)